วันพฤหัสบดีที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

ชวนดู เทศกาลภาพยนตร์เงียบ ประเทศไทย ครั้งที่ 5 (24-31 พฤษภาคม พ.ศ.2561) @ Lido

อย่างที่กล่าวถึงไป นี่เป็นเทศกาลที่ผมรู้สึกดีใจที่มีหอภาพยนตร์ฯการจัดขึ้น และได้จัดขึ้นที่ ลิโด ติดต่อกันเป็นปีที่ 5 แล้ว (และคงเป็นปีสุดท้ายที่ ลิโด...)

ในเวลาก่อนนานมานั้น ภาพยนตร์ในรูปม้วนฟิล์มยังไม่มีการแทรก track เสียงเข้าไปประกอบกับ track ภาพเคลื่อนไหวได้ การฉายภาพยนตร์ในยุคเก่าก่อนก็สมกับคำว่า motion picture ที่แปลว่าภาพเคลื่อนไหวจริงๆ เพราะมีแค่ภาพเคลื่อนไหวให้ดูให้ชมกัน แต่ไม่มีเสียง เข้าใจว่าบางที่ก็คงดูกันไปเงียบๆอย่างนั้น (ไม่ทันเป็นสักขีพยาน) บางที่ก็คงมีการใช้เสียงประกอบบ้าง ดนตรีบ้าง พูดบรรยายเอาบ้าง

แต่ในบรรยากาศโรงภาพยนตร์ยุคหนึ่ง ก็คงมีการนำดนตรี หรือวงดนตรีไปประกอบให้สมกับเป็นการแสดงในโรงมหรสพ และลักษณะเช่นว่านั้นก็ได้ปลาสนาการไปจากการฉายภาพยนตร์ในปัจจุบันยาวนานแล้ว ยิ่งไม่นับว่าฟิล์มเองก็กลายเป็นการถอดรหัสดิจิทัล เพื่อแสดงภาพและเสียงแก่ผู้ชมในโรง

อย่างไรก็ดี ก็คงมีผู้อยากรู้ อยากรับบรรยากาศของประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ในยุคเก่าก่อน ประกอบกับคงมีการพยายามบูรณะหลักฐานและมรดกทางประวัติศาสตร์ เทคโนโลยี และศิลปะ เหล่านี้เก็บไว้ จึงมีการบูรณะภาพยนตร์เงียบเหล่านี้มาเพื่อฉายในยุคดิจิทัล และมีการแสดงดนตรีประกอบ ให้กลับไปคล้ายคลึงกับรูปแบบการฉายในสมัยนั้น แม้ไม่อาจถอดแบบมาได้สมบูรณ์ทั้งหมด แต่สำหรับบางคนมันอาจเป็นเรื่องน่าตื่นตา ตื่นหู และตื่นใจ ไม่แพ้การชมภาพยนตร์ในโรง IMAX ทีเดียว ซึ่งบรรยากาศเหล่านั้นยังคงสะกดใจคนที่สนใจหลงใหลในเรื่องราวเหล่านั้นได้เสมอ หลายคนอาจได้ลองชม The Artist ภาพยนตร์ออสการ์เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ที่เป็นเหมือนจดหมายรักถึงยุคแห่งภาพยนตร์เงียบ ซึ่งก็อาจจะพบว่ามันสนุกและบันเทิงได้ไม่ต่างไปจากระดับความรู้สึกที่ได้จากหนังในทุกวันนี้เลย

ภาพจากเว็บไซต์ของหอภาพยนตร์ www.fapot.org

หอภาพยนตร์ได้จัดเทศกาลภาพยนตร์เงียบขึ้นนประเทศไทยด้วย (ซึ่งอย่างที่กล่าวไว้ว่าผมประทับใจมาก ลองกลับไปอ่านในบทความก่อนดู) และต่อเนื่องมาถึงในปีนี้ ซึ่งมีการเลือกธีม เลือกภาพยนตร์สำคัญๆ พร้อมคุณูปการของเรื่องนั้นๆไว้ย่อๆเพื่อผู้สนใจชมได้ทราบ แล้ว ลองเข้าไปดูรายละเอียดภาพยนตร์ในเทศกาลปีนี้ทั้งหมด ระหว่างวันที่ 24-31 พฤษภาคม พ.ศ.2561 ได้ที่เว็บไซต์หน้าเทศกาลฯของหอภาพยนตร์ และหน้า facebook ของ Apex ซึ่งในบรรยากาศและขนาดของโรงลิโด ผมคิดว่ามันพอดีเหมาะเจาะทีเดียวในการที่จะชมภาพยนตร์ และชมดนตรี ไปพร้อมๆกัน

ภาพจาก www.apexsiam-square.com


ผมเองแม้ไม่ได้มีโอกาสชมทุกเรื่อง หรือทุกปี (อย่างที่บอกว่าวันธรรมดาบางวันก็ไม่สามารถมาได้เลย และปีที่แล้วก็ไม่มีโอกาสมาชมได้) แต่ก็มีประสบการณ์น่าประทับใจมากมาย ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เห็นการแสดงดนตรีประกอบในโรงภาพยนตร์ และเสียดายมากในปีที่มีการเลือกหนังเงียบของ ผู้กำกับ อัลเฟรด ฮิตช์ค็อก (Psycho, Vertigo, Rear Window, Rebecca, The Birds ฯลฯ) มาฉายด้วย การณ์กลับกลายเป็นว่า... ผมไม่สามารถหาเวลาไปชมให้ตรงรอบฉายของผู้กำกับแกได้เลยแม้แต่เรื่องเดียวอย่างน่าพิศวง T T  หรือมีเรื่องนึงที่ถ่อไปได้ใกล้เคียงเวลาฉาย แล้วก็ไปไม่ทัน แต่มาแล้วก็ตัดสินใจดูล่ะวะ ไม่งั้นจะหามาดูได้ที่ไหนอีก - - การณ์ก็กลับกลายเป็นว่าหนังเงียบฝรั่งเศสเรื่องนั้นเป็นหนังที่ตลกบันเทิงมากๆ ชนิดดูจบก็สนุกมากไม่ต้องคิดเลยว่ามาดูหนังเงียบหรือหนังอะไร (ทำให้ใจนึงก็ดีใจที่ตัดสินใจดู อีกใจก็ยิ่งเจ็บใจที่มาให้ทันไม่ได้ มนุษย์ช่างเต็มไปด้วยความทุกข์ - - (เอ็งนั่นแหละ)) และการได้เห็นนักดนตรีทั้งคนไทย และต่างประเทศแสดงฝีมือบรรเลงดนตรีประกอบไปตลอดความยาวการฉาย ซึ่งก็มีทั้งลูกเล่น สไตล์ อารมณ์ที่แตกต่างกัน บางท่านยังมีเครื่องดนตรีหลายชิ้นซะด้วย แสดงฝีมือกันเต็มที่ ในพื้นที่ค่อนข้างเหมาะเจาะไม่เบาในโรงลิโด สิ่งเหล่านี้ในราคาแค่ 100 บาท! ไม่คุ้มก็ไม่รู้จะว่าอย่างไรแล้ว

ใครที่สนใจก็อยากให้ลองเช็ครอบให้ดี (อย่าพลาดอย่างผม - -) แล้วลองไปชมกันนะครับ

ไม่นับว่าจริงๆในขณะนี้ที่ตั๋วภาพยนตร์ของ 2 หนังรอบสุดท้ายวันที่ 31 พฤษภาคม เต็มไปจนล้นที่นั่งสำรองแล้ว (ติดตามได้ใน facebook ของ Apex) จริงๆในโรง 2 ผมว่า แม้มันจะต่างไปจากประสบการณ์หรือความคาดหวังทั่วไปในการชมภาพยนตร์ของคุณ รอบสุดท้ายของเทศกาลภาพยนตร์เงียบครั้งที่ 5 ก็ยังเป็นการสั่งลาทั้งเทศกาลฯ และลิโด ด้วยความประทับใจที่ไม่ต่างกันเลย...
(ผมเสียดายและเสียใจอย่างยิ่งเช่นเคยที่ไม่มีโอกาสได้ไปชม)

@ ลิโด

บรรยากาศภายในโรงที่คุ้นเคย พอเหมาะพอเจาะกับเทศกาลภาพยนตร์เงียบ (ไม่ค่อยได้มองจากมุมนี้เท่าไหร่...)


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น