วันอังคารที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2559

[ภาพยนตร์, อนิเม] THE PEANUTS MOVIE สนูปี้ แอนด์ ชาร์ลี บราวน์ เดอะ พีนัทส์ มูฟวี่ : สนูปี้บนจอหนังใหญ่ น่ารักแอนด์สนุก



สวยงาม มีสไตล์  สนูปี้  ชาร์ลี บราวน์ แอนด์เดอะแก๊งค์ สนุก เพลิดเพลิน จำเริญใจ 7.8 คะแนน

สิ่งแรกที่ทำให้สนใจเมื่อเขาประกาศสร้างอนิเมชั่นเจ้าสนูปปี้ (อีกครั้ง) ในพอศอนี้ก็คือสงสัยว่าเขาจะทำยังไงให้เจ้าสนูปปี้ ที่ถือเป็นไอคอนที่หลายๆคนคุ้นเคยกันมานานนนแสนนานนน (แม้หลายคนคงไม่เคยอ่านการ์ตูน PEANUTS เลยก็ตาม) และมีลายเส้นอันแสนเป็นเอกลักษณ์ รวมทั้งผองเพื่อนอย่าง ชาร์ลี บราวน์,  วู๊ดสต๊อก, ลูซี่, ไลนัส, แพตตี้, แซลลี่ ฯลฯ ออกมาเป็นตัวการ์ตูนอนิเมชั่นคอมพิวเตอร์สร้างที่ดู 'ทันสมัย' ไปพร้อมๆกับคงความเป็น 'เอกลักษณ์' ของลายเส้นไว้ (ให้ตายเถอะ นึกถึงการ์ฟิล) เพราะคงน่าเสียดายมากถ้าเจ้าสนูปปี้และผองเพื่อนจะสูญเสียเอกลักษณ์ของมันไประหว่างทางที่ต้องต้องอัพเดทเป็นกราฟฟิกคอมพิวเตอร์สร้าง

แล้วที่ทำให้อยากไปดูก็เพราะได้เห็นภาพของอนิเมที่มีออกมานั่นแหละครับ ว่า เออ เขาเลือกแบบนี้นี่เอง ดูเข้าท่าแฮะ สวยด้วย ไปดูดีกว่าไหมน้า

จริงๆตอนแรกสุดท้ายก็ว่าจะไม่ไปดู เพราะไม่ค่อยพร้อมกอปรกับความขี้เกียจหลายๆอย่าง แถมรอบ 3D สะดวกๆที่ทีแรกอยากดู (เพราะรู้สึกว่าภาพสวย อยากดู 3D ว่าเป็นไง) ก็หาดูลำบากเสียเหลือเกิน (เพิ่งฉายมาอาทิตย์เดียวเองง่ะ) มีแต่พากษ์ไทยที่พอหาดูสะดวกหน่อย รู้สึกไม่พร้อม (ขี้เกียจนั้นสำคัญ) แต่ทำไปทำมาก็ไปดู  2D ธรรมดานี่แหละ

สิ่งแรกที่รู้สึกตอนเห็นตัวอย่าง และทำให้ไปดูก็คือเรื่องภาพ และภาพนั้นก็สวยจัง สิ่งที่ทีมงานเลือกเพื่อที่จะคงความเป็นเอกลักษณ์ของลายเส้นบนกระดาษพร้อมกับให้มันเป็นภาพคอมพิวเตอร์สร้างสามมิติดูทันสมัยไปพร้อมกันนั้นก็คือ การเอามันมารวมกันเสียเลย เพราะงั้นภาพที่ได้แทนที่จะแปลงตัวเจ้าสนูปปี้เป็น 3D สมบูรณ์แบบหมุนไปมา 360 องศาได้ (แต่อาจจะกลายเป็นแบบที่น่าสงสัยว่านี่มันสนูปี้รึเปล่าน่ะ? เอาก็เป็นไปได้เหมือนกัน... - ให้ตายเถอะ นึกถึงการ์ฟิล) ก็กลายไปเป็นภาพที่เหมือนกับการเอาภาพสนูปปี้บนกระกาษ 2D มาใส่สีสัน ใส่เท็กซ์เจอร์ (เช่นขนของสนูปปี้) และทำให้มันดูมันมีมิตินูนออกมา ซึ่งฟังดูอาจจะแหม่งๆว่ามันจะใช่เหรอฮ่ะ แต่ผลลัพธ์ที่ออกมานั้นดูดีมากทีเดียวครับ เพราะแทนที่เราจะเห็นสนูปี้กระพริบตาโปนๆ 3D ใส่ เราก็จะเห็นลายเส้นวาดเป็นตาที่คุ้นเคยบนหน้าเจ้าสนูปี้กระพริบให้เราแทน และตัวละครทุกตัวจะมีผลในลักษณะนี้หมดเลย ในขณะที่ฉากหลังนั้นจะเป็น 3D เต็มรูปแบบกว่า

เรื่องราวในหนังเป็นการเริ่มแนะนำให้เรารู้จักกับ ชาร์ลี บราวน์ และเจ้าสนูปี้ ก่อนที่จะเข้าเรื่องถึงการปรากฎตัวของนักเรียนใหม่ ซึ่งดันต้องตาต้องใจ ชาร์ลี บราวน์ พ่อพระเอกของเราเสียเหลือเกิน จนต้องหาทางรู้จักกับเธอให้ได้ก่อนปลายเทอม(?) โดยมีความช่วยเหลือของเจ้าสนูปี้ เจ้าหมาช่างจิ้น(ตนาการ)คู่ใจช่วยเหลือ พร้อมกับบรรดาผองเพื่อน ซึ่งไม่แคล้วต้องมีเรื่องป่วนๆตามมาชัวร์



ดูเรื่องแล้วก็จะเห็นได้ว่าตัวเรื่องไม่ได้พิสดารอะไรนะครับ (มุกนักเรียนในโรงเรียนถ้าไม่หลุดโลกไปซะเลยมันก็ต้องมีซ้ำกันไปกันมามั้งล่ะนะฮะ จะให้เป็นแบบ... CARRIE กันเลยนี่ก็คงจะไม่ไหว) เพราะงั้นก็รู้ไว้เท่านี้ก็พอ ที่เหลือไปดูในหนังเอาดีกว่า

ถึงตรงนี้ มีเรื่องที่ผมเองสงสัยนิดหน่อยก่อนไปดู แต่ไม่เท่าเรื่องภาพซึ่งตัวอย่างหนังตอบให้ไปแล้ว คือ ต้นฉบับนั้น PEANUTS เป็นการ์ตูนลงในหนังสือพิมพ์ในลักษณะการ์ตูนแก๊ก ประมาณหน้าเดียวจบในการ์ตูนขายหัวเราะ หรือการ์ตูนมังงะ 4 ช่องจอด และเทียบกับที่ว่ามามันก็ออกแนวเป็นการ์ตูนหน้านิ่งๆ ประมาณว่าต้องรีบยิงมุกนิ่งๆ รีบยิง รีบจบ จึงสงสัยอยู่หน่อยว่าพอมาทำเป็นหนังอนิเมฯแล้ว ความรู้สึกจะเป็นยังไง อย่างไรก็ตามผมไม่ใช่ระดับแฟนๆของ PEANUTS แต่เดิม ได้อ่านมาก็แค่เล็กน้อยมาก เพราะงั้นส่วนนี้ก็แค่สงสัย พอไม่ใช่แฟนๆเลยบอกไม่ได้เลยทีนี้ว่าอารมณ์ต่างกับต้นฉบับมากน้อยอย่างไร แต่ส่วนที่เป็นเสน่ห์ของการ์ตูนก็ฉายชัดเมื่อได้ดู คาแรกเตอร์ของแต่ละตัวละครนั้นชัดเจนมาก และถูกถ่ายทอดออกมาอย่างมีเสน่ห์ทั้งลักษณะนิสัย คำพูดจา การขยับเนื้อขยับตัว ซึ่งถือเป็นเสน่ห์เหลือร้ายของหนัง แม้จะไม่ได้ให้รายละเอียดแบ็คกราวด์อะไรของตัวละครแต่ละตัวมาก แต่เราก็จะจดจำลักษณะนิสัยของพวกเขาได้ทันที ตัวละครทุกตัวก็ถูกถ่ายทอดออกมาอย่างมีชีวิตชีวา เต็มไปด้วยรายละเอียด เราจึงติดตามพวกเขาไปได้อย่างสนุกสนาน

แม้จะมีความสงสัยว่า บางจังหวะของหนังซึ่งฉึบฉับรวดเร็วมาก (หรือการเห็นสนูปปี้ถลึงตา) มันหลุด PEANUTS ไปไหมนะ? แต่ในเมื่อไม่รู้ลึกและไม่ชัวร์ ก็เป็นว่าแม้จะไม่ได้เล่าเรื่องที่พิสดารและเดาไม่ยาก แต่การ์ตูนเล่าเรื่องได้สนุกสนานเพลิดเพลิน ผ่านตัวละครที่มีชีวิตชีวา มีรายละเอียดและมีลูกเล่นน่ารักๆเต็มไปหมด (อย่างการที่สนูปี้สมมติเอาบ้านสีแดงไอคอนหลังประจำเป็นเครื่องบินงี้) จนจบเรื่องลงก็ยังเพลิดเพลินใจกับการนั่งฟังเพลงดูเครดิตพร้อมกับภาพลายเส้นแบบเดิมๆของ CHARLES M. SCHULZ ผู้สร้างสรร PEANUTS ให้ผู้คนได้ติดตามอ่านเจ้าสนูปี้และผองเพื่อนด้วยลายเส้น เรียบง่าย น่ารัก และเป็นเอกลักษณ์ ผ่านหน้าหนังสือพิมพ์เป็นเวลายาวนานถึงเกือบ 50 ปี

หนังยังเก็บเอาความใสๆในโลกและสายตาของเด็กๆ (ผ่านมุกอย่างการที่เราไม่เห็นผู้ใหญ่ชัดตาซักกะคนในหนัง และเสียงของผู้ใหญ่ยังฟังเหมือนอยู่คนละโลก) ไว้ผ่านภาพและการเล่าเรื่องไว้ได้อย่างดี แม้จะดูเหมือนเล่าเรื่องในโลกของเด็กๆ แต่ความจริงถ้าจะมีแฟนๆ PEANUTS ตัวจริงสมัยเป็นลายเส้นการ์ตูนสั้นๆ มันก็น่าจะเป็นวัยไม่เด็กเท่าไหร่แล้วล่ะนะ ซึ่งก็น่าจะเพลิดเพลินไปกับตัวละครในความทรงจำพร้อมกับเด็กๆกันได้ไม่ยาก แม้ไม่ใช่อนิเมชั่นที่อาจจะถึงขั้นเปลี่ยนโลก แต่มันสวย สนูปี้ น่ารัก และเพลิดเพลินมากครับ 7.8 คะแนน กลายเป็นว่าที่ถ่อไปดูทั้งขี้เกียจนั้นถือว่าได้ผลคุ้มค่าทีเดียวเชียวครับ นี่ถ้าบวกโบนัสเรื่องภาพที่แปลงมาได้ชอบมากกับเสน่ห์ดั้งเดิมของตัวละครใน PEANUTS มาด้วยล่ะก็ ทะลุแปดสบาย (แล้วทำไมไม่บวกล่ะฮ่ะ!)    

ปล. เข้าโรง 4DX ด้วยนะเออ นี่มันการ์ตูนร๊อคส์นี่ฝ่าา !!!???

แนะนำ

ดูเรื่องนี้แล้วอยากลองกลับไปทำความรู้จักกับผองเพื่อนใน PEANUTS ผ่านการ์ตูนต้นฉบับลายเส้นของ CHARLES M. SCHULZ จัง


สำหรับภาพอนิเมชั่นสไตล์จัดเช่นนี้ ที่มีภาพตัวละครและบรรยากาศน่าประทับใจจัง ซึ่ง...ยังนึกถึงเรื่องอื่นไม่ออกนัก แต่ตอนนี้นึกถึงอนิเมชั่นเรื่อง THE LITTLE PRINCE หรือ เจ้าชายน้อย ที่ดัดแปลงจากหนังสือประกอบภาพที่หลายๆคนหลงรักของ อ็องตวน เดอ แซ็งแตกซูว์เปรี ที่เพิ่งฉายไปไม่นานนี้ ซึ่งสิ่งหนึ่งที่ชอบในอนิเมชั่นเรื่องนั้น คือ ส่วนที่เล่าเรื่องของเจ้าชายน้อยตามเรื่องราวในหนังสือ ซึ่งใช้เทคนิคสตอปโมชัน (STOP MOTION) นั้นผมชอบมาก และคิดว่าเป็นส่วนที่มีเสน่ห์มากที่เติมลงไปในอนิเมชั่นที่ส่วนเนื้อเรื่องปกติเป็นโมเดลสามมิติ (เรื่องนี้ตอนไปดู มีเสียงกระซิกๆให้ได้ยินเยอะมากเรื่องนึงเลยครับ (แม้จะเหมือนมีเสียงกรนด้วยมัง? อืม...ก็ชอบไม่เหมือนกันอ่ะเนาะ) เป็นอีกเรื่องที่ยังไม่ได้เขียนถึง...)



และด้วยที่ผมไม่ใช่แฟน PEANUTS แต่ก็มีการ์ตูนอนิเมชั่นสมัยโน่นที่ชอบมาก และเป็นมุกหน้าตายโดยไร้คำพูด แม้ไม่สามารถจะเทียบกับ PEANUTS ได้ว่าต่างอารมณ์กันขนาดไหน แต่ก็อยากแนะนำอยู่ดีเพราะชอบนะครับ อนิเมชั่นที่ว่าคือเจ้าเสือสีชมพู PINK PANTHER (ซึ่งจริงๆก่อนนั้นก็เป็นชื่อเพชรจากภาพยนตร์อีกที ก่อน จะถูกอ้างอิงมาเป็นอนิเมชั่น) แม้สำหรับบางคนจะไม่น่ารักเท่า PEANUTS และน่าจะกวนประสาทกว่ามาก (ก็ไม่ได้พูดก็ต้องออกมากวนประสาทเป็นหลักแหละครับ) และไม่ใช่ทุกตอนจะสนุก แต่สนุกหลายตอนนะ และตอนพีคๆนี่คือชอบมาก ลองไปดูกันเนาะ ไม่มีกำแพงภาษาด้วย




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น