แน่นอนว่าจากที่กล่าวไปใน
ครั้งที่แล้ว ว่าความตั้งใจหนึ่งของผมคือการไปดูสโนไวท์กับคนแคระทั้งเจ็ด ในโครงการ ทึ่ง ! หนังโลก ที่สกาล่า เมื่อใกล้วันฉายและใกล้วันเดินทางเพื่อเข้ากรุงนั้น ผมก็ทำสิ่งที่เคยทำอยู่เป็นกิจวัตรในช่วงก่อนหน้านี้ แต่ไม่ได้ทำมานานเหมือนกัน นั่นก็คือเข้าไปเช็คที่
เว็บไซต์ และ
facebook ของ Apex ดูเสียหน่อย (ซึ่งจริงๆไม่ต้องก็ได้เพราะก็รู้อยู่แล้วว่าสโนไวท์ฯฉายวันไหน เพราะมันก็มีวันเดียวรอบเดียว แต่มันเป็นความเคยชินน่ะครับ) และแล้ว... ผมก็พบว่าในช่วงเดียวกันนี้ มันมีโครงการ เทศกาลภาพยนตร์บูรณะ ของหอภาพยนตร์จัดภาพยนตร์มาฉายที่โรงภาพยนตร์ Lido แถมช่วงเวลามันก็ช่างพอดีกับเวลาที่ผมเข้าเมืองกรุงเหลือเกิน
ตอนนั้นไม่ได้ไปหาข้อมูลอะไรเพิ่มเลยครับ ภาพยนตร์บูรณะคืออะไรก็ไม่แน่ใจ เดาไว้ว่าคงคล้ายๆตอน เจอฟิล์มภาพยนตร์เรื่อง สันติ-วีณา แล้วเขาเอามาเข้ากระบวนการบูรณะใหม่ อะไรแบบนี้ รู้แค่ชื่อภาพยนตร์แต่ละเริ่องที่เข้าฉาย มาจากหลากหลายประเทศ ซึ่งก็ไม่รู้จักซักเรื่อง (คุ้นๆอยู่แค่ Gate of Flesh ล่ะกระมัง) แต่ตั้งใจไว้เลยว่า เราจะไปดูแน่นอน รายละเอียดอะไรก็ช่างมัน ไปให้ทันดูก่อนก็แล้วกัน
|
ภาพจาก www.womjapan.com |
นั่นล่ะครับ มันก็เป็นมาด้วยประการล่ะแบบนี้เอง พอเห็นท่าว่า เฮ้ย แถมไม่น่าเชื่อเผลอๆจะไปดูได้ทุกเรื่องในโปรแกรมด้วยเว้ยเฮ้ย เราก็ดีใจเล็กๆ ซึ่งบางคนคงไม่แน่ใจว่าจะดีใจทำไม แต่ก็เอาน่ะ ผมดีใจของผม มันก็ช่วยไม่ได้
จริงๆแล้วนี่ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่คาดหวังได้จาก ลิโด-สกาล่า ในช่วงหลังๆมานี้อยู่แล้ว เนื่องจากหลังยุครุ่งเรื่องของโรงภาพยนตร์ที่เพิ่งเริ่มสร้างธุรกิจ และตัวอาคารให้มีความโอ่โถง รองรับผู้ชมได้เป็นจำนวนมาก จนหลังๆโรงภาพยนตร์กลายเป็นมัลติเพล็กซ์ แตกเป็นโรงย่อยๆขนาดพอประมาณหลายๆโรง ย้ายตัวไปอยู่บนตึกอาคาร มีที่จอดรถ ทีกิน ที่ช๊อปฯ สรรพสินค้า ฯลฯ ทั้งในเวลาต่อมาการดูหนังก็สะดวกไปอีกด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลและอินเตอร์เน็ต โรงภาพยนตร์แบบเก่าจึงซบเซาลงมากกว่ายุครุ่งเรืองมาก
โรงภาพยนตร์ในเครือ Apex ก็ไม่ต่างกัน ทั้ง สยาม ลิโด สกาล่า ว่าไปการที่โรงยังยืนหยัดฉายหนังในรูปแบบโรงภาพยนตร์แบบเดิมมาจนปัจจุบันได้น่าจะเป็นเรื่องที่น่าทึ่งอย่างนึงด้วยซ้ำ ทั้งๆที่โรงภาพยนตร์อันใหญ่โตมีชื่อและรุ่งเรื่องในอดีตล้วนล้มเลิกกิจการกันไปหมดแล้ว
ว่าไป ลิโด (ที่เรา และก็ผม รู้จัก) ในตอนนี้ ก็ไม่เชิงเป็นโรงภาพยนตร์ในรูปแบบดั้งเดิมนัก เพราะครั้งนึงลิโดก็เป็นโรงใหญ่ Stand Alone รองรับผู้ชมจำนวนมากและฉายภาพยนตร์ได้ครั้งละ 1 เรื่อง เหมือนๆสยามกับสกาล่าน่ะแหละ แต่ในกาลต่อมาลิโดเกิดไฟไหม้ หลายอย่างเสียหายไป แต่ลิโดก็ยังไม่ล้มเลิก ยังปรับปรุงโรงและพื้นที่โรง เพื่อเป็นโรงฉายภาพยนตร์ขนาดเล็กลง 3 โรง รายล้อมด้วยพื้นที่ร้านค้าให้เช่า โรงภาพยนตร์ลิโดจึงยังคงยืนหยัดเป็นสถานที่ฉายภาพยนตร์แห่งหนึ่งกลางสยามมาจนทุกวันนี้
ผมเองรู้เรื่องเหล่านี้หลังจากรู้จักกับ ลิโด ครั้งแรกๆไปเป็นปีแล้ว(มัง) ก็แปลกใจอยู่นิดๆว่าทำไม ลิโด ไม่เหมือนโรง สยาม กับ สกาล่า (แต่ก็ไม่ค่อยได้คิดเรื่องนี้หรอก ทีแรกคิดเอาเองว่าหรือลิโดจะสร้างทีหลังสุด แล้วเขาปรับให้ย่อยเป็นหลายโรงสไตล์คล้ายๆมัลติเพล็กซ์ด้วยซ้ำ)
ผมลองพยายามนึกดู ก็จำไม่ได้ซะแล้วว่าภาพยนตร์เรื่องอะไรที่ผมได้เข้าไปดูที่ ลิโด เป็นครั้งแรก หรือความจริงจะให้นึกเรื่องแรกที่ไปดูที่ สยาม หรือ สกาล่า ก็จำไม่ได้เหมือนกัน - - (จะ SF Cinema City MBK หรือจะ Paragon โน้นนี่ ก็จำไม่ได้เหมือนกันเหอะ แม้ว่าจะมีเรื่อง 'พิเศษ' ที่จำได้ในกรณีเฉพาะกว่านี้ก็ตาม...) เอาเป็นว่าในครั้งแรกที่เข้ากรุงไปอยู่แถวๆนั้นเป็นนานนั้น ผมไม่ได้เข้าไปดูหนังที่ทั้ง 3 โรงเป็นที่แรกๆหรอกครับ ก็เข้าไปดูในโรงมัลติเพล็กซ์ตามห้างทั่วไปนั่นแหละ SF MBK ไรงี้ จำได้ว่าตอนนั้นยังมี EGV ที่ Siam Discovery กับ Big C ตรงข้าม World Trade Center (อดีตของ Central World ฮะ เผื่อใครไม่รู้) อยู่เลย (แถมโรงภาพยนตร์บน World Trade Center ก็เป็นโรงของเครือ Major ซะด้วยนะ) พารากอนยังไม่มีด้วยซ้ำ (อืม ดูยาวนานขึ้นมาทันที แถม:เป็นยุคที่หนังเข้าใหม่ยังเปิดตัววันศุกร์กันอยู่เลย อืม...)
เอาเป็นว่าครั้งแรกจริงๆที่ผมขึ้นไปเพื่อจะดูว่าโรงภาพยนตร์ ลิโด เป็นยังไง ถ้าพูดกันตรงๆ ผมออกอาการ เหวอ นิดๆด้วยซ้ำ เพราะมันดูต่างจากโรงตามห้างอยู่ประมาณหนึ่ง (ก่อนหน้ายุคนั้นผมไม่ค่อยได้ดูภาพยนตร์เท่าไหร่ครับ ไม่มากที่มากโรงนัก ไม่ว่าจะจังหวัดไหนก็ตาม ภาพของโรงภาพยนตร์ในความคิดของผมก็เลยไม่ได้หลากหลายอะไรนัก) แต่สรุปแล้วทำไปทำมา สรุปก็ได้ไปดูภาพยนตร์ที่โรง ลิโด ซึ่งก็รวมทั้ง สยาม และ สกาล่า ด้วย ก็ไม่แน่ว่าจากโรงในเครือเอเพ็กซ์ทั้งหมด ลิโด น่าจะเป็นโรงแรกที่ผมได้เข้าไปดู? อันนี้พยายามนึกก็ไม่แน่ใจ(อีกแล้ว)จริงๆ
แต่ ลิโด ก็เป็นโรงภาพยนตร์ที่ผมเข้าไปดูภาพยนตร์บ่อยที่สุดแน่นอนในระยะหลังๆ
|
บางคนคงคุ้นเคย... |
สิ่งที่ทำให้ผมเข้าไปดูภาพยนตร์ในโรงเครือเอเพ็กซ์นั้น ไม่นับว่าครั้งแรกจริงๆก็เป็นเพราะหนังที่อยากดูในรอบที่คิดว่าโอเคมันฉายอยู่ที่นั่น (ซึ่งจำไม่ได้แล้วว่าเป็นเรื่องอะไร แต่เป็นเพราะหนังแน่นอน อันนี้มั่นใจ) ว่ากันซื่อๆในครั้งแรกๆส่วนนึงก็มาจากเรื่อง ราคาค่างวดในการชมภาพยนตร์นั่นเอง จำได้ว่าในตอนนั้นถ้าไม่ 100 บาท ก็คงจะ 80 บาท ซึ่งราคาตั๋วชมภาพยนตร์โดยทั่วไปแพงกว่านี้ และก็จริงอยู่ที่เราสามารถมีวิธีชมภาพยนตร์ในราคาประมาณนี้บนโรงมัลติเพล็กซ์ในห้างได้เหมือนกัน แต่ถ้าไม่ต้องเลือกเวลา ก็ดูที่ ลิโด-สยาม-สกาล่า นี่แหละ ถูกสุดแล้ว สำหรับโรงภาพยนตร์ที่มีทั้งเครื่องเคราและบรรยากาศในการชมภาพยนตร์ในระดับนี้ ยิ่งทำให้ผมไม่ค่อยคิดอะไรมากเมื่อมีหนังที่อยากดูเข้าที่โรงเหล่านี้ ผมก็หาเวลาไปชมเลย จบ. (ยกเว้นถ้าเดือนนี้รู้สึกว่าหนังที่อยากชมมันจะมากเรื่องไปหน่อยไหมเอ็ง อันนี้ก็มีบ้างที่แบบ เฮ้ย เอาน่ะ เดือนนี้ประมาณนี้พอ สำหรับใครที่สงสัยว่าทำไมต้องดูเป็นเดือนๆ เอาว่าเหล่ามนุษย์มาม่าท้ายเดือนคิดว่าคงพอเข้าใจกัน(ล่ะกระมัง?))