วันเสาร์ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2559

[ภาพยนตร์, อนิเม] ZOOTOPIA นครสัตว์มหาสนุก : ขรับ! ก็สนุกจริงๆ


คิดว่าจริงๆ ก็คงมีหลายคนได้รับรู้ความสนุกดีงามของอนิเมชั่นจากดิสนี่ย์เรื่องนี้กันไปหมดแล้ว หลายคนก็คิดว่ามันต้องดีงามแหงๆตั้งแต่เห็นตัวอย่างหนังลากยาว ที่พักหลังดิสนี่ย์ดูจะใช้บ่อย แต่ก็คงต้องมั่นใจว่ามีของจริง ไม่งั้นก็ต้องมั่นใจว่ามัดใจคนดูได้จริง ถึงปล่อยออกมา ทำให้เจ้าสล๊อทโด่งดังไปถึงไหนตั้งแต่ก่อนหนังเข้าฉายซะอีก

แต่...ถ้ามันมีแค่นั้นก็คงแย่นะ

แต่...ก็นั่นแหละครับไม่ต้องห่วงไปเพราะก็บอกไปในสร้อยแล้วว่า มันสนุกจริงครับ

จริงๆแล้วหลังจากอดีตจ้าวอนิเมชั่นอย่างดิสนี่ย์จะดูอาการไม่ค่อยดี โดยเฉพาะช่วงของการเปลี่ยนผ่านไปสู่การที่อนิเมชั่น 3 มิติ ได้รับความนิยมมากขึ้นแทนอนิเมชั่น 2 มิติในยุคก่อนหน้าที่ดิสนี่ย์ครองตลาดโดยแทบไม่มีใครแข่งได้ แม้อนิเมชั่นจาก PIXAR จะไปได้ดี (ว่าไปก็นี่แหละเป็นเหตุให้ใครต่อใครเห็นศักยภาพของอนิเมชั่น 3 มิติ) แต่ดิสนี่ย์เองก็ยังปรับโน่นนี่ไม่ค่อยได้ เหมือนยังหารูปแบบ สูตร สไตล์ ของอนิเมชั่น 3 มิติ ที่จะมาท้าแข่งกับค่ายอื่นๆอย่าง DREAMWORKS, BLUE SKY หรือกระทั่ง PIXAR เองไม่ค่อยได้

แต่จู่ๆได้แล้วก็ได้เลยนะครับ อนิเมชั่นจากดิสนี่ย์ที่ปล่อยออกมาหลังๆจากดิสนี่ย์จึงประสบความสำเร็จทั้งกล่องและเงินติดๆกันแบบไม่ค่อยพลาดเลย (กระทั่ง PIXAR ยังคงต้องหนาวๆมั่งแหละ เจอ FROZEN เข้าไปงี้) และกระทั่ง ZOOTOPIA ก็ยังไม่พลาด

ทีแรกอุตส่าห์จะพยายามตั้งสร้อยประมาณว่า ชัยชนะของกระต่าย กระต่ายกับจิ้งจอก กระต่ายโน่นนี่ ฯลฯ แต่ขี้เกียจนึกแล้ว เอาสร้อยง่ายๆแบบนั้นแหละ ZOOTOPIA เริ่มเรื่องด้วยเรื่องของกระต่ายตัวหนึ่งครับ ซึ่งเล่าไปพร้อมๆกับความเป็นมาเป็นไปของบรรดาสรรพสัตว์จนมาเป็นตอนนี้และมี ZOOTOPIA อย่างที่เห็น พร้อมกับความฝันของเจ้ากระต่าย ใน เมืองใหญ่... ก่อนจะต้องมาข้องแวะกับพ่อจิ้งจอกจอมยียวน

เรื่องลองไปดูในโรงให้ได้สนุกกันเองดีกว่าครับ เล่ามากไปก็ไม่สนุก แถมเสน่ห์ของหนังที่ต้องชมก็คือตัวละครเหล่าสรรพสัตว์ที่สวยงาม มีชีวิตชีวา ทั้งหลายนี่แหละ


นอกจากจะเอาพฤติกรรมและรูปลักษณ์ของสัตว์ต่างๆมาใช้ได้อย่างสนุกสนานแล้ว เรื่องของภาพก็ยังสวยงามมากๆ และสำหรับคนที่ดูตัวอย่างฉบับลากยาวมาแล้ว ก็เชื่อว่าหนังในส่วนนั้นจะยังทำงานอย่างได้ผล เพราะดูจะมีแฟนๆเจ้าสล๊อทตั้งแต่หนังยังไม่เข้าโรงอยู่เอาการที่เดียว สังเกตจากความอิน(ล่วงหน้า)อย่างเห็น(ได้ยิน)ได้ชัดในโรง ซึ่งก็สร้างความครึกครื้นในหมู้ผู้ชมได้ดีครับ และถ้าคิดว่าหนังจะมีอะไรแค่นี้แล้วก็ถือว่าที่เหลือหนังก็ยังมีอะไรเซอไพรส์เราได้พอตัวเลย ซึ่งก็ทำให้พูดได้ว่าหนังสนุกจริงๆ

สำหรับเด็กๆ คิดว่าพฤติกรรมรูปร่าง ไอเดียหลายๆอย่างในเมืองสัตว์ก็คงทำให้ได้สนุกกันเป็นอย่างดี ส่วนผู้ชมผู้ใหญ่กว่านอกจากจะสนุกแล้วก็จะยังมีประเด็นที่ค่อนข้างใหญ่ให้ได้ติดหัวกลับไปเป็นของฝาก

และเรื่องที่ ZOOTOPIA ฝากไว้ก็ค่อนข้างรวมสมัยแม้จะเป็นเรื่องที่มีมาแต่เก่าก่อน และปัจจุบันก็ดูจะดีกว่าแต่ก่อน แต่คำถามหรือปัญหาเหล่านี้ก็ยังไม้หมดไป และบางเรื่องอาจยิ่งเพิ่มความซับซ้อนขึ้นด้วยก็ได้

นั่นคือเรื่องของอะไรที่เรียกว่า STEREOTYPE หรือมีคำภาษาไทยว่า สามัญทัศน์ หรือ การเหมารวม (ดูได้จาก วิกิพีเดีย) คำๆนี้แม้จะเกิดมาเพื่อธิบายความหมายขององค์รวมของคุณสมบัติอะไรบางอย่าง แต่ยิ่งมีการใช้มาเรื่อยๆก็รู้สึกว่ามันจะถูกนำไปใช้ในบริบทนอกเหนือจากการสื่อสารเพื่อให้ง่ายในการเข้าใจหรือทางวิชาการไปเป็นอะไรที่เรียกว่า การเหมารวม และทำให้เกิดการเปรียบเทียบ แบ่งฝักฝ่าย ในสังคม และยิ่งเงื่อนไขหลายๆอย่าง อาจทั้งทางการปกครอง เศรษฐกิจ เทคโนโลยี หรือศาสนา ฯลฯ มีผลกับแนวคิดหลายอย่างในสังคมมนุษย์ มันก็ยิ่งเพิ่มความซับซ้อนให้กับ STEREOTYPE มากขึ้น และบางครั้งก็กลายเป็นการไปตัดทอนให้เหลือเพียงคุณสมบัติง่ายๆ ด้านหนึ่งมันอาจง่ายหรือสะดวกในการสื่อสารก็จริง แต่การละเลยส่วนที่เหลือไปแล้วเชื่อเอาว่าที่เหลือให้เห็นง่ายๆนี่คือทั้งหมดแทนตัวใครคนใดคนหนึ่งหรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งแล้ว ก็อาจกลายเป็นความไม่เข้าใจ การจงใจละเลย หรือทิ้งรายละเอียดไปอย่างมักง่ายเกินไป และสิ่งนี้ยังอาจมีผลกับลำดับขั้นทางสังคมด้วย

ซึ่งเรื่องของ STEREOTYPE ก็ถ่ายทอดออกมาโดยเทียบกับโลกของสัตว์ได้อย่างเข้าท่าดีและสนุกสนานทีเดียวครับ

จากหน้าหนังที่อาจทำให้ใครคิดว่าเหมือนจะเป็นเรื่องของการอนุรักษ์สัตว์หรืออะไร (ยกเว้นจะรู้สึกว่าสัตว์พวกนี้น่ารักจัง เราอย่าไปทำอะไรมันเลย - อ่าว ไม่มีใครคิดเลย ช่างมัน) จริงๆมันก็ยังคงพูดถึงเรื่องของสังคมมนุษย์

นอกจากเรื่องของ STEREOTYPE แล้วสิ่งที่คิดว่าในหนังพูดถึงแม้จะเป็นฉากหลังกว่าก็ยังเป็นเรื่องของความเป็น เมือง การแสวงหาโอกาสในเมืองซึ่งดูจะมีมากกว่า หลากหลายกว่า แต่ก็ด้วยเงื่อนไขที่เข้มงวดกว่า ขณะเดียวกันสภาพของรอบนอก หรือเมืองชนบท ก็ยังเป็นที่ที่ผลิตอาหารเข้าสู่เมืองด้วย และหลายๆครั้ง เรื่องของความเป็น คนเมือง ก็ถูกรวมเอาไว้ใน STEREOTYPE ด้วยเหมือนกัน ทั้งในเมืองยังอาจมีความกดดันหรือรูปแบบที่ทำให้เกิด STEREOTYPE บางอย่างขึ้นด้วย และสิ่งที่ส่งผลให้เรื่องของ STEREOTYPE มีปัญหากับการอยู่ร่วมกันในสังคม ก็น่าจะเป็นเรื่องของ อำนาจ ทั้งลำดับขั้นอำนาจ และอำนาจจากการรวมกัน ก็ตาม

ความจริงแล้วสำหรับตัวเอง เรื่องราวใน ZOOTOPIA ไม่ได้ซับซ้อนมากจนคาดเดายากเท่าไหร่ เพียงแต่ว่าเรื่องราวของมันก็ถูกจัดวางมาอย่างดี มีลูกรับลูกส่งได้สนุกสนาน และเรื่องจริงๆก็ค่อยๆเผยตัวเปลี่ยนโทนไปภายหลังซึ่งก็เล่าได้สนุก นอกจากสองคู่หูที่ทั้งรูปลักษณ์และบุคลิกมีเสน่ห์ของใครของมันที่เข้าคู่กันแล้วทั้งกัดทั้งช่วยกันได้อย่างน่ารักน่าชังแล้ว เหล่าสรรพสัตว์อื่นๆทั้งตัวเด่นและไม่เด่นก็อย่างที่บอกว่าเอารูปลักษณ์ของสัตว์มาเล่นได้อย่างสนุก เรื่องราวการผจญภัยก็จัดวางมาอย่างดี เรียกว่าถึงจะไม่ได้คาดเดายาก แต่ทั้งอย่างนั้นมันก็ยังสนุกสนานไปจนถึงหยดสุดท้าย

ส่วนไอเดียสนุกๆในโลกของสรรพสัตว์นั้น แม้จะรู้สึกว่ามันอาจทำให้เรื่องดูแน่นและน่าสนุกกว่าจะเคลียร์ว่าจริงๆสภาพเมืองหรือรายละเอียดต่างๆมันจะเป็นแบบไหนกันหว่า? แต่มันก็มีรายละเอียดที่มากและซับซ้อนมากพอที่จะสร้างโลกของตัวเองขึ้นมา ซึ่งนี่ดูจะซับซ้อนกว่าหนังที่แทนโลกสัตว์แทนสังคมมนุษย์เหมือนกันอย่าง GOOD DINOSAUR (จาก PIXAR) ที่แม้จะเปิดด้วยบิ๊กไอเดีย แต่เรื่องราวก็ดูเทรดดิชั่นกว่าและดูซับซ้อนน้อยกว่า ZOOTOPIA  คือ แอบคิดมาแว่บๆเลยว่าที่ GOOD DINOSAUR รีบเปิดมาก่อนนี่เพราะกลัวจะชนกับ ZOOTOPIA แต่นี่ไม่ได้แปลว่า GOOD DINOSAUR ไม่ดีไม่สนุกอะไรนะครับ แม้จะดูเทรดดิชั่นกว่าและไม่บิ๊กเท่าการ์ตูน PIXAR อื่นๆ แต่ GOOD DINOSAUR ก็เป็นการ์ตูนคุณภาพที่สนุกดีอีกเรื่อง (ว่าจะเขียนถึงตั้งนานแล้ว แต่ก็...)  และถ้าจะต้องคิดกันจริงๆ เรื่องราวของ STEREOTYPE ที่เล่าเรื่องผ่านโลกสรรพสัตว์ ถ้าจะเอามาแทนค่ากันกับสังคมมนุษย์ตรงๆจริงๆจังๆก็จะพบว่ามันมีปัญหาอยู่เหมือนกัน เช่น ในเรื่องเราจะไม่ได้เห็นรายละเอียดลึกๆบางอย่าง เราจะเห็นแต่เหล่าสัตว์กินโดนัท หรือปลา แต่เอาเข้าจริง สัตว์กินเนื้อก็กินเนื้อสัตว์อื่นแหละนะ แต่ใน ZOOTOPIA มันไม่มีฉากอะไรแบบนี้ให้เราเห็นเท่านั้นเองว่าจริงๆมันเป็นยังไง? (อาจมีปศุสัตว์เพาะเลี้ยงอะไรซักอย่างไว้กินก็ได้)  หรือเอาจริงๆรูปแบบสรีระของสัตว์บางอย่างก็อาจน่าสงสัยว่าจะเอามาเปรียบกันตรงๆได้รึเปล่า อะไรแบบนี้เป็นต้น หรือถ้านึกถึงบทสรุปในเรื่อง เราก็อาจพบว่า แม้มันจะเกิดขึ้นในแบบ ZOOTOPIA จริง แต่ปัญหาของเรื่องมันก็อาจไม่ได้จบง่ายแบบนั้น

แต่ก็นั่นแหละ... คิดมากกันขนาดนั้นมันก็จะซับซ้อนกันเกินไป แม้จะขอให้รู้เอาไว้ว่ามันคงแทนกันไม่ได้ทั้งหมด (เผื่อมีคนคิดจริงจัง) แต่ในระดับหนึ่ง มันก็น่าสนใจเหมือนกันถ้าจะต้องมาคิดว่า แต่ละตัวและละหน่วยในหนังนี่เราจะแทนลงไปในโลกจริง หรือสังคมที่เราอยู่ด้วยอะไรดีจึงจะเหมาะ? หุหุ (ตกลงจะเตือนหรือจะยุ) (แต่จริงๆบางตัวละครก็เหมือนไปถอดแบบจากบุคคลจริงมาน่ะนะ)

สรุปก็คือ เท่าที่เห็น แม้จะคาดเดาหลายๆอย่างได้ไม่ยาก แต่เสน่ห์ของตัวละครในเรื่องโดยเฉพาะคู่หูกระต่าย-จิ้งจอก ก็กลบอะไรพร่องๆไปซะมิด คือ ทำอะไรเราก็พร้อมจะติดตามการผจญภัยของทั้งคู่ไปว่างั้นเหอะ และเรื่องราวของหนังก็ยังสนุกจริงๆ รวมถึงไม่นับคู่หูตัวนำแล้ว สัตว์อื่นๆทุกตัวที่แค่โผล่ออกมาก็ขโมยซีนได้แล้ว ไม่เฉพาะเจ้าสล๊อทที่ดังตั้งกะก่อนหนังฉายและคงดังยาวแล้ว ตัวละครอื่นๆก็ดูดีมีเสน่ห์แบบของตัวกันหมด เพราะงั้นการที่หนังสนุกขนาดนี้ และสามารถฝากเอาประเด็นหนักๆอย่าง STEREOTYPE หรือลำดับขั้นทางสังคมให้กลับไปคิดกันได้ (คิดใช่ไหม? คิดแหละเนอะ?...) แม้ไม่อาจแทนค่าได้ลงตัวสมบูรณ์ ก็ดูจะประสบความสำเร็จอย่างยิ่งแล้ว เพราะมันก็ไม่ใช่เรื่องที่จะหาบทสรุปได้ง่ายดายนัก 
เอาว่ากระทั่งผมเอง ตอนจบซึ่งติดๆนิดๆแม้จะยอมรับเหตุผลและการกระทำของตัวละคร ก็ยังแอบอยากให้จริงๆเจ้าสุนัขจิ้งจอกยังคงไลฟ์สไตล์เดิมแบบที่เจอกันทีแรกไว้ เพราะรู้สึกว่ามันช่างเหมาะเจาะสนุกสนานเหลือเกินที่ได้เห็นเขาในสภาพนั้น และมันก็ดูลงตัวมีเสน่ห์มาก แม้ว่าดังนั้น เขาก็จะยังคงต้องถูกจัดอยู่ใน STEREOTYPE เดิม หรือลำดับขั้นทางสังคมที่เคยอยู่เดิมก็ตาม... โอ้ว
เห็นไหมว่ามันเป็นไปได้ขนาดนี้เลย เท่านั้นก็คงพอยืนยันได้แล้วแหละว่า ที่ผมสนุกสนานไปกับตัวละครสองสัตว์คู่หูในหนังนั้น ผมสนุกเอาจริงๆ 8.6 คะแนน  บอกไม่ได้จริงๆว่าไม่สนุก สนุกยันเครดิตโน่นแหละ
(แต่นี่ก็เก็บๆปิดๆโน่นนี่ไว้หลายเรื่องนะ กลัวบอกหมดไม่สนุก ใครยังไม่ได้ดูไปสนุกกันในโรงได้ครับ)


ปล.เจ็บใจ รอบ 3D หมดเร็วจุง แต่ก็นะ 2D ก็ยังสวยมากแหละ (แล้วจะอะไรกับ 3D นักหนา หื้อ? - เอ้า ก็อุตส่าห์ซื้อแว่นอ่ะ - ที่ดูไปยังไม่คุ้มอีกเรอะ - เอ้า ก็มันไม่มีวันหมดอายุบอกไว้ซะหน่อย - เออ ตามใจๆ) เพราะงั้น ใครยังสนก็รีบไปดูกันนะครับ นี่รอบ 3D ก็หายากแทบหมดแล้ว เห็นไหม... T T



นึกถึง
จริงๆก็ยังนึกถึง GOOD DINOSAUR แหละครับ แม้จะไม่ดีเด่นเท่าบิ๊กๆอย่าง INSIDE OUT หรือจะ ZOOTOPIA แต่ GOOD DINOSAUR ก็ยังเป็นอนิเมชั่นที่ดูสนุก และภาพสวยมากก ไว้อาจจะได้เขียนถึง (ยังพยายาม)








และก็เจ้าจิ้งจอกนี่ เห็นแล้วนึกถึง ROBIN HOOD จากเวอชั่นการ์ตูนคลาสสิค 2D วาดมือของดิสนี่ย์น่ะแหละทุกทีเลยแฮะ เป็นการเล่าเรื่องของจอมโจร ROBIN HOOD โดยแทนตัวละครทุกตัวเป็นสัตว์หมดเลยนะครับ จะได้รู้ว่าจิ้งจอกทำอะไรดีๆ (แหละนะ) อาจเป็นบรรพบุรุษกันในโลกดิสนี่ย์ก็ได้นะ (เออ มั่วเข้าไป) แม้จะเก่า น่าจะยังหาดูได้นะครับ เพราะเป็นการ์ตูนดังในอดีตของ
ดิสนี่ย์เหมือนกัน





ส่วนอนิเมชั่นที่มีตัวเอกเป็นสรรพสัตว์ของค่ายอื่นเขาบ้าง จริงๆมันก็เยอะนี่หว่า... ICE AGE เราไม่พูดถึงเนาะ เพราะเด๋วเขาก็ตามดูเจ้าสแครชกันอยู่แล้ว (มีญาติเจ้านี่(?)โผล่ใน ZOOTOPIA ด้วยละเออ มันเป็นญาติข้ามค่ายกันได้ด้วยเรอะ?) ว่าไปอย่าง THE BOY AND THE BEAST นี่ก็ได้ป่าหว่า?
เอาเป็นว่า ก็นึกถึง MADAGASCAR อนิเมสัตว์แหงกรงหนีเมืองกลับเกาะ ของ DREAMWORKS ละกันเนาะ ในเรื่องนี้เหล่าสัตว์ก็เป็นสัตว์พูดได้ (ส่วนใหญ่ก็เป็นกันแบบนี้) มากกว่าเป็นเมืองสัตว์ทำตัวเป็นคนอย่าง ZOOTOPIA อาจไม่ได้เป็นแควนๆซีรี่ส์นี้ (เขามี 3 ภาค) เพราะภาคหลังๆก็ยังไม่ได้ดู  แต่สไตล์ของภาพในเรื่องนี้ก็สวยมีสไตล์ดี และเรื่องของเหล่าสัตว์ในทีนี้ที่พูดถึงการอยู่ร่วมกัน ก็พูดถึงเรื่องของการกินของสัตว์เอาไว้ด้วย (แม้สุดท้ายจะจบสวยๆโลกการ์ตูนก็เถอะนะ)

ส่วนเรื่อง STEREOTYPE รึ ลำดับชั้นในหมู่สรรพสัตว์ อะไรนี่ สายโหด แนะนำลองหา ANIMAL FARM นิยายคลาสสิคของ จอร์จ ออร์เวล มาอ่าน จริงๆในไทยก็มีแปลมาเรื่อยๆ หลายเวอชั่น ลองหาอ่านเวอชั่นล่าสุด(เท่าที่จำได้) จาก สนพ.ไต้ฝุ่น ก็ได้ครับ

จริงๆหนังสืออ่านง่ายนะ ไม่ได้สายโหดแบบอ่านยากอะไร แต่เรื่องนี่... เอาว่าลองหาอ่านดูครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น