วันอังคารที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2559

[ภาพยนตร์] THE 5TH WAVE อุบัติการณ์ล้างโลก : อุบัติการณ์ล้างโลก (อเกน!)


ไซไฟมนุษย์ต่างดาวบุกโลก ฟอร์มมาตรฐาน (ขนาดชื่อไทยยังมาตรฐาน) โธ่ น้องโคลอี้ ตอนท้ายง่ายไปหน่อย 6.8 คะแนน 

ความจริงในตอนเริ่มเรื่องของ 5TH WAVE ก็ดูไม่เลวนะครับ ซึ่งก็เห็นได้จากตัวอย่างหนังไปบ้างแล้ว ว่ามียานบินลึกลับมาเยือนโลก และหลังจากปรากฏตัวให้แปลกใจ ตระหนก กระทั่งอกสั่นขวัญแขวน ผู้มาเยือนในยานบินนั้นซึ่งถูกให้ฉายาว่า ผู้มาจากดาวอื่น (THE OTHERS) นั้นก็เริ่มจู่โจมผู้คนบนโลกด้วยวิธีต่างๆเป็นระลอกๆ (WAVE) เริ่มจาก ตัดพลังงาน คลื่นยักษ์ การใช้เชื้อโรค แฝงตัวปะปนกับหมู่มนุษย์ จนผู้คนค่อยๆลดลง และกลุ่มที่เหลือรอดก็พยายามหาทางเอาตัวรอด และรับมืออุบัติการณ์ครั้งนี้ พยายามที่จะหาวิธีรับมือผู้มาจากดาวอื่นให้ได้ ก่อนการจู่โจมระลอกที่ 5 จะเกิดขึ้น...

จริงๆแล้วในช่วงเริ่มต้นของหนังก็น่าสนใจใช้ได้นะครับ ในตอนที่ผู้มาจากดาวอื่นเริ่มจู่โจมโลกด้วยการตัดพลังงาน หรือการใช้เชื้อโรค มันก็แสดงให้เห็นกันพอประมาณว่า(มนุษย์)โลกเราต้องพึ่งอะไรบ้างในการดำเนินชีวิต ถ้าขาดมันไปจะเป็นยังไง? หรือโรคร้ายที่แฝงอยู่ในสิ่งมีชีวิตอื่นรอบๆตัวเรา ถ้ามันเกิดการติดต่อในหมู่คนแล้วมันจะเป็นยังไง? แล้วถ้ามันเกิดขึ้นพร้อมๆกันล่ะ? เราจะรับมือเหตุการณ์เหล่านี้ได้แค่ไหน?...


หนังใช้เวลาในการเล่าเรื่องตรงนี้พอสมควร พร้อมๆไปกับปูรายละเอียดของกลุ่มตัวละครที่จะมาเป็นแกนให้เราติดตาม ซึ่งหลังดูจบก็เพิ่งรู้จากเครดิตตอนท้ายว่า อ่อ เรื่องนี้สร้างจากนิยาย ซึ่งจากที่ดูการดำเนินเรื่องโดยใช้กลุ่มตัวละครหลักเป็นวัยรุ่นเป็นแกน เรื่องนี้ก็เลยเป็นแนวๆนิยาย YOUNG ADULT ในสังคมล่มสลายอีกเรื่องหนึ่ง ในกลุ่มเดียวกับ HUNGER GAME, DIVERGENT หรือ MAZE RUNNER ซึ่งดูเหมือนว่าความสำเร็จพอท้วมๆ หรือจะมโหฬาร ของแต่ละเรื่องจะผลักดันให้แต่ละสตูดิโอพยายามปล่อยของแทงหวยถามทางเผื่อว่าจะเข้าร่วมกลุ่มความสำเร็จของเรื่องราวหนังจากนิยายในกลุ่มนี้บ้าง (คุ้นตอนวรรณกรรมเยาวชนยกพลขึ้นจอหนังตามเด็กชายใส่แว่นรอยแผลสายฟ้าคนที่คุณก็รู้ว่าใครมาแฮะ - ไม่ใช่เจ้าหนูโคนันนะครับ)

เนื่องจากไม่เคยอ่านต้นฉบับ และไม่รู้ว่าต้นฉบับดังแค่ไหน จึงเห็นแค่ที่ถูกเอามาขึ้นจอหนัง เดาจากที่สตูดิโอเลือกเรื่องนี้มาก็เป็นได้ว่าต้นฉบับคงดังใช้ได้เหมือนกัน (คงไม่เอากะโหลกกะลาอะไรนักมา) ซึ่งจริงๆการเริ่มเรื่องด้วยภัยพิบัติแต่ละระลอก ก็น่าจะก่อให้เกิดความกดดันและความน่าสะพรึงกลัวได้ไม่เบา เพราะแม้เหตุการณ์จะดูซ้ำ (เหมือนเอาหลายๆเรื่องหลา่ยๆภัยพิบัติมารวมๆกัน) แต่การกำหนดให้สิ่งคุกคามที่มาจากดาวอื่นดูเหนือกว่ามาก และค่อยไล่เรียงแต่ละอย่างที่ค่อยๆคุกคามคนแต่ละกลุ่ม ไปทีละอย่างนั้น และค่อยๆเผยเรื่องราวใกล้ๆผู้มาจากดาวอื่นไปเรื่อยๆนั้น เข้าใจว่านิยายต้นฉบับอาจจะใช้ประโยชน์จากจุดเหล่านี้ได้ไม่เลวทีเดียว แม้ว่าอะไรๆจะไม่ใหม่ถอดด้าม

แต่ว่า พอเป็นหนังการบรรยายผ่านภาพในหนังกับบรรยายด้วยตัวหนังสือมันก็ไม่เหมือนกัน เรียกว่าถ้าเป็นหนังมีอะไรจะขายก็ต้องเอาให้แม่นหน่อยเพราะบางเหตุการณ์ในหนังสือจะบรรยายกันสามหน้ากดดันกันไปทีละบรรทัดๆก็ได้ (แค่ยกตัวอย่างนะครับ) แต่พอมาเป็นภาพบางอย่างมันได้แค่แว่บเดียว เป็นต้น และด้วยความยาวในการรับชม จะปูพื้น จะเล่าเรื่อง จะโชว์ของ ฯลฯ อะไรก็ต้องพิจารณามาว่าสามารถจับความสนใจผู้ชมไว้ได้ ซึ่งถ้าจะเทียบกันจริงๆ เอาในกลุ่มหนังจากนิยาย YOUNG ADULT เรื่องอื่นๆข้างต้น เรื่องอื่นๆก็อาจมีโครงเรื่องที่แปลกออกไป ให้ความตื่นเต้น และจับความสนใจคนดูได้เร็วกว่าพอควร  อย่าง ระบบปกครองสุดโหดและการเลือกตัวแทนเข้าร่วมเกมเอาชีวิตรอดใน HUNGER GAME ระบบสังคมที่มีการแบ่งคนออกเป็นกลุ่มๆตามลักษณะเฉพาะใน DIVERGENT ตื่นขึ้นมาในทุ่งหญ้ากำแพงสูงล้อมรอบพร้อมช่องเปิดสู่เขาวงกตใน MAZE RUNNER เป็นต้น ดูตามนี้  THE 5TH WAVE อาจเริ่มเรื่องได้น่ากลัวได้ แต่เรื่องราวผู้มาเยือนจากโลกอื่นก็ไม่ได้ดูเด่นด้วยตัวมันเองเท่าเรื่องอื่นๆที่ว่ามา
อีกส่วนคือตัวละคร ที่แข็งแรงพอจะให้ผู้ชมติดตาม ความจริงการเลือก โคลอี้ เกรซ มอเรซ มาเป็นตัวละครนำให้ได้ติดตามก็ถือว่าถูกในระดับหนึ่ง (อย่างน้อยก็สำหรับผม (ล่ะฟระ)) และแคสหลายๆคนก็ถือว่าใช้ได้ แต่ตัวละครเหล่านี้ก็ไม่ได้ถูกเล่าแบบแข็งแรงพอที่จะฉีกตัวออกมาจากหนังเรื่องอื่นๆที่เราคุ้นๆ รวมไปถึงเรื่องราวรอบๆด้วยได้มากนัก แม้ว่าในเรื่องอื่นๆที่ยกมาข้างต้น เราจะเริ่มรู้สึกถึงตัวละครนำในแบบคนธรรมดาๆที่เป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราว ก่อนเราจะเห็นการพัฒนาการของเขา จนมีอะไรบางอย่างโดดเด่นขึ้นมา (มากบ้างน้อยบ้างแล้วแต่แต่ละเรื่องจะทำสำเร็จขนาดไหน) จนรู้ตัวอีกทีเราก็กำลังติดตามเรื่องราวของเขาไปแล้ว และตัวละครที่มีสีสันอื่นๆถูกเติมเข้ามาในขณะที่เล่าเรื่องราวไปเรื่อยๆ จับความสนใจเราให้ติดตามพวกเขาไปจนถึงบทสรุป (ที่...มีตอนต่อกันหมดเลย...แหม... มันก็นะ...)

ด้วยความที่ต้นฉบับน่าจะดังใช้ได้ เรื่องราวของมันก็มีความน่าสนใจในตัวให้ติดตามในระดับหนึ่ง แต่ไม่แน่ใจว่าต้นฉบับยาวมากขนาดไหน? พอมาเป็นหนังซึ่งจริงๆก็ยาวพอควร เลยไม่แน่ใจว่ามันตัดอะไรไปบ้าง? แม้บางช่วงจะเล่าและแสดงใช้ได้ทีเดียว แต่ที่รู้สึกค่อนข้างชัดคือ ในหลายๆจังหวะสำคัญ แม้ไม่ใช่แกนเรื่องหลักๆ (ที่บอกว่าก็น่าสนใจพอควร - แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่เคยเห็นอะไรแนวๆนี้ในเรื่องอื่นนะ) โดยเฉพาะช่วงท้ายๆดูอะไรๆมันหลุดๆไป บ่อยๆ เลยทำให้เรื่องที่ควรจะกดดันเราได้ให้ความรู้สึกไปไม่ถึงนัก

อีกอย่างเรื่องราวของอะไรใหญ่ๆโตๆอย่างผู้มาเยือนจากแดนไกลนี้จริงๆ (หลังจากถูกเล่ามาหลายแสนครั้ง) มันก็ยากอยู่แล้วประมาณนึง เช่น ผู้มาเยือนต้องน่ากลัวใหญ่โตพอจะคุกคาม(ความรู้สึกเราและตัวละคร)ได้ ฉากปะทะฉากขายมาต้องไม่น่าผิดหวัง(ไม่ใหญ่โตมากไม่เป็นไร แต่อย่าน่าผิดหวัง - เช่น ใน DISTRICT 9  ฮ่ะ TRANSF... เฮ้ย จริงๆก็ได้นะ เช่น ฉากแปลงเป็นเครื่องบินโฉบไปโฉบมาสอยโน่นนี่อะไรงี้นี่ชอบมากนะบอกก่อน อะไรนะ นี่อยู่ภาคไหน? เอ่อ...ภาคแรกซิจ๊ะ... แต่นั่นมันก็ใหญ่โตอยู่นะ) และในตอนท้ายบทสรุป ถ้าจะเอาชนะกันให้ได้จริงๆล่ะก็ ให้มันมีที่มาที่ไปพอรู้สึกได้ว่ามันโอเคแล้วกัน หรือไม่ก็ต้องดูมีเหตุผลบางอย่างมากพอ (เช่น อืม WAR OF THE WORLDS) ซึ่ง...เอาจริงๆไม่ได้ง่ายเท่าไหร่เหมือนกัน (เอาชนะสิ่งที่ใหญ่โต ทรงพลังกว่ามากให้ได้) ไม่งั้นจะเริ่มเรื่องน่าสนใจยังไง ตอนท้ายต้องส่ายหัว มันก็จบกันซิ

แต่เรื่องนี้ทุกอย่างมันดูกลางๆหมด มันก็เลยเป็นหนังที่ดูได้แค่พอเพลินๆเท่านั้น (แม้น้อง โคลอื้ เกรซ มอเรซ ดูจะไม่ได้อะไรจากเรื่องนี้เท่าไหร่ แต่ว่าไปเธอก็ยังคือตัวช่วยของผมในเรื่องนี้พอควร) ก็ประมาณนี้ครับ 6.8 คะแนน ใครไว้ดูอุบัติการณ์บุกโลกวอร์มๆไว้ก่อน INDEPENDENCE DAY ภาคต่อจะมาก็คงพอได้ (มัง) (หรือถ้าอยากดูน้องโคลอี้ ก็ไปดูได้ครับ...)

โบนัสคือมีฉากประเทศไทยชัดๆด้วยนะเออ ลองไปดูกัน


นึกถึง
พอเป็นอะไรซักอย่างที่แฝงร่างเข้ามาในมนุษย์ยังไงก็คงอดไม่ได้ที่จะนึกถึง THE THING อยู่ดีแหละ ซึ่งฉบับแคลสสิค ก็ต้องเป็นของ จอห์น คาเพนเตอร์ กำกับ แต่มันก็นานแล้วน่ะนะ ซึ่งบรรยากาศจะไปใกล้ ALIEN ภาคแรก (ของลุงริดลี่ย์ สกอต) มากกว่า ALIENS (ภาค2 โดยพี่ เจมส์ คาเมรอน) หรือ INDEPENDENCE DAY ภาคแรก (โรแลนด์ เอมเมอริช) ที่ยิงกันหูดับตับไหม้ ไรงี้ เรื่องนี้จะไม่ได้เล่าเรื่องเร็วนัก เน้นกดดันด้วยบรรยากาศมากกว่า แต่จริงๆที่เขาเพิ่งมารี...อะไรซักอย่างนี่แหละ (รีพรีเควลเรอะ?! เอ่อ... มันก็ พรีเควล น่ะแหละ ใช่ไหม... - -) ไปเมื่อไม่กี่ปีก่อน จริงๆก็ดูเพลินๆได้นะ เรื่องแกนมันแข็งอยู่ก็เลยดูพอได้ๆ



พอพูดถึงอะไรๆแฝงร่างนี่ก็นึกไปถึงหนังเก่ามากอีกเรื่องนี้เคยบังเอิญดูทางทีวีมาละมัง? (นานจนตัวเองก็ไม่แน่ใจ) ว่าเป็น (น่าจะ) มนุษย์ต่างดาวตัวยาวๆ กินสมอง มีฉากหยองๆเอาเรื่อง (ในความจำเลือนลาง) เลยไปลองค้นข้อมูลดู ก็พบว่าน่าจะเป็นเรื่อง BRAIN DAMAGE (เออ ชื่อก็ตรงตัวดีนะ) พอดูๆตอนหาข้อมูลไปก็คิดว่า เออ เอ็ฟเฟ็คท์มันก็ดูเก่าแล้วเหมือนกันนะ (หนังปี ค.ศ.1988) อืม แต่ตอนนั้นเราก็กลัวแฮะ ลองไปหามาดูกันได้ครับ ถ้า...หาได้นะ...
(แล้วมีเวลาหาข้อมูลอันนี้ แต่ไม่หาข้อมูลนิยายต้นฉบับ 5TH WAVE เลยน่ะนะ เออน่า ก็เดาๆเอามั่ง - -)



และ! ที่ไม่ควรลืมเลยเมื่อพูดถึงอะไรแฝงร่างๆ ก็คือ เจ้า มิกกี้ (หรือ มิกิ) ใน PARASYTE PART 1และ PART 2 ฉบับภาพยนตร์ที่เพิ่งฉายไปปีที่แล้ว ชอบมากทั้งหนังและเจ้ามิกกี้ ที่สร้างจากมังงะต้นฉบับที่ใช้ชื่อไทยว่า ปรสิตเดรัจฉาน (ส่วนหนังใช้ชื่อ เพื่อนรักเขมือบโลก อืม...ดูอารมณ์เป็น อี.ที.มากินโลกดี ฟรุ้งฟริ้งไปพร้อมหยองๆอย่างน่าประหลาด ดีครับ) มังงะก็ยังชอบ (ตอนนี้อาจจะหาอ่านลำบากหน่อย แต่ไม่เท่าหนังอันข้างบนหรอก) ว่าจะๆเขียนถึงนาน(มาก)แล้ว แต่... อย่าไปรอเลย ไปลองหามาดูมาอ่านกันก่อนตามอัธยาศัยเถิด ชอบจริงๆนะเจ้ามิกกี้เนี่ย (เห็นลูกกะตาบนมือพ่อหนุ่มไหม? นั่นล่ะเจ้ามิกกี้ ตัวเต็มๆหาดูในหนังเอานะ)


อีกอันที่อยากพูดถึงพอพูดถึงอะไรๆแฝงร่าง คราวนี้ไม่ใช่มนุษย์ต่างดาวหรือผู้มาเยือนจากแดนไกล แต่เป็นตอนนึงในมังงะโจโจ ภาคอิตาลี ตอนที่ทีมพระเอกเจอกับสองคู่หูที่ใช้แสตนด์ CLASH กับ TALKING HEAD ไอตัวหลังนี่ล่ะตัวแสบ แม้โจโจภาคนี้จะไม่ใช่ภาคที่ชอบที่สุด แต่ในเรื่องของการบู๊กัน ภาคนี้นับเป็นเอก (เพราะโครงเรื่องก็เอื้อให้ซัดกันอย่างเดียวอยู่แล้ว) ยังไงใครจะอ่านถ้าไม่เริ่มอ่านจากต้นภาค ก็ไปไล่อ่านมาจากภาคแรกๆเลยก็ได้ครับ (ไม่งั้นจากภาค 3 ภาคอียิปต์ก็ยังดี)  



ก็นั่นล่ะครับ ที่เหลือก็...เตรียมดู การบุกโลกจากผู้มาเยือนครั้งที่หลายแสนเอ็ด กับ INDEPENDENCE DAY : RESURGENCE ภาคต่อที่ตามภาคแรกมา 20 ปี กันละกันครับ...




ส่วนที่เป็นแบบภัยพิบัติ ไม่ได้แนะนำซักเรื่อง... ลองหาดูกันได้ครับ มีหลายแสนเรื่องเหมือนกัน...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น