วันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

[ภาพยนตร์] ROOM ขังใจไม่ยอมไกลกัน : กายในห้อง ใจในห้อง


ROOM เป็นเรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่งที่อยู่ในห้องพร้อมกับลูกของเธอ เธอเล่น ทำอาหาร สอน หยอกล้อ เลี้ยงดู อาบน้ำ ฉลองวันเกิด ฯลฯ ให้ลูกในห้องห้องหนึ่ง ทำไมเธอจึงอยู่ในห้องห้องนี้? เลี้ยงดูลูกในห้องห้องนี้? แต่วันหนึ่งเธอก็ต้องการที่จะออกไปจากห้อง เธอได้บอกเรื่องนี้กับลูกของเธอ...

ROOM ไม่ได้สร้างจากเรื่องจริง แต่สร้างจากนิยายชื่อเดียวกัน กระนั้นก็ตามแรงบันดาลใจอ้อมๆของนิยายก็มาจากเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง แต่เรื่องจริงที่เกิดขึ้นนั้นดูจะรุนแรงกว่าเรื่องที่เห็นในหนัง

ในหนังเรื่องนี้ไม่ได้พยายามเผยความรุนแรงด้านภาพให้ออกมาพบกับผู้ชม เราจึงค่อยๆรับรู้เรื่องราวของแม่ลูกคู่นี้ผ่านเรื่องราวแวดล้อมและคำจากปากที่ค่อยๆเผยออกมา สิ่งที่ดูเหมือนหนังต้องการจะสำรวจจึงเป็นเรื่องของตัวละครและความสัมพันธ์ของตัวละครกับอะไรรายรอบตัวมากกว่า

สิ่งที่ทำให้เธอสิ้นอิสรภาพก็เป็นสิ่งเดียวกับที่หยิบยื่นปัจจัยประทังชีวิตให้เธอ และลูกก็เป็นปัจจัยหนึ่งหรืออาจกระทั่งเกือบจะเป็นปัจจัยเดียวที่เป็นทั้งสิ่งที่ประคบประคองและให้ความหวังเธอในแต่ละวันที่ต้องอยู่ในห้อง

ในขณะที่เธอเคยอยู่ข้างนอกห้องและรู้จักโลกนอกห้อง ลูกของเธอไม่รู้จัก ลูกของเธอรู้จักเพียงแต่ห้องๆนี้ มันเป็นโลกทั้งใบของเขา

และในวันหนึ่งเธอก็เห็นความจำเป็น เห็นโอกาส ที่จะออกจากห้อง เธอต้องการความช่วยเหลือของลูก ลูกไม่แน่ใจไม่เข้าใจว่าทำไมต้องออกจากห้อง ความรู้สึกนั้นน่าหวาดหวั่น นั่นเป็นความรู้สึกของลูก แต่เธอรู้ว่านี่เป็นเวลาที่ต้องออกจากห้อง และต้องออกไปให้ได้ และเธอต้องการให้ลูกเข้าใจว่ามีโลกข้างนอกโลกที่เธอเคยบอกว่าไม่มี เธอต้องการให้ลูกช่วย มันเป็นการเสี่ยงชีวิตของทั้งเธอและลูก


เมื่อเธอออกมา พบกับโลกที่เธอเคยรู้จัก ความรู้สึกนั้นนำมาซึ่งความปิติและความหวัง แต่โลกใบนั้นก็ดูจะไม่เหมือนเดิม...

หนังร้อยเรียงเรื่องราวและรายละเอียดสิ่งละอันพันละน้อยออกมาได้อย่างดี และเป็นธรรมชาติในแบบของหนัง มอบเหตุการณ์และรายละเอียดของเรื่องราวและตัวละครได้ดี นักแสดงในบทสำคัญอย่าง บรี ลาร์สัน ในบทของแม่ หรือ จาคอบ เทรมเบลย์ ในบทของลูก ต่างให้การแสดงที่สื่ออารมณ์ของตัวละครผ่านเรื่องเล่าอย่างเป็นธรรมชาติ ทั้งเมื่ออยู่ในห้อง การหลบหนี และการออกมาอยู่ในโลกนอกห้อง รวมไปถึงบทบาทสมทบที่สำคัญอื่นๆ อย่าง โจล อัลเลน และ วิลเลี่ยม เอช เมซีย์

เมื่อคนๆหนึ่งหายไปอยู่ในห้องโลกของเขาก็ไม่เหมือนเดิม และเพราะมีคนที่รู้จักครอบครัวคนที่รักโลกของพวกเขาก็ไม่เหมือนเดิม เมื่อคนๆหนึ่งรู้จักเพียงโลกในห้อง โลกภายนอกห้องก็ดูแตกต่าง

สำหรับจอยในยามที่อยู่ในห้องลูกเป็นทั้งความหวังและสิ่งยึดเหนี่ยว และเมื่อเธอต้องการหลบหนีลูกอาจเป็นตัวช่วยและเครื่องมือเพียงหนึ่งเดียวของเธอ โลกที่เธอเคยรู้จักก่อนเข้ามาอยู่ในห้องมีอีกหลายสิ่งที่เธอเคยรู้จักจับต้องสัมผัส และมีรูปแบบและแบบแผนบางอย่างที่เชื่อมโยงเธอเอาไว้จากโลกใบนั้น เมื่อเธอออกมาจากห้องโลกก็เปลี่ยนไป โลกมองเธอเปลี่ยนไป และเธอก็หวาดหวั่นกับการสัมผัสได้ว่าโลกจับจ้องมายังเธอด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป หลังจากความปิติที่หนีออกมาจากห้องได้ หนีออกมาพร้อมกับลูกได้ เธอก็เริ่มสัมผัสกับสายตาของโลก เธอก็เริ่มรู้สึกถึงความหวาดหวั่น

ความจริงแล้วสายตาของโลกก็คือสายตาของคนแต่ละคน ที่มีความรับรู้เชื่อมโยงกับทุกๆสิ่งรอบๆตัวของใครของมัน แต่บางครั้งผลรวมของสายตาเหล่านั้นก็สร้างผลกระทบรวมกันไปยังอะไรบางอย่างได้ ทั้งที่ความจริงการรับรู้หรือประสบการณ์ของแต่ละคนแตกต่างกัน ทัศนคติส่วนตัวหลายอย่างก็อาจแตกต่างกัน เราเห็นโลกรอบๆตัวผ่านสายตาและประสบการณ์ แม้โลกจะกว้างใหญ่ การรับรู้ของเราก็จำกัด แม้เราจะอยู่ข้างนอกที่ดูเหมือนไม่มีขอบเขต แต่ระยะการรับรู้ของเราก็มีความจำกัด ไม่ว่าจะมีอินเทอร์เน็ตให้เราเข้าถึงสิ่งที่อยู่ห่างไกล ไม่ว่าเราจะเคยเดินทางไปในดินแดนไหนๆ แม้ว่าเราจะสั่งสมประสบการณ์เพียงไร ในขณะเวลาหนึ่งในขอบเขตหนึ่งเราก็ยังมีความจำกัด และเราก็นิยามโลกในแบบของเรา โลกซึ่งไม่เหมือนกัน ห้องซึ่งไม่เหมือนกัน

โลกของพ่อกับแม่ของจอยพังทลายเมื่อไม่มีเธออยู่ แต่ละคนรับรู้และจัดการความเจ็บปวดได้ไม่เหมือนกัน และแม้จะมีความยินดีที่ได้ลูกสาวคืนกลับมา เรื่องเบื้องหลังที่แต่ละคนยอมรับได้ก็ไม่เหมือนกัน บางคนซึ่งไม่ได้มีเรื่องราวหนหลังอาจปรับตัวหรือยอมรับได้ง่ายกว่าก็ได้ แม้จะเตรียมใจมามากมายแค่ไหนหรือยินดีที่ได้ออกมาจากห้องเพียงไร เมื่อพบกับการประเมินจากโลกภายนอกเธอก็อาจจะตอบคำถามตัวเองไม่ได้ว่าจะรับมือกับมันได้อย่างไร เมื่อแจ๊คอยู่ในห้อง แม่ และบรรดาแก้วน้ำ แปรงสีฟัน ชั้นวางของ ฯลฯ เป็นโลกของเขา เขารู้จักทุกอย่างในห้องนั้นในโลกใบนั้นดี โลกที่เขารู้จักและอาจจะเพียงพอแล้ว แต่เมื่ออยู่นอกห้องโลกกว้างขวางและน่าสนุกขึ้น มีหลายสิ่งที่ดูเหมือนจะไม่รู้จักมากขึ้น แต่โลกไม่เหมือนเดิม โลกกว้างขึ้น แต่แม่ไม่ได้อยู่กับเขาในห้องอีกแล้ว

แต่ละคนจึงสร้างโลกตามโอกาสในการรับรู้และประสบการณ์ บ่มเพาะทัศนคติ รวมถึงเรียนรู้ปฏิกริยาจากโลกรอบๆตัว จึงมองเห็นโลกในแบบที่แต่ละคนรับรู้ เผชิญหน้ากับโลกที่แต่ละคนรับรู้ กระทั่งเจ้าของห้องก็ยังต้องเผชิญหน้ากับโลก เราจึงมีและต่อเติมโลกของแต่ละคนขึ้น แม้โลกจะกว้างใหญ่ในเวลาหนึ่งๆเราก็ไม่อาจรับรู้โลกพร้อมๆกันทั้งหมดได้ เราจึงรู้เพียงบางส่วน ในห้องที่แต่ละคนสร้างขึ้นมาเท่านั้น

แม้ห้องจริงๆจะกักขังเราได้มากกว่าและเป็นรูปธรรมกว่า และบางครั้งจินตนาการของเราก็ต่อเติมโลกได้มากกว่าที่มันเป็น ทั้งดีและร้าย แต่เราก็ยังคงจำกัด และโลกของเราก็ไม่ได้มีแต่เรา เมื่อโลกทีคนอื่นๆสิ่งอื่นๆอยู่ในนั้น และเรายังต้องมีปฏิกริยากับสิ่งเหล่านั้น ขณะเดียวกันเราก็อยู่ในโลกของคนอื่นๆ โลกเหล่านี้ซ้อนทับกันทั้งเป็นโลกของเราและไม่ใช่ และเราก็มีขอบเขตในการรับมือกับโลกรอบๆตัวไม่เหมือนกัน ขณะที่เรารับมือกับโลกที่เผชิญสิ่งที่เราทำก็ส่งผลไปถึงโลกของคนอื่นๆที่อยู่รายรอบ โลกไม่ได้มีแต่เรื่องดีและสวยงาม กระทั่งเราจะเอาจินตนาการมาขวางกั้นมันไว้ก็ไม่มิด บางครั้งเราจึงหวังพึ่งห้องเอาไว้ให้พักพิง เมื่อห้องของเราดูจะอึดอัดและใหญ่ไม่เพียงพอถ้ามีห้องของคนอื่นที่อบอุ่นเต็มใจและกว้างพอให้เราไปอยู่ด้วย โลกก็อาจน่ากลัวน้อยลง และห้องของเราก็อาจกลับกว้างและน่าอยู่ขึ้นได้ และอาจมีบางครั้งที่ห้องของเราจะต้องเป็นที่พักพิงให้คนอื่นๆเหมือนกัน ในโลกซึ่งก็ดูกว้างใหญ่แต่ดูจะไม่สมบูรณ์ดังใจเราใบนี้

ผมอาจจะมโนเรื่องอื่นๆปะปนเข้ามามากไปก็ได้ในการเขียนถึงหนังเรื่องนี้ แต่ความจริงผมรู้สึกว่าหนังพยายามยั้งบางอย่างเอาไว้ เพื่อให้มันไม่สุดขอบจนเกินไป ซึ่งอาจเป็นเรื่องดีก็ได้เพราะดูเหมือนหนังก็ไม่ได้พยายามเน้นหนักในรายละเอียดส่วนนั้น ในขณะที่นักแสดงนำอย่าง บรี ลาร์สัน ในบทของแม่ หรือ จาคอบ เทรมเบลย์ ในบทของลูก ต่างก็ถ่ายทอดบทบาทออกมาได้ดีมาก แม้จะไม่แสดงอารมณ์ร้ายกาจหรือสุดขอบ แต่ก็แสดงภาพของความอ่อนโยน ไร้เดียงสา หวาดหวั่น กระทั่งหวาดกลัวออกมาได้ดี หนังเรื่องนี้ซึ่งแม้จะนำเสนอความร้ายกาจบางอย่างของโลกและมนุษย์มาใส่ไว้ แต่โทนของหนังที่นำเสนอออกมาและนักแสดงนำรวมถึงบทสมทบก็นำความรู้สึกที่ลดทอนสิ่งเหล่านั้นมาสู่หนังได้ในหลายช่วงตอน มันจึงมีทั้งความน่าเอ็นดู ผสมอยู่กับความน่าหวาดหวั่น ในระดับที่หนังไม่ได้ตั้งใจจะบีบคั้นจิตใจคนดูจนหนัก แต่กลับยั้งมันเอาไว้และใส่ความอ่อนโยนเป็นส่วนผสมเข้ามา 8.7 คะแนน


นึกถึง


แม้ไม่พูดถึงข่าวที่เป็นแรงบันดาลใจในการเขียนนิยายเรื่อง ROOM ซึ่งเป็นต้นฉบับของหนัง ก็มีเรื่องราวคล้ายคลึงกับเรื่องราวในหนังและนิยาย ROOM ที่เคยเกิดขึ้นจริง และถูกนำมาสร้างเป็นหนัง เช่น หนังเยอรมัน ชื่อ 3096








ส่วนในอีกมุมหนึ่ง ฝ่ายที่ต้องถูกพรากคนที่เป็นที่รักไป ดูจากเรื่อง PRISONERS จากผู้กำกับ เดนนิส วิลล์เนิฟ ดู แม้เรื่องนี้จะกดดันผู้ชม และน่าสะพรึงมากในทางหนึ่ง แต่เรื่องไม่ได้สร้างจากเรื่องจริงนะครับ ฮิวจ์ แจ็คแมน และ เจค จิลเลนฮาน กับ พอล ดาโน แสดงในบทสำคัญ




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น