วันอังคารที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2559

สองหนังใต้ชายคา DISNEY : AVENGERS - AGE OF ULTRON และ TOMORROWLAND

ฉายกันไปตั้งแต่ครึ่งปีที่แล้วโน่นทั้งคู่ แต่เอามาพูดถึงตอนนี้ เพราะ ติดไว้ว่าอยากพูด แต่ขี้เกียจเขียนแยกแล้ว พูดสั้นๆไปเลยละกัน

เรื่องแรก
AVENGERS : AGE OF ULTRON  อเวนเจอร์ส: มหาศึกอัลตรอนถล่มโลก
อัลตรอนเจ้าเอย...




ความจริงการที่หนังเรื่องนี้มีตัวละครที่ก็เยอะอยู่แล้ว แถมภาคนี้ก็มีตัวละครเยอะขึ้นไปอีก น่าจะดูเป็นอันตรายต่อจุดเด่นของภาคที่แล้วประการหนึ่ง ค่าที่แม้ตัวละครจะเยอะ มารวมกันจากแฟรนส์ไชน์ของใครของมันที่ปูไว้ดิบดี เมื่อมารวมกันบู๊ในหนังเรื่องเดียว (พร้อมมีตัวละครเพิ่มมาอีก) ผู้กำกับพ่วงเขียนบท จอส วีดอน ก็ยังดูเหมือนจะเข้าใจความสำคัญของแต่ละตัวละครที่มารวมกันดี จนสามารถแบ่งสรรปันส่วนช่วงเวลาและบทให้กับทุกตัวละครได้อย่างไม่มีใครน้อยหน้าใครและกลมกล่อม จนทำให้หนังออกมามันส์และฮิตระเบิดกันไป ตั้งแต่ก่อนมาอยู่ใต้ชายคา DISNEY

และภาคนี้เมื่อทุกท่านมารวมกันอีกครั้ง ทั้งยังมีตัวละครหน้าใหม่เพิ่มเข้ามาอีกก็ดูเหมือนว่าการรวมกันและแบ่งสรรปันส่วนช่วงเวลาของแต่ละตัวละครจะไม่ง่ายซะแล้ว หนังจะพร้อมรับความคาดหวังของผู้ชมและปราสาทมิกกี้ได้หรือไม่ ??!!!



แต่ความจริงหลังจากดูผมก็ยังคิดว่าผู้กำกับคนเดิมที่ก็ยังเขียนบทอีกอย่าง จอส วีดอน ยังคงจัดการในส่วนนี้ได้ดีนะครับ มันอาจดูไม่กลมกลืนหรือกลมกล่อมเท่าภาคแรก แต่ก็ยังทำได้ดีอยู่มากในความคิดของผม (แม้ว่าตัวละครใหม่อย่าง วิชั่น จะดูแปลกๆอยู่บ้าง (นึกถึงซูเปอร์แมนนิดหน่อย แต่ๆจริงๆเราก็เจอฮีโร่ลุคประหลาดๆกันไปพอควรแล้ว น่าจะเลิกแปลกได้แล้ว พอดีว่าไม่ใช่แฟนรึติดตามคอมมิคด้วยนะ))

ส่วนที่เป็นปัญหาจริงๆสำหรับผมก็คือ ตัวร้ายอย่างอัลตรอน เจ้าของชื่อภาคนี่แหละ จริงๆแนวคิดในการกำเนิดอัลตรอนนั้นน่าสนใจอยู่มาก ทั้งสร้างปมขัดแย้งในเรื่องได้ดี ทำให้เนื้อเรื่องในภาคนี้น่าสนใจดีตั้งแต่เริ่มๆเลย และการที่มีอัลตรอนในภาคนี้ก็ช่วยเติมความน่าสนใจที่อัลตรอนดูจะเป็นตัวร้ายที่เป็นตัวเป็นตนกว่าภัยคุกคามในภาคแรก (ที่จริงๆจะว่าไปตัวร้ายจริงๆก็คือพ่อยอดขมองอิ่มโลกิต่างหาก ที่ถือเป็นเสน่ห์ในภาคแรกด้วย) และในตัวอย่างหนังก็เป็นส่วนที่ดึงความน่าสนใจได้เอาการเลย

ค่าที่ว่าอัลตรอนนั้นดูร้ายได้ใจดีเหลือเกิน

แต่...พอดูในหนังเข้าจริงๆในช่วงไคลแม็กซ์กลับรู้สึกว่าเราไม่รู้สึกถึงความร้ายกาจของอัลตรอนได้เท่าในตัวอย่างหนัง แม้จะมีเรื่องราวพลิกผันในช่วงท้ายเยอะ และมีตัวละครเมพๆอย่าง วิชั่น แต่ความทำไมดูไม่ค่อยร้ายของอัลตรอนเท่าที่คิด (แม้จะต้องถือว่าร้ายมากอยู่) ก็เลยทำให้ความพีคที่ควรต้องไต่ระดับไปสูงขึ้นๆในช่วงท้ายมีจุดชะงักอยู่หน่อย คือมีฉากใหญ่ซักฉากให้รู้สึกว่าไอนี่มันร้ายมาก แม้จะรุมพร้อมวิชั่นแล้วก็ยังร้ายคอดๆอะไรแบบนี้ซักฉากสองฉากก็พอ พอร้ายไม่ถึง อัลตรอนก็เลยลดระดับเป็นวายร้ายจอมถากถางไปซะงั้น จนเสียดายลุคที่จริงๆสร้างมาเตรียมร้ายได้เท่เอาการอยู่นะ (แต่ก็ไม่รู้เพราะอีลุคแบบนี้ มันเลยแพงไปรึเปล่าเวลาจะทำอะไรที?)

เพราะงั้นกลายเป็นว่าฉากบู๊มันส์ที่สุดสำหรับผมในเรื่องก็เลยกลายไปเป็นฉากไออนแมนในชุดฮัลค์บัสเตอร์ฟัดกับฮัลค์ไปซะงั้น

แต่ ยังไงก็ยังดูสนุกและมันส์นะ จอส วีดอน ยังเฉลี่ยบทได้ดี และเนื้อเรื่องก็ไม่ได้รู้สึกยัดเยียดอะไร เล่าดี สำหรับผมก็เสียคะแนนแค่นั้นแหละ 8.0 คะแนน ถ้วนๆ ไม่ถือว่าผิดหวัง แต่ไม่ถึงใจไปนิดส์

นึกถึง
จริงๆจะลองรอแก้ตัวใน AVENGERS : INFINITY WAR (ที่มี 2 PARTS อีกต่างหาก) ก็ได้ แต่ว่าไป CAPTIAN AMERICA : CIVIL WAR นี่ก็เป็น มินิ AVENGERS ดีๆนี่เอง (ได้ดีไปเลยนะพ่อคัปตัน แต่ว่าไปก็มีลุงไอออนแมนมาแบ่งเค้กอยู่ดีล่ะนะ หุหุ) แต่พอนึกถึงรวมพลเหล่าซูเปอร์ฮีโร่ จริงๆก็อยากดู X-MEN : APOCALYPSE นะ เพราะภาคที่แล้ว DAYS OF FUTURE PAST นี่สนุกและมันส์มาก ถือเป็นการกลับมารีบูตและรวมจักรวาลของแฟรนส์ไชน์ที่ตัวเองให้กำเนิดของผู้กำกับ ไบรอัน ซิงเกอร์ อย่างสวยงาม (แม้จะเจี๋ยนตัวละครใน FIRST CLASS ที่เขาก็รีบูตไว้เสียดิบดีแล้วเสียตายกันเกลื่อนก็ตาม - -) ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่รอดูภาคนึงนะ DISNEY มีหนังกะถล่มซัดคนดูเยอะ(จะชัก)แล้วก็ให้ค่ายอื่นเขาทำมาหากินบ้าง (เหรอ?!) ในกำมือ FOX ก่อนที่...จะกลับไปเป็นของ DISNEY เข้าซักวัน... เพราะงั้นหวังว่าภาคนี้จะไม่เสียยี่ห้อภาคก่อนนะ


เรื่องสอง
TOMORROWLAND ผจญแดนอนาคต
เมื่อได้พบแดนพรุ่งที่เพรียกหา...




และแม้ DISNEY จะซื้อโน่นซื้อนี่มาเสริมขุมพลังที่ก็น่าจะมากอยู่แล้วของตนอีกเยอะแยะ มาเวลคอมมิคเอย ลูคัสฟิล์มเอย แต่ DISNEY ก็ยังไม่หมดไอเดียในการนำเอาสินทรัพย์ที่มีอยู่แล้วมาต่อยอดเพิ่มความมั่งคั่งไปอีก ในครั้งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งการใหญ่ที่เลือกเอาเครื่องเล่นใน DISNEYLAND มาขอแปลงเป็นหนังอีกซักเรื่อง เผื่อตามรอยความสำเร็จของ หนังล้างคำสาปโจรสลัดเรื่องนั้นอย่าง PIRATES OF THE CARIBBEAN (แถมยังอาจเผื่อแผ่ความสำเร็จไปกลบรอยความผิดหวัง(ด้านรายได้)ของหนัง DISNEY อย่าง JOHN CARTER กับ THE LONE RANGER อะไรงี้ได้ แต่เอาจริงๆ...พวกนั้นได้อย่างอื่นมากลบคืนไปหมดแล้วมัง?...) แถมยังได้ผู้กำกับ แบรด เบิร์ด แห่งการ์ตูนสนุกๆอย่าง THE INCREDIBLES ของ PIXAR (ใต้ชายคา DISNEY เหมือนกัลล์) กับหนังสายลับบู๊สนุกๆอย่าง MISSION : IMPOSSIBLE - GHOST PROTOCOL มากำกับอีก ผลลัพธ์จะประสบความสำเร็จสมใจ DISNEY หรือไม่ ??!

ปรากฏว่าไม่สำเร็จแฮะ

ที่ว่าไม่สำเร็จก็เพราะรายได้มันคงน้อยกว่าที่ DISNEY หวังไว้เยอะ ไม่คัฟเวอร์ทุนสร้างว่างั้นเถอะ จริงๆ แล้วหนังเรื่องนี้ก็ไม่ได้ขี้เหร่อะไร ว่าไปรวมๆก็สนุกดีด้วยซ้ำ หลายอย่างก็ดูน่าตื่นตาตื่นใจดี ไอเดียก็น่าสนุกดี แคสติ้งทุกคนก็ดี แม้ จอร์จ คลูนี่ย์ จะไม่ได้มาเสนอไอเดียตัวละครแหวกๆอะไรอย่าง จอห์นนี่ เด็ปป์ เป็น แจ็ค สแปโรว์ แต่ก็เหมาะกับบทดี (ชายวัยกลางคนพร้อมความลับ?) ฉากแอ็คชั่นก็มี แม้จะขึ้นต้นมาด้วยอะไรโลกสวยสั่งสอนกันไปซักหน่อยในความรู้สึกบางคน (แต่ผมเฉยๆ) หรือจะเล่าแบ็คกราวด์ตัวละครสำคัญลากยาวไปนิด

อะไรเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้มันไปไม่ถึงฝั่งฝัน (โดยเฉพาะของ DISNEY) ก็พูดยาก เพราะบางคนอาจชอบบางอย่างไม่ชอบบางอย่างก็ได้ ทั้งๆที่เรื่องราวอย่างเด็กหญิงเก็บเข็มกลัดลึกลับที่ทำให้เธอเห็นแดนวันพรุ่งแห่งอนาคตพร้อมทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ จนเป็นเหตุเริ่มต้นให้เธอพยายามค้นหาเจ้าที่มาของภาพที่เธอเห็นและดินแดนแห่งนี้ว่ามันอยู่ที่ไหนกันแน่ ก็ดูน่าสนใจดี ดูในตัวอย่างหนังก็น่าสนุกดีออก แถมสำหรับผม เริ่มเรื่องโลกสวย รึแบ็คกราวด์ลากยาว ก็ไม่ได้มีผลอะไรนักดูเพลินๆสนุกๆไปได้ ประเด็นโลลิอะไรสำหรับผมก็ไม่มีปัญหาอะไร ไม่ได้ขัดหูขัดตาขัดใจอะไร แถมเนื้อเรื่องที่เหมือนการผจญภัย กับอะไรตำนานๆ วิทยาศาสตร์ๆ ก็น่าสนุกดีออก

ปัญหาของ TOMORROWLAND จริงๆสำหรับผมก็คล้ายๆกับที่รู้สึกกับ AGE OF ULTRON คือ เมื่อถึงเวลาปรากฏโฉมตัวละครสำคัญ มันออกจะฉุดความรู้สึกหรือน่าผิดหวังอยู่ และในที่นี้มันคือการปรากฏโฉมของ TOMORROWLAND เอง... ประมาณว่าที่ได้รู้จักตัวละครสำคัญนี้มาตั้งแต่เริ่มๆเรื่อง (ดูชื่อเรื่องซิ! ว่าใครเป็นพระเอก?!) เห็นนิดเห็นหน่อย คืบไปเรื่อยๆพร้อมตัวละคร พอถึงตอนท้าย เวลาเผยโฉม มันกลับ...ไม่สนองความคาดหวังแฮะ ทั้งๆที่ทำให้เรารอคอยผ่านโน่นนี่ แบ็คกราวด์ลากยาวมาตั้งนาน (อ่าว จริงๆก็ไม่ค่อยพอใจเรอะน่ะ? เฮ้ย ก็เปล่านะ!) ซึ่งจริงๆ การให้ความสำคัญกับตัวละครหลักมันก็ดีแหละ ที่ทำมาก็ไม่ได้จะขัดใจอะไร (เข้าใจไหม?!) แต่พอถึงอะไรที่ผมรู้สึกไปว่าเป็นตัวละครสำคัญอีกตัวอย่าง TOMORROWLAND มันกลับ...ฉุดความรู้สึกให้มันออกจืดๆไปเลยอ่ะ ซึ่ง...จะบอกว่าเลือกเล่าเรื่องแบบนี้ก็ช่วยไม่ได้ แต่ก็...ปล่อยให้ลุ้นสนุกโน่นนี่มาตั้งนาน พอถึงเวลาเอาเข้าจริง...

เอ้า! ก็นั่นเขาต้องการเน้นย้ำความรู้สึกของไอที่เขาออกมาบอกกันตั้งแต่ตอนต้นไง! ไม่เข้าใจเรอะ?!
ก็พอเข้าใจอ่ะ... แต่มันก็เลยจืดไง...
(จริงๆ มันก็ส่งแมสเซจที่ต้องการจะบอกได้ผ่านวิธีนี้อิมแพ็คท์อยู่นะ แต่ก็แหม สนุกกันมาตั้งนาน ไปเล่นเครื่องเล่นจริงๆใน DISNEYLAND ก็เปลืองไฟน่าจะเยอะ นั่งเครื่องบินไปก็เปลืองพลังงานอีก ฯลฯ ถ่ายหนังเรื่องนี้ก็หมดทรัพยากรไปน่าจะเยอะอยู่ แล้ว..จะเอายังไงหือ? นี่มาหาเรื่องตอนท้ายซะงั้น...)

ก็เลย...เสียดายตรงนี้ ที่เหลือองค์ประกอบทั่วๆไปก็สนุกดีอยู่นะ ยาวไปนิดไม่ว่า แคสติ้งก็ดี (ส่วนแมสเซจที่เขาบอก ดันไม่ค่อยสน ทำไม? ให้ไปอ่านย่อหน้าบนเอาละกัน) แต่พอเผยโฉมตัวละครสำคัญออกมา... จืดเลย คะแนนก็เลยเป็น 7.3 คะแนน ครึ่งๆกลางๆประมาณนี้แหละครับ... แต่ก็ยังคิดว่ารวมๆหนังก็ดูสนุกอยู่นะ


 นึกถึง
ถึงจุดหนึ่งในตอนดูๆหนังเรื่องนี้อยากไปขุด NATIONAL TREASURE หนังนักล่าสมบัติตำนานเมืองทั้ง 2 ภาค ที่ นิโคลาส เคจ เล่น หนังดูสนุกดี ผจญภัยๆ เอาบันเทิง อ่าว นั่นก็หนัง DISNEY อีกแล้วนี่ฝ่า ทำไปทำมา(สงสัยว่าน่า)จะมีภาคต่อมาอีก แต่ก็ไม่ขัดนะ ถ้าดูสนุก...







กับอีกเรื่องที่ไม่รู้ทำไมนึกถึง คือ RETURN TO OZ เป็นเหมือนตอนต่อของเรื่องราวใน THE WIZARD OF OZ ที่วิกเตอร์ เฟลมมิง กำกับ และถือว่าเข้าขั้นคลาสสิค (ซึ่งก็คลาสสิคจริง) ที่สร้างตามมานานมาก (แต่ตอนที่เขาฉายก็นานแล้ว ค.ศ. 1985 โน่น) เพราะงั้น...ภาคนี้ก็เลยจ๋อยกว่า และออกจะเข้าขั้นเจ๊งเหมือนกันในสมัยนั้น อ่าว รึนึกถึงเพราะเรื่องนี้? ไม่ใช่! เพราะจริงๆมันมีบรรยากาศบางอย่างที่ทำให้นึกไปถึง TOMORROWLAND เหมือนกัน ใครหาดูได้ก็คงรู้มังว่าทำไมนึกถึง - แต่ไม่รู้ก็ไม่เป็นไร (เอ้า) เพราะ จริงๆส่วนหนึ่งที่นึกถึงก็เพราะในสมัยที่ได้ดู (อย่าไปถามว่าสมัยไหน) คิดว่าหนังก็สนุกดี แม้ไม่คลาสสิคเท่า THE WIZARD OF OZ ก็ตาม แถมดีไซน์หลายๆอย่างในเรื่องก็ชอบ แต่เรื่องนี้น่าจะหาดูยากกว่า THE WIZARD OF OZ ที่ออก DVD หรือ BLUE-RAY DISC มาใหม่เรื่อยๆ RETURN TO OZ นี่ไม่ค่อยเห็นเลย อาจเพราะมันไม่ได้ประสบความสำเร็จเท่าไหร่ ทั้งที่จริงๆคิดว่ามันก็สนุกดี
ฮ่ะ อะไรนะ?! นี่หนัง DISNEY อีกแล้ว?! เออ...ช่างมันเหอะ... งั้นไปหาดู THE WIZARD OF OZ เอาก็ได้ฮะ อันนั้นของ WARNER (แต่ก่อนเป็นของ MGM)


และอาจด้วยการที่ TOMORROWLAND แป๊กสนั่น AVENGERS : AGE OF ULTRON แม้จะเก็บตังค์ได้ไม่น้อย แต่ก็น้อยกว่าภาคแรกพอควร และคงยิ่งไม่เท่าที่ปราสาทมิกกี้หวัง ตรงนี้ปราสาทมิกกี้อาจหันไปค้อนค่ายลูกโลกขวับ ที่ปีที่ผ่านมา 2015 ซัดโดนเต็มๆไปเป็นชุดๆ (แต่พลาดบ้างก็มี เช่น STEVE JOBS ก็น่าจะนับว่ารายได้พลาดเป้า) แต่ค่ายอื่นเขาก็เจ็บตัวกันหนักหนากว่านี้เยอะแยะนะ แถมอย่างไรก็ตามค่ายปราสาทมิกกี้ก็มี(อภิมหา)ตัวช่วยปลายปีอย่าง มหากาพย์สงครามดาวภาคล่า ที่ทำสถิติในบ้านเกิดถล่มทลายไปไหนต่อไหน (ชาวนาวีหันมาทำตาประสงค์ร้าย) เพราะงั้น... อะไรที่ทำท่าจะลงทุนเยอะ แต่ดูท่าจะโดนดอง อย่าง TRON 3 เอากลับมาดูใหม่ (เป็นพักๆก็ยังดี) ก็ได้นะฮะ... (นี่ก็พูดเรื่องเก่าซ้ำซาก! - อ่อ ตกลงอยากพูดเรื่องนี้ซินะ?... อืม...)



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น