วันพฤหัสบดีที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2560

โจนาธาน เดมเม ผู้กำกับเจ้าของรางวัลออสการ์จาก Silence of the Lambs และ Philadelphia เสียชีวิตแล้วด้วยอายุ 73 ปี

โจนาธาน เดมเม ผู้กำกับเจ้าของรางวัลออสการ์จาก Silence of the Lambs และ Philadelphia เสียชีวิตแล้วด้วยอายุ 73 ปี เมื่อเช้าวันที่ 26 เมษายน ในนิวยอร์ค

ก่อนหน้านี้เขาป่วยด้วยโรคมะเร็งหลอดอาหาร ตั้งแต่ปี ค.ศ.2010 เข้ารับการรักษามาตั้งแต่นั้น และอาการกลับมากำเริบในปี ค.ศ.2015 ก่อนจะมีอาการทรุดหนักเมื่อไม่นานมานี้ ก่อนจะเสียชีวิตจากโรคที่รุมเร้าและอาการแทรกซ้อนด้วยโรคหัวใจ

(ภาพจาก http://www.indiewire.com)


โจนาธาน เดมเม (Jonathan Demme) น่าจะเป็นที่รู้จักมากที่สุดจากการกำกับ Silence of the Lambs ซึ่งดัดแปลงจากนิยายต้นฉบับโดย โธมัส แฮร์ริส ( Thomas Harris) ที่คว้า 5 รางวัลออสการ์ ซึ่งล้วนเป็นสาขาสำคัญ (ประมาณไฟฟ์แกรนด์อวอร์ด) คือ ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม, นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม, ผู้กำกับยอดเยี่ยม และบทยอดเยี่ยม
โดยเป็นการเข้าชิงในสาขาผู้กำกับของรางวัลออสการ์เพียงครั้งเดียวของ โจนาธาน เดมเม ด้วย

Silence of the Lambs ยังเป็นภาพยนตร์สำคัญในขอบข่ายที่ตัวหนังเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเขย่าขวัญ จิตวิทยา สืบสวนสอบสวน หรือภาพยนตร์ที่ดัดแปลงจากนิยาย ฯลฯ  และเป็นหนึ่งในงานชิ้นสำคัญของทุกๆคนตั้งแต่ผู้เขียนนิยาย นักแสดง ผู้กำกับ ผู้เขียนบท ไปจนสตูดิโอผู้สร้าง
ทั้งยังสร้างให้ ฮันนิบาล เลคเตอร์ ที่รับบทโดย แอนโทนี่ ฮ๊อปกินส์ กลายเป็นหนึ่งในไอคอนสำคัญของโลกภาพยนตร์



พูดแล้วก็อยากกลับไปเอา  Silence of the Lambs มาเปิดดู

โจนาธาน เดมเม ยังกำกับหนังอย่าง Philadelphia ที่ส่งให้ ทอม แฮงค์ คว้าออสการ์ตัวแรกในสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม (ก่อนจะคว้าตัวที่สองจาก Forrest Gump ในปีถัดมา - และก็น่าเสียดายอยู่เหมือนกันที่เขาพลาดเข้าชิงจาก Sully)



แม้จะดูว่า โจนาธาน เดมเม อาจไม่ใช่ชื่อที่ได้ยินหนาหูในวงการล่ารางวัลนักในยุคหลังๆ และดูจะไม่ได้มีสไตล์กำกับที่สวิงสวายนัก (และผมเองก็ไม่ได้ตามดูทุกเรื่องเหมือนกัน) แต่ โจนาธาน เดมเม ก็กำกับภาพยนตร์มาเรื่อยๆตลอดเวลาที่ผ่านมา ทั้งยังเป็นหนังที่ผมชอบและน่าสนใจ

เช่น Rachel Getting Married ที่มี แอนน์ แฮทธาเวย์ นำแสดง

วันศุกร์ที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2560

กล่าวถึง KAAN กำกับการแสดงโดย กอล์ฟ (ปวีณ ภูริจิตปัญญา) : แบบทันควัน

เพิ่งพูดถึง คุณ ปวีณ ภูริจิตปัญญา ไปหยกๆ ตอนเขียนถึง หลาวชะโอน ไว้ในตอนเขียนถึง (หลายถึงจัง) เปรต อาบัติ

ซึ่งก็ต้องถือเป็นความประจวบเหมาะ (ละกระมัง?) เพราะกว่าจะเขียนถึง เปรต อาบัติ ก็ดองไว้นานเอาการ เขียนปั๊บ นึกถึง หลาวชะโอน ไว้ท้ายบทความ พร้อมคำโปรยอยู่เลยว่า  '...มักผสานงานเทคนิคพิเศษเข้ากับหนังเสมอๆ กำกับ บอดี้ ศพ19, ยันต์สั่งตาย (จากการ์ตูนของ เอกสิทธิ์ ไทยรัตน์ ที่เขียนถึงไว้นิดหน่อยในตอนบทความ 13 เกมสยอง) และ 14 ในรัก7ปีดี7หน) รอพี่กำกับเรื่องใหม่อยู่นะครับ...'

จู่ๆก็พบว่า เฮ้ย คุณ กอล์ฟ-ปวีณ มีงานชิ้นใหม่! จากเบาะแสในหน้าเพจของ คุณ นวพล Nawapol Thamrongrattanarit (ซึ่งเป็นผู้กำกับหนังไทยหนึ่งในเรื่องที่ชอบเป็นอันดับต้นของปี พ.ศ.2558)

ภาพจากหน้าเพจดังว่าไว้ ห้ามกดนะ กดไม่ได้จ้า (คลิกลิงค์ด้านบนเอาแทนนะ)


เราก็ได้ทราบว่า อ่าว เฮ้ย คุณ ปวีณ ภูริจิตปัญญา มีงานใหม่นี่หว่า!?

[ภาพยนตร์] เปรต อาบัติ : กรรม ของใคร ของมัน...



มารู้เอาทีหลังว่า เปรต อาบัติ คือฉบับ Director's Cut ของ อาปัติ ซึ่งออกฉายในปี พ.ศ.2558 และมีประเด็นของเนื้อหาหรือภาพที่ล่อแหลมและถูกพิจารณาว่าไม่เหมาะสม จนมีการเปลี่ยนชื่อจากเดิมใช้ชื่อ อาบัติ (ลองอ่านได้จาก วิกิพีเดีย ก็ได้) และเข้าฉายหลังจากนั้นไม่นาน โดยมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆกันไป บ้างก็ว่าเป็นการหวังเอากระแสรึเปล่า? อะไรต่ออะไรไป ในเรื่องผลตอบรับดูเหมือน อาปัติ ครั้งเข้าฉายในตอนนั้นก็จะทำได้ดีพอควรทีเดียว กับรายได้กว่า 50 ล้านบาท (เท่าที่จำได้) มีบทบาทในเวทีรางวัลพอสมควร (ร่วมปีกับหนังอย่าง ฟรีแลนซ์ฯ, Snapฯ, เมย์ไหนฯ, พี่ชาย My Hero, อนธการ, Vanishing Point, รุ่นพี่, เพลงของข้าว, ฯลฯ เป็นอาทิ) บางเรื่องก็เคยเขียนถึงใน 5 หนังไทยที่ชอบปีนั้นไปแล้ว ซึ่งก็ไม่มี อาปัติ เพราะ ตอนนั้นก็ไม่ได้ไปดูเรื่องนี้น่ะครับ - - (หลายเรื่องก็ไม่ได้ดู เช่น พี่ชาย My Hero, อนธการ หรือ The Down ก็ดองดีวีดีไว้นานแล้วนาเนี่ย... - -) แถม อาปัติ ยังมีชื่อเป็นตัวแทนหนังไทยไปชิงออสการ์ปีนั้นด้วย

ตอนนั้นจริงๆก็เสียดายเหมือนกันที่ไม่ได้ไปดู ได้ดูแต่ตัวอย่างหนัง ซึ่งก็ดูจะมีประเด็นล่อแหลมอยู่ แต่ก็ไม่รู้ว่าที่มีปัญหากับการพิจารณามันคือประเด็นไหนหรือส่วนไหน? แต่ก็เข้าใจว่าคงไม่ใช่ส่วนเนื้อหาที่เห็นในตัวอย่าง?

ก็ดูเป็นการตลาดงงๆอยู่บ้างเหมือนกัน ที่ อาปัติ จะกลับมาฉายในฉบับ Director's Cut ในต้นปี พ.ศ.2560 นี้ (ในขณะที่ไอกระผมก็ยังไม่ได้ดูฉบับปี พ.ศ.2558 เหมือนเดิม...) ทีแรกตัวเองก็คิดว่ามันเป็นภาคต่อ เหมือนหลายๆคนเหมือนกัน ซึ่ง...ตามประสาคนเรื่องมาก พอมีภาคต่อมา แม้จะน่าสนใจ (เอาจริงๆ แค่ติดว่าหนังเองแข็งแรงพอจะมี ภาคต่อ ออกมา สำหรับตัวเอง ก็น่าสนใจพอประมาณแล้ว) แต่พอไม่ได้ดู อาปัติ มาก่อน เราก็คิดว่าอาจจะเอาไว้ก่อนละกัน พอมารู้ทีหลังว่ามันเป็นฉบับ Director's Cut ก็ดันเปลี่ยนไปสนใจจะดูขึ้นมา (เรื่องมากจริง - -) ซึ่งรู้สึกว่าครั้งนี้เหมือนกระแสจะไม่เท่าตอน อาปัติ เข้าฉาย แถมไม่ใช่จะรู้ก่อนหนังเข้าเสียเมื่อไหร่ มารู้และเกิดอยากจะดูเอาทีหลัง ก็เลยหาดูลำบากตามเคย... เฮ้ออ...

แต่สุดท้ายก็ไปดูมาจนได้

และก็ไม่ผิดหวังนะ

วันเสาร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2560

ข่าวหนัง(ไม่ค่อย)ทันโลก(ฉบับตามใจฉัน) : ปัญหาชุดน้องนางใน Jumanji รีบูต!!


ก็มีประเด็นเล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับ ภาพชุดแรกๆจาก Jumanji หนังสำคัญเรื่องหนึ่งในยุคของตัว ที่เคยพูดถึงไปใน 13 เกมสยอง (ซึ่ง...มันสยองยังไง...ไปลองอ่านดูเองละกันนะฮะ...) ที่จะกลับมารีบูตกันอีกรอบ
เกี่ยวกับ ชุดของแม่สาว(นางเอก?) Karen Gillan ว่านั่นชุดเอาไว้ลุยป่าแน่เรอะ??! (ใครถามมาผมก็ไม่ทราบชัดนะครับ คงต้องไปตามสืบค้นกันเอาเอง - เข้าใจจว่าคงมีหลายคน) อะไรแบบนี้...

ซึ่งพี่กล้ามโต ดเวน "เดอะ ร็อค" จอห์นสัน (ที่กะลังจะโผล่มาพบคุณๆอีกครั้งใน Fastฯ 8 และ Bay Watch ซึ่งนี่ก็อีกรีบูตขึ้นจอ) ก็ออกมากล่าวแก้ให้น้องนางเอกไว้ว่า "เชื่อเฮ๊อะ ถ้าคุณๆรู้พลอตเรื่องแล้วละกัน จะรู้ว่ามันเหมาะกับน้องมั่กๆ มันมีเหตุผลนะ" (กรุณาอย่าเชื่อคำแปลมาก ตรวจสอบตากต้นฉบับด้วยตัวเองดีที่สุด อย่าเชื่ออะไรในเนตง่ายๆนะจ๊ะ...

และเมื่อฟุตเตจแรกของหนังเผยโฉมในงานคอมมิคคอน เหตุผลที่เฮียว่าก็ถูกเปิดเผย

ว่า (ใครไม่ต้องการโดนสปอยล์เลย (ไม่รับประกันว่าตัวอย่างหนังจะไม่สปอยล์ หรือถ้าไปหาดูฟุตฯที่ว่าก็คงโดนเหมือนกัน...อืม...) ก็รอดูหนังเลย จบนะ.)

คราวนี้ Jumanji จะกลายไปเป็น เกม...