วันศุกร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2559

[ภาพยนตร์] BATMAN V SUPERMAN - DAWN OF JUSTICE : เอพิครีบูทจักรวาลดีซี ที่ก็พอใช้ได้ ไปดูของแถมด้านท้ายกันดีกว่า (เอ๊ะ)



โอเคสำหรับเหตุผลที่ BATMAN ต้องมาฉะกับ SUPERMAN นะครับ

ว่าไปสิ่งที่แปร่งลำดับแรกของตอนต่อกลายๆจาก MAN OF STEEL นี้ (พอรู้สึกว่า เออเนอะ BATMAN ของโนแลนถูกตัดไปจากสารบบแล้วก็รู้สึกแปลกๆอยู่ดีเล็กน้อย ถึงปานกลาง) ก็คือว่าเหมือนมันดันเลือกเล่าอะไรๆแบบแก้ตัวจากอะไรแปร่งๆใน MAN OF STEEL ไปซะ ซึ่งเป็นสิ่งนึงที่ทำให้ตอนดู MAN OF STEEL นั้นไม่อินเอาเลยแถมส่ายหัวหน่อยๆอีกตะหาก ทั้งที่ตัวหนังรวมๆก็พอใช่ได้แหละ ยังดีว่ามี เอมี่ อดัมส์ ช่วยไว้ ทั้งที่พระเอกก็มาดดี ใส่ชุดพี่ซุปก็ดูดี รัสเซล โครว์ เป็นปะป๋าพี่ซุปก็พอไหว ดีไซน์ดาวคริปตันกับอะไรๆในยานก็โอเคให้ความรู้สึกแตกต่างไปจากอะไรล้ำๆโลหะๆแววๆได้พอโอเค แม้จะรู้สึกว่ามันทำให้นึกถึงเอเลี่ยนอยู่ตะหงิดๆ (แต่ก็เอาน่ะ เขาก็ไปเล่าตำนานกันต่อไปใหม่ใน PROMETHEUS ไปแล้ว ดีไซน์ก็พยายามจะปรับเปลี่ยนไปบ้าง) ไดแอน เลน กับ เควิน คอสเนอร์ เป็นพ่อแม่ชาวมนุษย์ของพี่ซุปก็พอโอเค ดราม่าในเรื่องก็พอโอเค(แต่จำไม่ค่อยได้แล้ว...) แอ็คชั่นก็โอเค ซัดกันยังกะดราก้อนบอลฉบับภาพเรียลๆ ตูมตามดีเหมือนกัน แต่ ที่ไม่โอเคคือตอนจบนี่แหละ คือ (อาจสปอยล์นะถ้ายังมีคนไม่ได้ดู MAN OF STEEL) แบบไม่สามารถขยี้อารมณ์เราได้เลย ทั้งที่มันดูพยายามจะขยี้มาก เออ...พูดอีกแบบคือมันขยี้อารมณ์ตรูไปหมดเลย คือ ถ้าพี่จะห่วงชีวิตมนุษย์ขนาดนี้นี่... แล้ว...ไอที่ซัดกันตูมๆ ตึกถล่มแล้วถล่มอีกเละเทะไปหมดก่อนหน้าจะมาถึงตอนนี้นี่... มันคืออะไรกันครับ?... เลย...จบเลย ฉากแอ็คชั่นจะตูมตามขนาดไหน มันสามารถสร้างคอนฟลิกอันยิ่งใหญ่มาถมตรงนี้ได้หมดเลย (เว่อ...) ไม่อินอ่ะ ไคลแม็กซ์... ทิ้งความงุนงงให้ผมออกจากโรงไปเลยครับ ยังดีว่ามี เอมี่ อดัมส์ ช่วยไว้ (พูดซ้ำกันดื้อๆ)  หรือจะว่าเขายังไม่ชินกับอะไรๆแบบมนุษย์โลก เช่น ตึกถล่มแค่นี้ไม่มีใครเป็นอะไรหรอก แค่นี้เอง... มันก็... ไม่น่าใช่นะ...

จริงๆถ้าว่ากันแบบทั่วๆหน่อย หนังซูเปอร์ฮีโร่ (หรือหนังหายนะทั้งหลาย) ก็ต้องมีหลุดฉากแบบนี้มาบ้างนั่นแหละ โดยเฉพาะที่มีอิทธิฤทธิ์รุนแรงเท่าไหร่ โอกาสที่จะมีฉากถล่มเมืองก็มีมากไปด้วย ซึ่ง...จะว่าแปลกก็ไม่เชิง ว่าถ้าเป็นหนังหายนะ หรือฉากหายนะหรือตัวร้ายเริ่มมาถล่มในหนังซูเปอร์ฮีโร่ก็ตาม ฉากเหล่านี้จะไม่ค่อยถูกหลีกเลี่ยง แต่พอเป็นฉากการฟาดฟันของซูเปอร์ฮีโร่เข้าล่ะก็ บางเรื่องก็จะทำเป็นเหมือนลืมๆเรื่องพวกนี้ไปดื้อๆ ราวกับว่าตรงที่เขาซัดกันพอดีมันเป็นวันหยุดยาวเลยไม่มีใครมาทำงานในตึกที่เขาซัดนัวกันถล่มเละเทะนั่นเลย อะไรแบบนี้ อารมณ์คล้ายๆกับว่าหนังฮีโร่กู้โลกเรต PG-13 ถ้ามันจะมากู้โลกด้วยถล่มโลกเองไปด้วย มันจะเกิดความย้อนแย้งในทฤษฎีเวลาอวกาศได้ จะสอนอะไรก็ลำบาก (? - อำนาจอันยิ่งใหญ่มาพร้อมความรับผิดชอบอันใหญ่ยิ่ง - ?) มันก็เลยต้องมีบ้างที่หยวนๆกันไป เช่น ใน AVENGERS ภาค ULTRON อีฉากที่มันส์ที่สุดคือฉากฮัลค์ปะทะไอออนแมนออฟชั่นฮัลค์บัสเตอร์นั่นก็ใช่ แต่เอาจริงๆ ถ้าจะห่วงกันทุกเม็ดประมาณว่าโดนเหวี่ยงจะกระแทกตึกแล้ว ฮีโร่ต้องเร่งพลังทั้งมวลหยุดตัวเองก่อนกระแทกตึกไว้ก่อนฉิวเฉียดทุกครั้ง หรือจะเหวี่ยงศัตรูทีพอพลาดไปทางตึกก็ต้องไปพุ่งชนมันเปลี่ยนทิศทางไว้ตลอด เดี๋ยวมันก็จะกลายเป็นตลกไปแทนอีก (ทั้งๆที่อาจเปลือง(ค่าทำ)เอ็ฟเฟ็คท์น้อยกว่าก็ได้) เฮ้อ...ลำบาก

คือมันก็ไม่ใช่จะเล่าไม่ได้นะครับ บางเรื่องก็เอาจุดนี้เป็นแกนมาเล่าไปเลย แต่ก็ต้องทำเรื่องราวความต่อเนื่องรองรับไว้ให้มันพอดีๆ ไปแทน แต่พอ MAN OF STEEL มาอีท่านี้นี่ คือยิ่งตอนจบตั้งใจจะมาบิ๊วด์กันเรื่องนี้ สำหรับผม ก็เลย...ไม่ได้อ่ะ...

แล้วนี่มันจะมากลายเป็นรีวิว MAN OF STEEL ไปแทนหรืออย่างไร? ก็พอหยวนๆนะ เพราะจริงๆอหังการโปรเจ็คท์ BATMAN V SUPERMAN : DAWN OF JUSTICE นี่เอาจริงๆก็เหมือนภาคต่อ MAN OF STEEL มารีบู๊ทจักรวาลซูเปอร์ฮีโร่ค่ายดีซีของวอร์เนอร์ (แถมต้องจำใจ(? แหละ)ตัดความข้องเกี่ยวกับ BATMAN ของ คริสโตเฟอร์ โนแลน ไปเฉยเลย - แต่อันนั้นของพี่แกก็วางไว้นั่นแหละ อาจจะดีแล้วก็ได้) แหละ ซึ่งไอเดียนี้ก็โอเคนะ ผมให้คะแนนๆ

เพราะงั้นต่อไปเรามาเข้าเรื่อง DAWN OF JUSTICE กันละนะครับ