วันจันทร์ที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2559

[ภาพยนตร์] DEADPOOL เดดพูล : โคตรเกรียน มหาบรรลัย (แถม : ถึงสี่กายสิทธิ์ผู้น่าฉงฉาน...)


ซูเปอร์ฮีโร่พันธุ์มาเวลจากค่ายที่ไม่ใช่มาเวล ที่เพี้ยน เฮี้ยน เกรียน และอาจจะบ้าบอที่สุดในบรรดาซูเปอร์ฮีโร่ (อย่างน้อยก็ในตอนนี้) แตกต่างอย่างบ้าเกรียน ถ้าคุณเอียนหนังซูเปอร์ฮีโร่สุภาพโลกสวยแถมไม่รวยอารมณ์คลั่งขัน โปรดเรียกชื่อของเขา เขามีชื่อว่า เดดพูล 7.8 คะแนน   

ว่าแต่...คุณต้องมีคุณสมบัติอะไร จึงจะถือว่าเป็นซูเปอร์ฮีโร่? คุณต้องเก่งกล้าสามารถขนาดไหน? ต้องมีพลังเหนือมนุษย์ไหม? ต้องช่วยคนเดือดร้อนรึเปล่า? ต้องช่วยกี่คน? หรือต้องมีวายร้ายให้ต่อกรด้วย? แล้วมันต้องร้ายขนาดไหน? คุณต้องเป็นมิตรกับซูเปอร์ฮีโร่คนอื่นๆหรือเปล่า? เป็นมิตรแค่ไหน? วายร้ายที่คุณเล่นงานคุณจะเล่นงานมันได้ขนาดไหน? ถ้าเล่นมันหนักไปคุณจะหลุดจากการเป็นซูเปอร์ฮีโร่ไหม? คุณต้องอาบน้ำแปรงฟันทุกวันรึเปล่า? รึทิ้งขยะไม่ลงถังได้ไหม? คุณจะระบายอารมณ์กับคนอื่นได้ไหม? จะระบายกับใคร? กับคนอ่านได้รึเปล่า? กับคนดูได้รึเปล่า? กับคนเขียนรึสตูดิโอได้รึเปล่า? (อ่าว ไม่ใช่ต้องไประบายกับจิตแพทย์ อ.บ.ต. หน่วยงานร้องทุกข์ รึรัฐมนตรี อะไรอย่างนี้หรอกเหรอ? - เอาไว้ไปรอดู CAPTAIN AMERICA : CIVIL WAR ละกันนะครับ ว่าจะรู้ไหมว่าซูเปอร์ฮีโร่ต้องระบายกับใคร) รึที่คุณต้องทำก็แค่คุณต้องมีหนังสือการ์ตูนคอมมิคเป็นของตัวเองที่มีคุณเป็นพระเอกให้ได้?? หือ???

ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน... ก็ไม่ใช่ซูเปอร์ฮีโร่นี่หว่า...

อ่าว แต่เอ็งก็ดูเรื่องของซูเปอร์ฮีโร่มาเยอะแล้วนะ ไม่รู้กะเค้าบ้างเรอะ?!

ความจริงหลังตั้งแต่เทคโนโลยีถึงระดับเราก็ได้ดูหนังซูเปอร์ฮีโร่มาก็ไม่ใช่จะน้อย และยิ่งถึงยุคเทคโนโลยีให้ เราก็ยิ่งได้ตะบี้ตะบันดูหนังซูเปอร์ฮีโร่ที่แต่ก่อนนานๆอาจจะโผล่ทีมาเป็นมีกันให้ดูทุกปี (ไม่มีแทบ) แถมดูกันปีละก็หลายเรื่องด้วย และหลังหนังซูเปอร์ฮีโร่กลายมาเป็นความบันเทิงกระแสหลักจนแทบจะจัดประเภทแยกให้ไปได้แล้วสบายๆ แทนที่จะมีแค่หนังแอ็คชั่น ดราม่า ไซไฟ ตลก ฯลฯ ซึ่งจริงๆหลายคนก็คงจัดให้ไปแล้วแหละ 

แม้ว่าหนังซูเปอร์ฮีโร่หลายๆเรื่องจะให้บรรยากาศความรู้สึกซ้ำๆกันอยู่ก็มาก แถมแนวทางอะไรที่ดูจะประสบความสำเร็จก็ดูเหมือนจะถูกใช้ซ้ำเพื่อดึงความสนใจจากคนจ่ายสตางค์ค่าตั๋วกันต่อไป (บางคนก็ไม่ แต่โหลดบิทเอา...) เช่น เดี๋ยวนี้หนังซูเปอร์ฮีโร่ดูจะพ่วงอารมณ์ขันมาในปริมาณนึง พระเอกก็ต้องมีความเพี้ยนเกรียนและความขำในตัวประกอบบ้าง (เช่น สตาร์ลอร์ด ใน GUARDIANS OF THE GALAXY) ใช่จะตั้งท่าหล่อเท่กันอย่างเดียวแล้วแฟนๆจะชอบ ซึ่งส่วนหนึ่งก็อาจเป็นเพราะหลังๆมานี้นี่หนังซูเปอร์ฮีโร่ขึ้นจอที่ประสบความสำเร็จไปถึงสำเร็จมากๆส่วนใหญ่เป็นหนังจากค่ายมาเวล หนังที่ออกมาจึงมีรูปรอยคล้ายกันอยู่มาก 

แม้ว่าจะมีซูเปอร์ฮีโร่แหวกแนวแหกรูปแบบแบบว่ามองมุมอื่นๆของฮีโร่ปรากฏตัวออกมาบ้าง (ซึ่งหลายเรื่องก็ออกมาดีด้วย) ส่วนใหญ่ก็ใช่จะประสบความสำเร็จเปรี้ยงปร้างอะไรนัก อย่างเช่น WATCHMEN หรือ KICK-ASS ไอที่แหกคอกและประสบความสำเร็จระดับบิ๊กเบิ้มจนทำให้หลายคนหันมามองหนังซูเปอร์ฮีโร่สายซีเรียส(และกะจะสร้างออกมา)บ้างก็เห็นจะมีแต่มนุษย์ค้างคาวในมือของผู้กำกับ คริสโตเฟอร์ โนแลน เท่านั้นกระมัง? (แต่เราไม่ชอบ MAN OF STEEL เท่าไหร่นะ ที่บอกได้ว่าชอบเต็มปากในหนังเรื่องนั้นก็เห็นจะมีแต่ เอมี่ อดัมส์ ในบท โลอิส เลน แหละมัง) แต่บางเรื่องแม้จะสูตรหน่อย แต่ก็ใช่ว่าจะประสบความสำเร็จมากมาย (อ่าว) 
แต่ว่าไปจะซีเรียสจะสูตรอะไรก็ไม่เป็นไร ให้มันถูกใจหรือสนุกบันเทิงสมใจอะไรก็ว่าไปในระดับที่น่าพอใจก็พอแล้ว แล้วเดดพูลนี่มีดีอะไร?

เดดพูลนี่มีดี(หรือไม่ดีก็ไม่รู้?)ตั้งแต่ที่ผมก็ไม่แน่ใจเท่าไหร่แล้วว่าอย่างเดดพูลนี่เรียกว่าซูเปอร์ฮีโร่ได้หรือเปล่า? แต่เราก็พอรู้ว่าหมอนี่มาไม่เหมือนคนอื่นๆแน่ก็ตั้งแต่เปิดเรื่องแล้ว เปิดตัวมาไม่รู้เหมือนกันว่าเท่หรือไม่เท่ แต่เราคิดว่ามันมีกลิ่นบ้าๆบอๆมาตั้งแต่ตรงนี้ได้แล้ว

ที่ไม่แน่ใจเท่าไหร่ว่าเดดพูลเป็นซูเปอร์ฮีโร่รึเปล่าก็คือตั้งแต่มันเล่าเรื่องย้อนไปย้อนมาเราก็ได้พบว่าจริงๆแล้วการที่เดดพูลออกมาเล่นงานวายร้ายนี่มันออกจะเป็นเรื่องส่วนตัวมากกว่าจะเป็นเรื่องของมวลมหาประชาชน เพียงแค่ให้พอดีว่าเรื่องส่วนตัวที่ว่านั่นทำให้เดดพูลต้องมาเล่นงานไอคนที่เผอิญว่าก็เป็นวายร้ายพอดี จึงเท่ากับว่าประชาชนก็น่าจะได้ประโยชน์ด้วย 

ทั้งในเรื่องของลีลาการปราบเหล่าร้ายมันก็ไม่เหมือนชาวบ้าน (ตั้งแต่ฉากเปิดเรื่อง) จะว่าโหดก็โหดจะว่าเพี้ยนก็เพี้ยนจะว่าบ้าบอก็บ้าบอ ก็เลยมองยากเหมือนกันว่าเดดพูลคิดว่ากำลังปราบเหล่าร้ายอยู่หรือเปล่า? ซึ่งจริงๆก็คิดว่าคงไม่ได้คิด... ก็แค่ว่าเป็นไอนี่แหละที่ต้องจัดการอ่ะ จบ

นอกจากนั้นแล้วความบ้าบอของเดดพูลก็ยังไม่ได้มีแค่เรื่องลีลาในการปราบเหล่าร้าย ขณะที่ซูเปอร์ฮีโร่แต่ละคนจะมีประมาณว่าร่าง(อาชีพ)และชุดซูเปอร์ฮีโร่่กับร่าง(อาชีพ)และชุดในสังคมปกติ(ไว้แอ๊บเนียน) เช่น ซูเปอร์แมนเป็นนักข่าว สไปเดอร์แมนเป็นวัยรุ่นวัยเรียนและช่างภาพข่าว(ถ่ายตัวเอง)สมัครเล่น แบทแมนเป็นมหาเศรษฐี แอนท์แมน(รุ่นสอง)เป็นขโมยคุณธรรมกลับใจ(?) สตาร์ลอร์ดเป็นสตาร์ลอร์ด อ่าวเฮ้ย ไอนี่ก็ผิดหลักซูเปอร์ฮีโร่รึเปล่าฟระ? ชุดไว้เปลี่ยนก็ไม่มี (เออ มีหน้ากากไว้ใส่หน่อยนึง) เดดพูลเป็น...นักฆ่า แถมตอนสวมชุดและหน้ากากเป็นซูเปอร์ฮีโร่ ว่าไปก็ยังเป็น...นักฆ่า นี่หว่า...

เดดพูลนี่จริงๆดูเป็นแค่นักฆ่าที่จับพลัดจับพลูมาได้ความพิเศษไม่เหมือนชาวบ้าน ให้รักษาอาการบาดเจ็บได้ (มันเลยยิ่งบ้าไปใหญ่ ไม่ถนอมร่างกายเลย) และที่ต้องใส่ชุดใส่หน้ากากก็เพราะต้องใส่ คือใส่ตลอดเลยไม่ค่อยถอดเข้าถอดออก(ในตู้โทรศัพท์?)เหมือนคนอื่นเขา นอกนั้นความสามารถพิเศษที่ไม่เกี่ยวกับสกิลนักฆ่าก็เหมือนจะดูไม่มีอะไร?... (ยกเว้นไม่แน่ใจว่าเป็นเดดพูลยิ่งได้ชุดแล้ว ทั้งๆที่ตอนยังไม่เป็นก็ดูเพี้ยนๆบ้าๆอยู่แล้ว กลายเป็นเดดพูลจะยิ่งเพี้ยนบ้าขึ้นกว่าเดิมอีกรึเปล่า? (อาจเป็นการเยียวยาจิตใจตัวเองชนิดหนึ่ง))

แต่เอาจริงๆความพิเศษของเดดพูลนอกจากที่ว่ามาแล้ว ไน่นับลีลาบ้าบอกวนประสาทไว้สังหารศัตรู (แบบเรท R = 18+ ในอเมริกาอ่ะนะจ๊ะ ผู้ปกครองควรให้คำแนะนำ โอเค๊? (แล้วค่อยปล่อยไปเล่น C.O.D. ต่อ)) และบุคลิกที่กวนตีนและปากหมาเกินระดับซูเปอร์ฮีโร่ปกติไปมาก (และบางทีพี่แกก็ห่ามไปบ้างติดๆจะล้ำเส้นไป ชนิดบางคนอาจไม่รับก็ได้นะ )ชนิดที่ความเกรียนของสตาร์ลอร์ด (หรือประมาณโทนี่ สตาร์ค) กลายเป็นเกรียนเดะๆไปเลยแล้วเนี่ย ที่เหลือก็คือ เดดพูลยังหันมาพูดกับคนดูหรือบางที่ก็บ่นสตูดิโอผู้สร้างหนังได้ อย่างน้อยก็อาจมีเดดพูลนี่แหละที่อาจไม่ต้องไปบ่นกับ อ.บ.ต. หรือ รัฐมนตรี แล้ว บ่นเอากับคนดูนี่แหละ (แต่ก็ไม่แน่หรอก มันก็บ่นได้หมดแหละ)

อีกเรื่องคือเดดพูลยังบังอาจเอื้อมไปบ่นถากถางล้อเล่นล้อเลียนบรรดาเพื่อนๆซูเปอร์ฮีโร่คนอื่นๆได้อีก ซึ่งก็นำความบันเทิงมาแก่ผู้ชมได้อย่างดี (ตกลงไม่รู้มันเป็นพวกใครกันแน่? - อ่าวถ้าคนดูถูกใจมาดูเยอะๆเราก็จะมีตังค์ไว้สร้างภาคต่อนะเออ) ทำให้รู้สึกว่าบรรดาซูเปอร์ฮีโร่มันก็อยู่ในโลกในเมืองเดียวกันได้มากขึ้น (จริงๆไอหนังอย่างรวมเหล่าอเวนเจอร์ หรือกัปตันกลางเมือง นี่ก็ได้ เพราะก็ยำกันหลายคน แต่เขาก็มีกันแต่พวกตัวเองไง ว่าไปของมาเวลก็มีช่องให้ฮีโร่คนอื่นๆ(ที่จะมาทำตลาดกินตังค์ต่อไป)ออกหมดแหละ ยิ่งหลังๆอ่ะนะ - แต่เอาจริงๆถึงตรงนี้มันก็มีพลังอำนาจที่เรียกว่า 'ค่าตัว' อยู่ครับ) ถึงตรงนี้ก็เสียดายหน่อยๆ ที่ด้วยอิทธิฤทธิ์ของเจ้าตัวที่เรียกว่าลิขสิทธิ์มันอาจมีพลังอำนาจเหนือพลังเดดพูลจนล้อได้ไม่ค่อยทั่วจักรวาลซูเปอร์ฮีโร่เท่าไหร่(จริงๆบนคอมมิคก็อาจเหมือนกันมัง?) บางอย่างเลยดูกั๊กๆ อย่างเช่นจะล้อมนุษย์ยิงใยไต่ตึกมากก็ไม่ได้ ทั้งๆที่เขาก็เกี่ยวกันมากกว่าที่คิด(นิดนึง)นะ เฮ้อ... แต่อย่างน้อยในค่ายเดียวกันนี่พี่ไม่ต้องไว้หน้าเลยครับ(หรือต้องไว้?) ซึ่งก็บันเทิงดีสำหรับผู้ชม แต่ก็ไม่แน่ถ้าเล็งเห็นตกลงได้ร่วมกันต่อไป(ภาย)ภาคหน้า เดดพูลอาจล้อได้ทั่วถึงกว่านี้ก็ได้ (รึต้องกลับไปอยู่มาเวลก่อน? อ๊อกกก) แถม ไรอัน เรโนลส์ พ่อยอดขมองอิ่มที่อยากเหลือเกินกับการเล่นเป็นเดดพูล (จนได้อิทธิฤิทธิ์แควนๆชูจั๊กกะแร้สนับสนุน(จากภาพหลุด(?))จนค่ายจิ้งจอก(ฟ๊อกซ์)ต้องเจียดสตางค์(นิดหน่อย... ก็เห็นใจเขาบ้าง เจ็บมาเยอะ...)มารีบสนองนีดแควนๆกันเลยทีเดียว) ยังสามารถใช้ประสบการณ์รับจ๊อบและฟ้ากอัฟไปก่อนหน้าก่อนเป็นเดดพูลมาเป็นทรัพยากรในการล้อเลียนตัวเองบันเทิงผู้ชมได้อย่างน่าชื่นตาบานอีกต่างหาก (แม้จะยังรู้สึกหน่อยๆว่าพี่เรโนลส์ยังดูเป็นภาพที่ไม่เป๊ะกับมาดเดดพูลนัก แต่จริงๆความเกรียนที่ปล่อยออกมาก็ชดเชยและสวมรอยเป็นเดดพูลได้โอเค สุดท้ายก็โอเค) นอกนั้นคือ ไม่นับเพี้ยน ว่าไปเดดพูลก็อาจเล่นอะไรเสี่ยวๆหน่อยๆด้วย ซึ่งก็ถือเป็นข้อป้องกันตัวไปครับสำหรับมุกที่ยิงมาเยอะเหลือเกินมีแป๊กบ้างก็ไม่ว่ากัน อืม...ว่าไปจริงๆถ้าเป็นคนที่มีต้นทุนเกร็ดความรู้รึผ่านตาหนังซูเปอรฮีโร่มาซักหน่อย ก็จะได้ขำเต็มเม็ดเต็มหน่วยมากกว่าคนที่ไม่ค่อยรู้จักไม่ค่อยได้ดูเหมือนกันนะ

แต่!

เมื่อดูหนังเรื่องนี้จบลง ตอนต้นที่ผมพูดถึงอะไรๆที่ให้บรรยากาศความรู้สึกซ้ำๆกันอยู่ก็มาก พล่ามมาตั้งน๊าน และเราก็ได้เห็นว่าเดดพูลมีอะไรไม่เหมือนเพื่อนบ้าน(ซูเปอร์ฮีโร่)อยู่ก็มาก จึงนับว่าเป็นตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจในยามที่ซูเปอร์ฮีโร่ทำตัวปั้นคาแรคเตอร์มาคล้ายๆกันอยู่หลายประการกันหมด แต่!(อีกที)...ดูจริงๆโครงเรื่องมันก็ไม่ยักต่างจากหนังซูเปอร์ฮีโร่อื่นๆเท่าไหร่แฮะ... ว่าไปออกจะตรงไปตรงมากกว่าหลายๆเรื่องด้วยซ้ำ คล้ายๆกับชาเขียวเก่าในขวดชาเขียวยี่ห้อใหม่ อะไรแบบนั้น คล้ายจะไม่เหมือน แหวก แปลก แตกต่าง แต่ก็ยังมีขอบเขตรูปรอย ตีวงมันไว้ในกรอบบางอย่างอยู่ดี จึงทำให้ผมนึกไปถึงเจ้าตัวนี้

STITCH ครับ



แต่เดี๋ยวก่อน นี่ไม่ได้มากลับลำด่าหรืออะไร เพราะ STITCH ก็เป็นตัวละครตัวหนึ่งที่ผมรัก แต่นั่นแหละแม้เจ้า STITCH จะถูกโฆษณาว่าแตกต่างจากพลพรรคเพื่อนพ้องเป็นแกะดำในหมู่ประชากรตัวละครดิสนี่ย์ขนาดไหนก็ตาม (ในโปสเตอร์เวอชั่นหนึ่งของ STITCH ก็อธิบายและโฆษณาได้น่ารักน่าชังน่าเอ็นดูดีมาก) ซึ่งเอาจริงๆแม้จะดูต่าง แต่ยังไงๆ STITCH ก็ยังมีลักษณะและเรื่องราวไม่ห่างไกลมากจากตัวละครดิสนี่ย์อื่นๆที่หลายๆคนพร้อมจะหลงรักอยู่ดี ซึ่ง อย่างที่บอก เราก็ยังคงรัก STITCH แม้จะไม่รู้สึกว่ามันเป็นแกะดำปิ๊ดปี๋ขนาดที่บอกก็ตาม เพราะงั้นสำหรับยอดชายนายเดดพูล มันก็ใช่ว่าจะเป็นข้อเสียครหามากมายอะไรหรอกครับ เพราะแค่ลำพังตัวพี่เขาที่ยิงมิสไซส์ ใช้พลังจิตไม่ได้ แค่กระสุนหนึ่งโหลเพลนๆก็บ้าบอได้กินขาดแล้ว

ยังไม่ได้พูดถึงตัวละครอื่นเลยแฮะ จริงๆเราก็จะได้เห็นซูเปอร์ฮีโร่ คนอื่นๆจากทีม X-MEN โผล่มาอีกประปราย (ก็บอกไปเลยว่า 2 คน) เพราะเขาอยู่ค่ายเดียวกัน ก็ตอนนั้นฟ๊อกซ์ได้ลิขสิทธิ์มาแค่นี้ (และที่มากันแค่นี้ก็อาจเพราะมันมีงบอยู่แค่นี้ก็ได้) ซึ่งอาจจะเพราะต้องมาอยู่ในเรื่องเดียวกับเดดพูลก็ได้ แต่ละคนก็เลยมากันในมาดในบทติดจะหลุดๆเพี้ยนๆนิดๆ (แถมเด่นเกินพี่เขาก็ไม่ได้ ก็สู้พลังหันมาบ่นกับผู้ชมของพี่เขาได้ไหมล่ะ หือ?!) ซึ่งก็สนุกดี เราไม่ว่าอะไร ส่วนตัวร้าย ว่าไปก็เป็นส่วนที่สูตรที่สุดของหนังมัง? คือจริงๆก็ใช้ได้นะครับ แคสติ้ง การแสดง แต่ก็ไม่รู้เหมือนกัน ทำไปทำมาเรื่องนี้ก็ยังไปเข้าสูตรหนังมาเวล(โดยค่ายมาเวล)กะเขาเข้าจนได้ ว่าตัวร้ายหลายตัวร้ายไม่ถึงระดับจี๊ดนัก แต่ก็นะ ส่วนใหญ่ตอนอินโทรของซูเปอร์ฮีโร่มันก็อีแบบนี้แหละ มาแนะนำตัวกันพอหอมปากหอมคอ

สรุป สำหรับพ่อยอดชายนายเดดพูล ตัวของเขาเองไม่มีปัญหาอะไร ก็ถือว่าเปลี่ยนรสชาติแบบพระเอกๆของซูเปอร์ฮีโร่ทั้งหลายมาให้ เถื่อน ดิบ โหด บ้าบอ เกรียน ขึ้น ซึ่งก็ดีครับ เป็นรสชาติแปลกลิ้นที่ก็สนุกและเกรียนดี (ยิ่งเทรนด์ซูเปอร์ฮีโร่เดี๋ยวนี้ต้องติดเกรียนนิดๆด้วยนะ) ซึ่งก็ดูจะได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากผู้ชม ก็ขอแสดงความยินดีกับพี่ ไรอัล เรโนลส์ มา ณ ที่นี้ด้วยครับ และแสดงความยินดีกับฟ๊อกซ์ด้วย ที่ก็ปั้นโปรโมตมาตลอดทาง สร้างสรรค์ความกวนให้ติดหูติดตาผู้ชมกันสนุก ซึ่งก็น่าจะได้ผลลัพธ์สบายใจแล้ว มุกก็ขนกันมาบันเทิงกันหลาย โดยเฉพาะกับแฟนๆซูเปอร์ฮีโร่ แม้ว่า...จริงๆมันก็ไม่ได้หนีรูปรอยของตระกูลหนังซูเปอร์ฮีโร่ไปไหนเท่าไหร่ (ว่าไปคือเอาตัวพี่เขามาเป็นเอฟเฟ็คท์ใหญ่ แทนอะไรๆที่ไม่ได้ใส่รึไม่ค่อยพิสดารด้วยซ้ำ) ซึ่งรวมๆแล้วก็โอเคครับ ก็สนุกดี ก็ถือว่าวิสัยทัศน์พี่ผู้กำกับใช้ได้นะครับ แต่ว่า...นี่ผมก็ยังไม่แน่ใจเลยว่า พี่เขานี่...จัดอยู่ในหมวดซูเปอร์ฮีโร่ได้รึเปล่า(ฟะ)? เอาน่ะ อย่าไปคิดมาก F4 ชุดเจสซิก้า อัลบา (นี่ก็ลำเอียง จำได้อยู่คนเดียว) ภาคแรกนี่ยังกะมาทำวินาศกันเองแล้วก็ช่วยกันเองเฉยเลย (อ่าว ไปแขวะเขาอีก) แถมเวลาบู๊นี่ดูๆไปอะไรจะบรรลัยกันแค่ไหนเหมือนพี่เขาก็ดูไม่ค่อยสนนะ? สอนลูกหลานลำบากเลยทีนี้ (แต่เรทมันก็ R นะฮะ) แต่ที่ค่อนข้างแน่ใจ คือ พี่เขารักแฟนพี่เขามากนะครับ (และแฟนพี่เขาก็สมกับที่หวงเสียด้วย สวย เอ๊กซ์ (ซ...) แกร่ง ฉีกแนวคุณหนูบอบบางตามแบบหนังซูเปอร์ฮีโร่ทั่วไป?!) อย่าไปแหยม... ก็นั่นแหละ พี่เขาอาจไม่สนว่าตรูเป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่รึเปล่า แต่ตรูเป็นหนังรักแน่นอน อย่างที่ค่ายโปรโมทมาเลย...



อืม...ก็พูดยาก DEADPOOL นี่เป็นหนังกึ่งๆเกรียนๆที่ถ้าชอบความเกรียนก็สนุกดี (บางทีก็อาจสนุกมว๊ากกก) แต่มันก็ไม่ได้ฉีกตัวเองไปจากรูปรอยหนังซูเปอร์ฮีโร่เท่าไหร่ แถม! เอาเข้าจริงตกลงยังไม่ค่อยแน่ใจเลยว่าพี่จัดอยู่ในหมวดซูเปอร์ฮีโร่ได้รึเปล่า? เอาว่า...ระหว่างนี้ มีคอมมิคเป็นของตัวเองก็คงพอแล้วมัง (อ่าว เฮ้ย ไหงมักง่ายงี้) ยังไงซะ ได้ข่าวจากพี่เขาว่าเขามั่นใจมากขนาดสร้างภาค 2 กันแล้ว (ติดตามข่าวได้ในหนังเลยนะเออ) คาดว่าจะได้เห็นอะไรแปลกหูแปลกตามากกว่านี้ให้สมกับที่พี่เขาไม่ค่อยเหมือนชาวบ้าน ทีแรกก็ไม่แน่ใจว่าหนังภาคต่อพี่เขาจะใหญ่โตอลังการกว่าเดิมขนาดไหน? (แต่พี่เขากะเอาของใหญ่มาเล่นเลยนะ) แต่ดูผลตอบรับของแควนๆแล้วก็ดูท่าจะได้ตามนั้นจริงๆนะนี่ ก็เอาเป็นว่า...จะรอดูภาค 2 นะครับ พี่เดดพูล ตอนนี้ เอาไปก่อน 7.8 คะแนน

  

FANTASTIC FOUR แฟนแทสติก โฟร์ : กลับมาใหม่ สี่กายสิทธิ์ (ผู้น่าฉงฉาน...)





จริงๆทีแรกจะตั้งสร้อยว่า F4 รีเทิร์นส์บัท DOOM  แต่ทำไปทำมาก็เปลี่ยนใจ ดูน่าสงสารไป (ฉงฉานก็พอ...เหรอฟระ?) เพราะจริงๆเราก็ไม่ได้คิดว่าหนังมันแย่อะไรขนาดนั้น

ว่าไป FANTASTIC FOUR รีบูทครั้งนี้ เทียบกับชุดก่อนที่ออกจะสีลูกกวาดกว่า มาเป็นโทนอารมณ์จริงจังซีเรียส ก็ไม่ใช่จะเป็นเรื่องผิดพลาดอะไร เพราะซูเปอร์ฮีโร่พันธุ์ซีเรียสที่ประสบความสำเร็จก็มีให้เห็นอยู่ โทนของ FANTASTIC FOUR ที่พยายามเล่าแบบซีเรียส แม้ว่าจะไม่ได้ถึงกับคิดว่าดีอะไร คือ ก็ยอมรับนิดนึงว่า เรื่องแบบการ์ตูนๆหนักๆ พอพยายามจะซีเรียสๆแบบไม่มีอะไรมาคั่นแล้วมันจะรำคาญนิดนึงเหมือนกัน ซึ่งแรกๆ FANTASTIC FOUR ก็หลุดๆไปอยู่แนวๆนั้นอยู่หน่อยๆ แต่ไม่ได้รู้สึกอะไรมากเพราะถ้าจะคิดด้านเนื้อเรื่อง อะไรที่มันดูเว่อๆมันก็มีในหนังซูเปอร์ฮีโร่หมดแหละ เลยไม่ได้รู้สึกอะไรมาก (ก็รู้แล้วตั้งแต่ซื้อตั๋วดูหนังซูเปอร์ฮีโร่แล้วไหม)

แม้จะติดที่หนังมันออกจะดู(พยายาม?)มืดๆไปหน่อย แต่พอเนื้อเรื่องดำเนินไป จริงๆเราก็โอเคนะ คือแม้ไม่ได้พีคอะไร ก็ติดตามเรื่องได้เรื่อยๆ ดราม่าของแต่ละตัวละครก็ไม่มีปัญหาอะไร รึอย่างตัวละครอัจฉริยะมารวมตัวกัน ก็คิดว่าโอเค อาจมีน่ารำคาญตามนิสัยตัวละครบ้าง (อาจมีเผลอคิดบ้างบางช่วงว่า เอ็งจะเก็กกันทำไมนักฟระ - แต่ต้องเข้าใจนะครับว่าเป็นเรื่องของคนที่แม้จะเก่งแต่ก็ชายขอบ กลายไปเป็นอะไรประหลาดๆที่ดูจะแยกให้พวกเขายิ่งชายขอบ พฤติกรรมอะไรจะแปลกๆบ้างก็คงเป็นไปได้) แต่พอดูไปเรื่อยๆก็ไม่มีปัญหา คิดว่าบางช่วงก็ทำได้โอเค บางช่วงก็น่ากลัวดีด้วยซ้ำ เช่น ในช่วงที่แต่ละคนเปลี่ยนแปลงไป อย่างตอนของ THE THING หรือกระทั่ง MR.FANTASTIC ก็เถอะ หรือหลังจากนั้นเนื้อเรื่องเดินต่อไปจนเจอ DOOM ก็ไม่มีปัญหาอะไร (คิดว่าคงไม่สปอยล์นะ ไม่งั้นคือก็ต้องไปดูทั้งที่ไม่เคยเห็นโปสเตอร์หรือสื่อโปรโมทอะไรเท่าไหร่แล้ว) ดีไซน์อาจดูด้อยไปนิดและดูไม่หวือหวานัก แต่จริงๆในท่าทางหนังที่คุมโทนมาทางแนวๆนี้ก็ถือว่าพอโอเค เฮนเมดนิดหน่อย(? (เฮนเมดแค่ไหนไม่รู้ แต่ราคาหลายล้านนะจ๊ะ...)) คือ DOOM ที่เขาด่าๆกันผมยังไม่มีปัญหาเลย (ไม่ใช่แฟนคอมมิคอะไรด้วย) อาจดูเละไปบ้าง แต่แบบนี้ก็โอเคนะ ดีไซน์โอเค ไม่เหนือคาด แต่ก็โอเคนะ ค่อนไปทางชอบด้วยซ้ำ อะไรแบบนี้ คือจริงๆตอนมันร้อยเรียงเรื่องมาจนตรงนี้ผมยังไม่มีปัญหาอะไร(ที่อยากจะแขวะ(?)ชัดเจน)เลย

ตรง DOOM จริงๆอาจจะติดนิดๆว่ามันอยากทำท่าจะครองโลกทำไมฟระ? แต่เหตุผลก็พอฟังขึ้น (คือจริงๆตัวร้ายเกือบทุกตัวแหละ) ซึ่งจริงๆก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ที่มีปัญหาจริงๆคือ... เรื่องคล้ายๆกับเหตุที่เจอใน THE AVENGERS : AGE OF ULTRON หน่อยๆ คือ ตอนสู้ครั้งสุดท้ายซึ่งเป็นไคลแม็กซ์ และหนังแนวๆ FANTASTIC FOUR จะหนีไปก็ไม่มีประโยชน์ ถึงจะพยายามฉีกอารมณ์จากหนังซูเปอร์ฮีโร่(ฉาก)สว่างๆยังไง รวมๆมันก็หนีรูปรอยหนังซูเปอร์ฮีโร่เมนสตรีมไปไม่ได้อยู่ดี คือถ้าจะพยายามหนีเท่าที่เห็นนี่ก็ยังหนีไปไม่พ้นหรอก เพราะงั้นก็ถวายพานมาให้คนดูอีตอนนี้ได้แล้ว อย่าให้พลาดนัก แต่... แม้ตอนเริ่มๆจะยังพอมีเลี้ยงอารมณ์อะไรต่ออะไรบ้างพอให้รู้สึกมีเรื่องราวในการสู้กัน แต่พอช๊อตจบเท่านั้นแหละ... จบเลย... ไม่รู้งบหมดพอดีหรืออย่างไร เหมือนตังค์หมดแล้ว เกินงบแล้ว จบแค่นี้เลยละกัน (เป็นแค่ข้อสันนิษฐานตามอารมณ์ไม่ได้ดังใจ กรุณาใช้วิจารณญาณ)

เลยไม่รู้ว่าเรื่องที่ผู้กำกับอยากจะเล่าจริงๆ ตามดราม่าที่มีอออกมาหลังหนังเละไม่เป็นท่า ว่าที่ออกมาฉายนี่ไม่ใช่ผู้กำกับ จอช แทรงค์ เขาตัด นี่เป็นเวอชั่นที่ฟ๊อกซ์ตัดอะไรแบบนี้ ว่าเรื่องราวจริงๆเป็นยังไงก็แน่? คือเพราะที่เห็นนี่ก็ไม่ได้คิดว่ามันแย่มว๊ากกกกอย่างที่คะแนนหลายสำนักจัดมาให้นะ แต่พอรวมๆมันออกมาเฉลี่ยๆ แต่ฉากสำคัญดันแป๊กนี่ก็ลำบากเหมือนกัน นักแสดงทุกคนเลยโดนหางเลขด่ารวบไปกับหนังด้วยเลย (ขนาด เจมี่ เบลล์ นี่ไม่ค่อยได้โชว์หน้าด้วยซ้ำ...กำ) ซึ่งจริงๆก็ไม่ได้คิดว่านักแสดงจะแสดงแย่อะไรขนาดนั้นด้วย ซึ่งบางคนก็ได้โอกาสแก้ตัวกันไปบ้างแล้ว รอดไปไกลมากบ้างน้อยบ้างต่างกันไป

ก็เลยไม่รู้ว่าฟ๊อกซ์มีบทบาทอะไรในการกลับมาของ F4 นี่แค่ไหน? แต่ก็เหมือนตลกร้ายแม้ฟ๊อกซ์อาจพยายามที่จะสานต่อแฟรนไชนส์ในมือที่มีทั้ง X-MEN และ FANTASTIC FOUR กันตัวเกร็ง X-MEN นั้นรอดไปแล้ว (รอพิสูจน์กันต่อภาคหน้า-พร้อมความคาดหวังหนักอึ้ง) ส่วน FANTASTIC FOUR ฟอกซ์อาจพยายามฉีกไปอีกทิศ พยายามเอาความดิบ และความซีเรียสมาใส่ คือทางหนึ่งก็อาจพยายามฉีกไปจากหนังมาเวลก็ได้ (ทำ FANTASTIC FOUR เป็นหนัง FOUND FOOTAGE ไปเลยก็หมดเรื่อง!) จึงเลือก จอช แทรงค์ มากำกับ คิดโน่นคิดนี่มากมาย แป๊กทีคงต้องเข้าห้องประชุมทีกันหัวปัั่น...
แต่สุดท้ายกลับมาตลกแดร่กเกรียนบ้าบอให้เกินหน้าชาวบ้าน กลับกินตังค์สบายใจเฉิบซะงั้น...

นี่ยังอุตส่าห์โยงกลับมาเรื่องเดดพูลได้อีกนะเนี่ย

ยังไงก็ยินดีกับฟอกซ์ไว้ด้วยแหละครับ... ตอนนี้คงมีตังค์พอกลบความเสียหาย แล้วเหลือไว้ดูรายการรอรีบูทอะไรต่ออะไรได้สะดวกกว่าเดิม

ส่วนผู้กำกับ จอช แทรงค์... ผมก็ไม่ทราบว่าจะยังไง... ยังไงผมไปหา CHRONICLE งานสร้างชื่อของแกมาดูไปพลางๆก่อนละกันครับ ยังไม่ได้ดูเลย

รวมๆแล้วก็อย่างที่บอก 6.8 คะแนน ละกัน รวมๆก็ไม่แย่นะครับ ดูได้เพลินๆ นี่ให้เท่าๆหนังน้องโคลอี้ เลยนะ! (นี่มันดีรึไม่ดีนะ...) ระหว่างนี้...แฟนเดนตายก็คงจะต้องรอ สี่กายสิทธ์ กลับมาใหม่ (อเกน...) กันนะครับ... 


นึกถึง
พูดเยอะแล้ว สำหรับ DEADPOOL แม้น่าจะยากที่จะหาซูเปอร์ฮีโร่(?)แบบเดียวกับพี่เขามาได้ เอาเป็นว่าหนังซูเปอร์ฮีโร่ที่ออกจะหนีไปจากรูปรอยหนังซูเปอร์ฮีโร่ทั่วๆไปหน่อย ก็น่าจะเป็น

สายเกรียนซูเปอร์(?)ฮีโร่ซำเหมา ต้อง KICK-ASS
จริงๆภาค 2 ที่ดูกระแสอะไรไม่แรงไม่ดีเท่าภาคแรกก็ยังชอบมากอยู่นะ ไว้จะเขียนถึงซักวัน
น้องโคลอี้เป็น HIT GIRL ด้วย ติดตามน้องมาตั้งแต่เรื่องนี้แหละ! แถมมันยังพูดถึงโลกของการเป็น (หรือไม่เป็น?) ฮีโร่ได้น่าสนใจดี






อีกหนึ่ง คือ WATCHMEN ซึ่งสร้างจากคอมมิคหนึ่งเดียวที่ถูกยกระดับให้เทียบเท่ากับวรรณกรรมชั้นนำ ในการจัดอันดับวรรณกรรมยอดเยี่ยม (ไว้หามาแปะทีหลังนะ ไม่งั้นลองเสิร์ชหากันไปพลางๆก่อน) เวอชั่นหนังอาจไม่ได้รับการยกย่องขนาดนั้น (และผมก็ยังไม่ได้อ่านเวอชั่นคอมมิคด้วย) แต่ก็ทำได้โอเคดีทีเดียว แสดงให้เห็นถึงซูเปอร์ฮีโร่ในฐานะหน่วยหนึ่งของสังคม เรื่องราวมีองค์ประกอบดาร์คกว่าหนังซูเปอร์ฮีโร่ทั่วไป (ขนาดในไทยมีต้องเซนเซอร์(อะไรเอ่ย?) คิดดู) แถมครอบคลุมลักษณะของซูเปอร์ฮีโร่หลากหลายด้วย แม้ยังไม่ได้อ่านคอมมิคแต่เข้าใจว่าเรื่องที่ถูกเอามาใช้ในหนังหลายอย่างก็คงเอาสิ่งเด่นๆในคอมมิคมาใส่ไว้พอสมควร ลองหามาดูกันครับ (และเราอาจได้เห็นเรื่องราวของซูเปอร์ฮีโร่ในฐานะหน่วยหนึ่งของสังคมในหนังเรื่องต่อๆไปของมาเวลด้วย (ซึ่งคิดว่าคงจะยังสว่างกว่า WATCHMEN) ยังไงลองไปดู พี่กัปตัน CIVIL WAR กันก่อนก็ได้ คิดว่าคงเป็นอารัมภบท)

จริงๆ THE INCREDIBLES ของ PIXAR ก็ถือว่าเป็นการพูดถึงโลกของซูเปอร์ฮีโร่ที่น่าสนใจ เพราะพูดถึงซูเปอร์ฮีโร่เกษียณด้วย ซึ่งก็เป็นการ์ตูนอนิเมที่สนุกมากๆเรื่องหนึ่ง แต่บรรยากาศก็ออกจะต่างไปจากหนังข้างบนๆมากอยู่เหมือนกัน แถมไม่มีคอมมิคของตัวเองอีก เราจึงไม่ได้พูดถึงมากในที่นี้นะครับ... (อ่าว เฮ้ย งั้นแนะนำ BIG HERO 6 ไปซะเลยดีไหม หือ?!)

และที่ลืมไม่ได้ (คือน่าจะจำกันไว้ซักหน่อย) จริงๆ เดดพูล นี่เคยปรากฎตัวบนจอหนังมาก่อนแล้วในแฟรนไชนส์ X-MEN นะครับ โดยปรากฎตัวใน X-MEN ORIGINS : WOLVERINE ที่เป็นสปินออฟแรกๆในซีรี่ส์ X-MEN ของฟ๊อกซ์ ซึ่งรับบทโดยเฮีย ไรอัล เรโนลส์ ด้วยนะ แต่ลุคไม่เหมือนแบบนี้เลย และจะออกไปแนวบ้าโหด มากกว่า บ้าบอ แบบนี้ ก็นับว่าน่านับถือเหมือนกันที่เฮีย ไรอัล เรโนลส์ ยังแค้นฝังหุ่นขนาดนี้ติดบทเดดพูลไว้ในหัวเสมอมา จนในที่สุดแกก็ได้ปล่อยของเช่นนี้ ก็ขอแสดงความยินดีอีกทีฮะ แต่เนื้อเรื่องก็ดูเหมือนจะไม่เกี่ยวกันนะ เพราะถ้าเกี่ยวคงต้องหาคนมาแก้กันอีรุงนุงนังสนุกมือกว่าตอนที่ ไบรอัน ซิงเกอร์ มาแก้ปม(และเจี๋ยนเขาซะเหี้ยน)ไว้ใน DAYS OF FUTURE PAST แหงๆ พอคิดแบบนี้...เอาจริงๆ มันก็ยิ่งทำให้จักรวาล X-MEN ของฟอกซ์ยุ่งเหยิงไปกันใหญ่นะนี่... (ยุ่งก็ช่าง ได้ตังค์ก็พอ...จรบ.) X-MEN ORIGINS : WOLVERINE  นี่มีตัวละครโปรด(จากเกม...ซะงั้น) อย่าง GAMBIT ผู้อัดพลังไพ่สุดเท่ ปรากฏตัวด้วย ซึ่งก็ไม่เลวครับแม้ไม่อะไรมากและไม่เท่เท่าในเกม ที่จนทุกวันนี้...ภาพจำยังทำให้รู้สึกตลอดว่า แชนนิง ทาทัม ที่กะลังจะมาในคราบ GAMBIT แกดูหน้าใหญ่ไปทุกที... ทั้งทีพลังดาราไม่มีปัญหาหรอก (นั่นก็อีกหนึ่งแฟรนไชนส์ที่กะลังจะมานะ ท่านผู้ชม... เอาว่า คิดมาให้ดีๆละกัน อย่าพลาด โดนพี่เดดพูลแขวะไม่รู้ตัวนะเออ...)



เอาล่ะ จบทางนั้นไปก็มาต่อกัน สำหรับสี่กายสิทธ์ ผู้น่า... พอ!
 เอาเป็นว่า...อืม... ไหนๆ มาทางดาร์คแล้วก็พลาด ไปลองดู FANTASTIC FOUR ฉบับก่อนที่ออกโทนสว่างกว่านี้ดูไปพลางๆนะครับ แม้จะเหมือนตีกันเองไปนิด แต่ก็ดูเอาเพลินๆพอได้แหละนะ มี เจสซิก้า อัลบา แสดงด้วยนะ และก็ยังมีภาคต่อออกมาด้วยซึ่งก็สนุกดีนะครับ แต่ทำไมไม่รู้รู้สึกการ์ตูนกว่าภาคแรกนิดๆ ด้วยเหตุผลเล็กๆส่วนตัว (ซึ่งไม่เกี่ยวกับ เจสซิก้า อัลบา นั่นโอเค) ทั้งที่ก็ไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่ จริงๆภาคนี้อลังการกว่าภาคแรกนะ แต่จริงๆก็สนุกพอๆกันครับ ดูได้เพลินๆ




สำหรับผู้กำกับ จอช แทรงค์ ก็อย่างที่ว่า ลองไปหา CHRONICLE มาดูก็น่าจะดีครับ ซึ่งเป็นหนังสร้างชื่อให้แก หนังน่าจะดิบกว่าหนังที่พูดๆถึงกันข้างบนนี่อยู่มาก  เพราะเป็นหนัง FOUND FOOTAGE (ประมาณ CLOVERFIELD) เรื่องของวัยรุ่นที่มีพลังจิต(มัง) จริงๆไม่(น่า)ใช่หนังซูเปอร์ฮีโร่แฮะ แต่เรื่องและโปสเตอร์หนังก็ดู X-MEN อยู่เหมือนกัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น