วันศุกร์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2559

[ภาพยนตร์] THE HATEFUL EIGHT 8 พิโรธ โกรธแล้วฆ่า : 8 คนไม่น่าไว้ใจ มาทำอะไรในที่พักกลางหิมะ?


8 คนเถื่อนในที่พำนักท่ามกลางพายุหิมะ ในช่วงใกล้ๆสงครามกลางเมืองรัฐฝ่ายเหนือฝ่ายใต้ในอเมริกา (น่าจะหลังมาหน่อยๆ) ยังคงมีความยียวน ไม่น่าไว้วางใจว่าจะเอายังไงแน่ ทั้งในการแสดงและบทสนทนา พร้อมยังมีความจังหวะความรุนแรงเฉพาะตัว (แบบเดาได้บ้างไม่ได้บ้าง) ในสไตล์ของ เควนติน ทารันติโน่ เพราะงั้นขาประจำตีตั๋วดูได้เลย ส่วนขาจรถ้าชอบอะไรๆที่ว่ามาในหนังซักเรื่อง ระวังแค่เรื่องความยาวก็คงพอ (แต่เราดูก็ไม่ค่อยรู้สึกตอนดูว่า เฮ้ย ยาวจัง เมื่อไหร่จะ... นะ) 7.8 คะแนน  คะแนนอาจดูกั๊กๆซักหน่อย แต่ก็เพราะข้อด้อยสำคัญ (สำหรับพ้ม) น่าจะแค่ในกระบวนหนังเควนติน มันมาต่อจาก DJANGO UNCHAINED เท่านั้น...

จริงๆแล้วเขียนแค่ด้านบนนี้ก็คงพอ แต่เพื่อไม่ให้เสียกระบวน และไม่ให้คิดไปว่าเหมือนไม่ค่อยชอบหนัง ก็เขียนอีกซักนิดก็แล้วกัน

นั่นซิครับ? 8 คนไม่น่าไว้ใจ มาทำอะไรในที่พักกลางหิมะ? เอ้า ก็มันมีพายุหิมะ จะให้ฝ่าพายุไปเสี่ยงชีวิต ค่าหัวที่อุตส่าห์แบกมากับชีวิตตัวจะเปล่าดายตายซากท่ามกลางความหนาวเหน็บมันก็ไม่ใช่เรื่อง แต่พอดีว่าในที่พักมันก็มีคนจับจองหลบภัยกันอยู่หลายคน มันก็ต้องหลบๆด้วยกันไปก่อนนี่แหละ รอเวลาว่าเมื่อไหร่พายุหิมะจะสร่างซาและพัดผ่านไป... พูดอีกที 8 คนไม่น่าไว้ใจ มาทำอะไรในที่พักกลางหิมะ? ก็มาให้มีเรื่องกันนั่นแหละ ตามสไตล์หนังเควนตินล่ะนะครับ ดูชื่อไทยก็รู้ 8 พิโรธ โกรธแล้วฆ่า! มันต้องมีอะไร(รุน)แรงส์ๆ บ้าๆบอๆ กวนๆยวนๆ กว่าที่เราเห็นใน 12 ANGRY MEN ที่ก็โกรธแต่ไม่ได้มาทำอะไรแบบนี้แน่นอน!?

เพราะงั้นจริงๆ อะไรๆที่เราเห็นในหนังเควนตินส่วนใหญ่ก็ยังอยู่กันครบ นักแสดงแต่ละคนก็เล่นกันมันส์ใช่ย่อย ใครที่คิดว่าเฮ้ยทางเราอยู่แล้วอะไรแบบนี้ ก็ไปดูได้เลย จะได้รับอะไรที่คาดหวังไว้ไม่มากก็น้อยแน่นอน ไม่ผิดไปจากนี้ได้ ไม่ต้องอ่านต่อ เพราะที่เหลือจะไว้บ่นถึงอะไรที่ทำให้คะแนนมันกั๊กๆก็คงพอ (แปลว่าต่อจากนี้อาจมีบางอย่างที่หลุดมาแล้วบางคนคิดว่าสปอยล์ก็ได้)



อันที่จริงก็อย่างที่บอก ถ้านับกันในหนัง 5 เรื่องหลังสุดของทารันติโน่ (จากทั้งหมด 8 เรื่อง - ที่นับแบบตัดโน่นตัดนี่ไปนิดหน่อย) DJANGO UNCHAINED เป็นหนังที่ชอบที่สุดของเฮีย ที่แม้จะไม่ถึงกับรู้สึกว่าเนี๊ยบนิ๊งไม่มีที่ติ มีอะไรขัดๆนิดๆหน่อยๆ (หนังที่ไม่มีที่ตินี่อาจจะไม่มีหรอกมัง?...) แต่ทั้งโครงเรื่อง ความบ้า ความโหด (แถมความเศร้า...) และการแสดงของคาแรกเตอร์สำคัญก็ยังเป็นอะไรที่ไปถึงขั้นสุดในหลายๆตอน หลายๆตัวละคร เลยทีเดียว โดยเฉพาะตัวละครนำนักแสดงอย่าง เจมี่ ฟอกซ์ แม้จะไม่ได้อะไรนักในเรื่องรางวี่รางวัลแต่ก็เล่นได้มันส์กับบท หรือจะ คริสตอพ วอลซ์ หมอฟันนักล่าค่าหัว กับพาหนะไอคอนของตะแก (คือ แค่นี้ก็เด็ดดวงได้แล้ว) ก็เล่นได้สุดมากๆ ราวกับทั้งนักแสดงทั้งผู้กำกับปั้นตัวละครตัวนี้มาอย่างดี จนกลายเป็นตัวละครที่มีเสน่ห์มากๆตัวละครนึงของทารันติโน และอีกหนึ่งตัวละครที่ดูเหมือนทั้งนักแสดงทั้งผู้กำกับปั้นมาโหดพอๆกันคือ ตัวละครของ พี่ลีโอ ดิคาปริโอ ของเรานั่นเอง ที่ก็ดีจนมีบทบาทในเวทีรางวี่รางวัลกับเขา(อีกครั้ง!)ก็จริงหรอก แต่... เราข้ามไปครับ เอาเป็นว่าแกเล่นได้เวรกรรม (น่าจะมีหลายคนอยากให้ตามทันมาก เอ๊ะ รึว่า....? มันจะเกี่ยวได้ไงละหือ?!) และน่าสะพรึงดีมาก (นี่คำชมทั้งนั้น) พอถึงจุดนี้ เทียบกันแล้ว THE HATEFUL EIGHT แม้นักแสดงจะเล่นได้มันส์กันใช่ย่อย แถมบางจังหวะปล่อยของนั้นก็ให้มาก และคาแรกเตอร์หลายๆตัวก็ปั้นมาดี แต่ ก็ยังรู้สึกว่าความพีครวมๆยังเทียบระดับความรู้สึกใน DJANGO UNCHAINED ไม่ได้อยู่ดี

เอาแค่พ่อขาประจำ แซมมวล แอล แจ๊คสัน ใน THE HATEFUL EIGHT เล่นได้มันส์มาก บทก็เยอะและเด่น ซึ่งเฮียไม่ได้ทำให้ผิดหวังเลย แต่ พอนึกไปถึงบทใน DJANGO UNCHAINED ที่ถึงบทจะดูน้อยกว่า แต่บทมันให้ บวกกับที่ตะแกเล่นได้มันส์จนบางคนอาจจงเกลียดจงชังตัวละครตัวนี้อยากลากไปยิงทิ้งมาก (นี่ก็คำชม) กลายเป็นว่าแม้จะได้ปล่อยของน้อยกว่า แต่บทแกในเรื่องโน้นก็อาจติดตาติดใจผู้ชมได้ฝังลึกง่ายกว่าซะงั้น... แต่เอาจริงๆ ใครชอบเฮียแก เรื่องนี้ก็ควรไปดูนะ ไม่ผิดหวังกันหรอก

อีกอย่างก็คือ ด้วยโครงเรื่อง คนหน้าแปลกมาติดพายุอยู่รวมกันในที่ที่เดียว มันก็ไม่แปลกที่เรื่องของมันจะเข้าทางโครงเรื่องแบบรหัสคดี ซึ่งจริงๆด้วยความเป็นเควนติน เรื่องก็ยอกย้อนพอสมควร สกิลแบบนี้ของตะแกนึกไปถึง เช่น ใน DJANGO UNCHAINED (อีกแล้ว) ฉากขี่ม้าคลุมหน้าล่า จริงๆเหตุการณ์มันไม่ได้ถือว่าพิสดารอะไร แต่ด้วยความที่เป็นเควนติน เหตุการณ์ที่ดูจะธรรมดาๆกลับใส่โน่นใส่นี่ถูกจังหวะจนบ้าได้ใจไปเฉยเลย แต่พอเป็นโครงแบบรหัสคดี พอรู้สึกขึ้นมา มันอาจจะกลบได้ยากกว่าโครงแบบอื่นๆ ถึงการเปิดปม ดำเนินเรื่อง และคลายปม ซึ่งจริงๆส่วนนี้ก็ไม่ได้แย่ ถือว่าทำได้สนุกด้วยซ้ำ แต่มันไม่ได้ถึงขั้นเยี่ยมยอด หรือสุดยอดเท่านั้นเองครับ แต่ตรงนี้อาจต่างกันไปในแต่ละคน เพราะจริงๆหนังหรือเรื่องซักเรื่องมันไม่ต้องยึดโยงว่าจะเป็นประเภทอะไรแน่ขนาดนั้นก็ได้ แต่อันนี้ด้วยความที่ปกติก็ชอบนักชอบหนาไอแนวรหัสคดีเนี่ย (ซึ่งอันที่จริงเหมือนเคยอ่านมาว่าเฮียเควนตินแกก็อ้างอิงถึงนิยาย อกาธา คริสตี้ ในบทสัมภาษณ์เหมือนกันนะ) ก็เลยเป็นว่าพอถูกนำเรื่องไปทางนี้แล้ว มันก็อดรู้สึกไม่ได้ ยิ่งพอติดตามโครงเรื่องโดยรวมแล้ว ก็ยังรู้สึกว่าเป็นงานที่แตะในขอบเขตตระกูลนี้อยู่ดี (ไม่เหมือนหนังอย่าง รุ่นพี่ ที่ยำซะจนไม่รู้สึก ดูไปหลังๆก็รู้สึกแค่รหัสคดีเป็นส่วนประกอบหนึ่งเท่านั้น) แถมอาจเพราะหนังเลือกยึดโครงในส่วนนี้ มันเลยอาจจะ 'บิด' รูปไม่มากเหมือนหนังหลายๆเรื่องของ เควนติน เอง แต่ส่วนใครที่ไม่รู้สึกในส่วนนี้มากก็น่าจะพึงพอใจในเรื่องราวของหนังมากอยู่นะ เพราะอย่างที่บอกว่าความยอกย้อนสไตล์ทารันติโน ก็ยังทำได้สนุกอยู่นะ

ส่วนที่เหลือก็ชอบนะ ทั้งการเล่าแบบแบ่งเป็นบทๆ คือ แค่ขึ้นชื่อบทมาอ่าน (และนำอารมณ์, ความคาดหวัง) บางตอนก็สนุกแล้ว แม้จะเคยเห็นอะไรแบบนี้มาแล้ว พลังมันเลยอาจลดลงไปบ้าง แต่ก็ยังคิดว่ามันสนุก และเป็นการคั่นเรื่องที่ดี ดนตรีประกอบของ ENNIO MORRICONE ก็ชอบ แม้ดูเหมือนเรื่องนี้จะเพลาๆการใช้เพลงประกอบไปบ้าง (อาจเพื่อให้เข้ากับบรรยากาศในเรื่อง) และภาพก็สวยดี (เสียดายไม่มีความรู้เรื่องฟิล์ม 70 มม. เลยไม่รู้ว่าดูดิจิทัลกับดูฟิล์ม 70 มม. จะต่างกันไหม? แต่จริงๆถ้าได้ลองดูฟิล์ม 70 มม. ก็น่าสนใจนะ - เป็นความตั้งใจของเฮียที่ถ่ายทำด้วยฟิล์ม 70 มม. และฉายด้วยฟิล์ม 70 มม. ในโรงจำนวนหนึ่งในอเมริกา)

ส่วนของเรื่องราว เควนติน ทารันติโน่ ก็ยังสวมเรื่องลงไปในประวัติศาสตร์อเมริกา ซึ่งยังน่าจะเป็นช่วงใกล้ๆกับสงครามกลางเมืองฝ่ายเหนือฝ่ายใต้ และมีบรรยากาศคาวบอย ซึ่งก็ใกล้กับ DJANGO UNCHAINED อีกแหละ อืม ทำติดกันสองเรื่อง แต่ก็ยังให้บรรยากาศต่างกันและดูสนุกได้ ว่าไปก็ไม่ผิดหวังนะ มีข่าวว่าบทร่างแรกเคยหลุดออกไปและ ทารันติโน แกหัวเสียถึงกับจะเลิกทำเรื่องนี้เอา แต่ก็กลับมาทำจนได้ รู้แบบนี้ก็อยากรู้ตามประสาอยู่บ้างว่า เออ ร่างแรกมันต่างกับอันนี้เยอะไหมนะ? (คือไม่รู้แกเขียนบทหลบร่างแรกรึเปล่า?) ก็ถือเป็นความอยากรู้ไปครับ

จริงๆก็กลายเป็นว่าไม่ค่อยมีอะไรที่ทำให้ผิดหวัง เพียงแต่เราคาดหวังสูงไปซะหน่อยเพราะเราชอบ DJANGO UNCHAINED มาก แต่เราดูเรื่องนี้ก็ยังชอบ DJANGO UNCHAINED มากกว่า แต่ถ้าใครชอบหนังเฮียเควนติน หรือคิดถึงหนังเฮีย คิดถึงน้า แซมมวล แอล ฯ นี่ก็ยังไม่น่าพลาดนะ แถมหลายๆคนในเรื่องนี้ก็เล่นได้มันส์มาก หรือจริงๆ ใครชอบ DJANGO UNCHAINED ยังอยากดูอะไรแบบนั้น (คาวบอย ยุคใกล้ๆสงครามกลางเมืองอเมริกา) แต่ไม่เหมือนเดิม เรื่องนี้ก็ดูสนุกอยู่นะครับนี่ ยาวใช่ย่อย แต่เราก็ไม่เบื่อนะ 7.8 คะแนน (แต่คะแนนความคาดหวังสูงมากไปหน่อยน่ะฮะ)

ทำไปทำมาชือเรื่อง DJANGO UNCHAINED  ดันมีมากกว่า THE HATEFUL EIGHT ซะอีกมัง... - - ชอบออกนอกหน้าไปมังนาย...

โบนัส : ชอบ โซอี้ เบล ในเรื่องนี้มากกว่า DEATH PROOF แฮะ (แต่เรื่องนั้นฉากแอ็คชั่นต้องยกให้ครับ)
โบนัส (?) : เรื่องนี้ไม่มี คริสตอพ วอลซ์  แต่เหมือนมี คริสตอพ วอลซ์  ผ่าน ทิม ร๊อธ แฮะ... - - (เดี๋ยวก็กลับไปหา RESERVOIR DOGS มาดูซะหรอก)


นึกถึง


ดีเลยตอนแรกนึกอะไรไม่ค่อยออก จะให้ไปลองดู THE MAGNIFICENT SEVEN รึ SEVEN SAMURAI ก็ยังไงๆอยู่ ( 7 ประจัญบาน ไปเลยไหม!?) แต่ตอนพล่ามๆด้านบน นึกถึง 12 ANGRY MEN ขึ้นมา แนะนำเรื่องนี้ดีกว่า แม้จะไม่เหมือนกัน แต่เป็นเรื่องกลุ่มคนมารวมกันในที่แคบๆเหมือนกัน แต่เรื่องนี้เป็นเกี่ยวกับคณะลูกขุน ที่ต้องมาร่วมพิจารณารายละเอียดคดีคดีหนึ่งเพื่อหาข้อยุติให้ได้ เรื่องที่เหมือนจะง่ายก็กลับไม่ง่ายเพราะในระบบลูกขุนนี้ ทุกคนต้องหามติเอกฉันท์ให้ได้ แม้หนังจะเก่า (ยุคหนังขาว-ดำ) แต่ก็เป็นหนังเน้นบทสนทนาเข้มข้นเหมือนกัน และแม้จะไม่เถื่อนและไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเท่า ทั้งภาพ การถ่าย จังหวะการเล่า อาจดูไม่ทันสมัยเท่าหนังปัจจุบัน แต่ตัวบทหนังเองถือว่าหนังหลายเรื่องสมัยนี้ยังต้องค้อนขวับ แถมยังถือเป็นบทหนังที่น่าจะทำให้ต้องทบทวนรายละเอียดหรือสรา้งข้อถกเถียงได้น่าสนใจเรื่องหนึ่งหลังดูจบด้วย ลองหามาดูกันได้ครับ



จริงๆเรื่องของสงครามการเมืองรัฐฝ่ายเหนือ-ฝ่ายใต้ ในอเมริกา ก็เป็นเรื่องที่ถูกพูดผ่านหนังอยู่หลายเรื่อง ถ้าสนใจรายละเอียดมากขึ้น ลองอ่านเอาจากส่วนหนึ่งในเรื่องราวของประธานาธิบดี ลิงคอล์น หนึ่งในประธานาธิบดีคนสำคัญของอเมริกา จาก ลิงคอล์น: ความรู้ฉบับพกพา แปลและจัดพิมพ์โดย สนพ. OPEN WORLDS ก็ได้ครับ เล่มไม่หนา ขนาดพกพา





จริงๆหนังคาวบอยที่ไม่ใช่หนังเฮียเควนติน ก็นึกถึงอยู่หลายเรื่อง (เช่น  TRUE GRIT ของพี่น้องโคเอน) แต่เรื่องราวของการ 'ส่งตัว' ในบรรยากาศคาวบอย จริงๆคิดไปถึงเรื่องนึง คือ THE HOMESMAN ซึ่งบรรยากาศอาจเรียกว่าคนละเรื่องกับ THE HATEFUL EIGHT แม้จะแฝงความรุนแรงเหมือนกัน แต่เรื่องและบรรยากาศโดยรวมหม่นกว่ามาก แม้จะได้สุดยอดการแสดงจาก ทอมมี่ ลี โจนส์ และ ฮิลารี่ แสวงค์ ก็ตาม หนังถือเป็นผลงานกำกับเรื่องเก่งของ ทอมมี่ ลี โจนส์ ด้วยครับ ในบางแง่เรื่องนี้อาจต้องทำใจไปมากกว่าดูหนังคาวบอยของ เควนติน ก็ได้นะ




และก็พอเป็นหนังเฮียเควนติน ก็อยากจะแนะนำนิยาย ไว้ซักเรื่องซึ่งจริงๆว่าจะยัง แต่...จะรอเฮียทำเรื่องที่ 9 ก่อนมันก็... เลยแนะมันซะตรงนี้แหละ ฆาตกรรมหลังแผ่นฟิล์ม เป็นนิยายที่ทั้งคนเขียนคง (และผมอ่านแล้วก็) นึกถึงหนังเฮียเควนติน แต่จะไม่บอกอะไรมาก บอกไว้แค่นี้แหละ ไปลองหาอ่านดูครับ จาก สนพ. เพิร์ล ที่ก็แปลนิยายสนุกๆออกมาหลายเรื่อง ปกก็สวยดี แต่ก็เสียดายที่ต้องปิดตัวลงไปอีก สนพ. เอาว่าลองหาอ่านนิยายเรื่องนี้ดูกันได้ครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น