วันเสาร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2559

NEXT STOP ป้ายหน้า(ตั้งแต่)กันยาสยอง ' 59

แนะนำ 13 เกมสยอง ก็แนะนำครบกันไป (เสียที!) แล้วนะครับ ไว้ค่อยหาเรื่องเขียนถึงกันต่อไป

แต่เราก็ยังไม่ยอมจบเรื่องอะไรสยองๆกันง่ายๆ

จากที่ผ่านมา เราก็ได้ผ่านตาหนังสยองกันมาเรื่อยๆ อย่าง Abattoir ที่เพิ่งเขียนถึงไป ก็อาจจะน่าเสียดายที่มันอาจจะมีข้อบกพร่องซึ่งทำให้มันไม่ใช่ความสยองอันน่าพึงพอใจหนักๆในท้ายที่สุด แม้จะกำกับโดยผู้กำกับ Saw ภาค 2 ถึง 4 และมีไอเดียรึเรื่องราวบางส่วนที่ก็น่าสนใจดีเหมือนกัน

แต่! แฟนๆรึคนหนังสยองก็ยังไม่ต้องหนักใจไป เพราะ! ยังมี 'สยอง' อีกหลายเรื่องรอจ่อคิวมอบความเขย่าขวัญให้กับคุณๆ

ก็คงขึ้นอยู่กับแต่ละเรื่องว่าจะทำมาพ้องพานรสนิยมความพอใจความชอบความสยองของแต่ละคนที่คาดหวังไว้ได้มากน้อยขนาดไหน?

เพราะฉะนั้น ก็ขอแนะนำหนังสยองที่จ่อคิวรอฉายตั้งแต่เดือนกันยายน พ.ศ.2559 นี้ ไว้เผื่อให้คน 'สยอง' ทุกท่านได้พิจารณาเตรียมตัวและใจไว้เลือกชมกันตามอัธยาศัยครับ!




FEBRUARY เดือนสอง ต้องตาย (เข้าฉาย 8 กันยายน 2559)



แม้จะดูตัวอย่างหนังที่เราเองไม่ค่อยจะรู้อะไรเท่าไหร่ รู้เพียง แบรมฟอร์ด หิมะ ฯลฯ และดูมันจะเป็นหนังเน้นบรรยากาศและความลึกลับมากกว่า รวมถึงแม้จะมีตัวอย่างคำชมไว้ในตัวอย่างหนัง

แต่เหตุผลประกอบจริงๆที่ทำให้เราอยากดูหนังเรื่องนี้ก็คือ

เราดูตัวอย่างและเกิดคิดถึง ราฟีน่า จาก Sing Street และ วี จาก Nerve ครับ (เริ่มมาเรื่องแรกก็ชิงหลุดประเด็น(อย่างน่าสยอง?!)กันเลย!)

หรือจริงๆก็คือ เราอยากเห็นหน้า ลูซี่ บอยน์ตัน (Lucy Boynton) กับ เอ็มมา โรเบิร์ตส์ (Emma Roberts) (แม้จะบอกว่าเธอผอมบางไปนิดในครั้งเจอเธอใน Nerve) ทั้งยังมี เคียแนน ชิปก้า (Kiernan Shipka) ร่วมแสดงในหรังสยองเรื่องนี้อีกด้วย

เราจึงหารูปสวยๆของทั้งสามสาวมาให้ดูกันไว้ด้วยครับ (เรียงตามลำดับ)


รูปของ ลูซี่ บอยน์ตัน (Lucy Boynton) กับ เคียแนน ชิปก้า (Kiernan Shipka) เอามาจากภาพในเซต ภาพนักแสดงจากภาพยนตร์มี่เข้าร่วมเทศกาลหนังโตรอนโตเมื่อปีที่แล้ว และ FEBRUARY ก็เข้าร่วมด้วย ซึ่งเอามาจาก ที่นี่ ลองไปกดดูเพิ่มเติมกันนะครับ และเนื่องจากภาพสวยๆชุดนี้เป็นภาพขาวดำ เลยเลือกภาพขาวดำของ เอ็มม่า โรเบิร์ตส์ มาเป็นขาวดำด้วยจะได้เข้าชุดกันทั้งสามสาวครับ

ตัวอย่างหนัง




SEOUL STATION ก่อนนรกซอมบี้คลั่ง (เข้าฉาย 15 กันยายน 2559)


เพิ่งผวากันไปกับซอมบี้พันธุ์เกาหลัใน Train to Busan ด่วนนรกซอมบี้คลั่ง ไป และในไทย หนังดราม่าซอมบี้เกาหลีเรื่องนี้เองก็ประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง (จนได้ยินข่าวว่าน่าจะกลายเป็นหนังเกาหลีทำเงินสูงสุดในไทย)

ซึ่งก็เป็นโอกาสอันดีที่ค่ายหนังก็เห็นเป็นโอกาสที่จะนำเอา เรื่องราวก่อนหน้า Train to Busan เข้ามาฉายให้ดูกันในไทยด้วย!

แม้จะเป็นอนิเมชั่น ซึ่งต่างไปจากภาพยนตร์ live action คนแสดง แบบ Train to Busan แต่เรื่องความเข้มข้น กดดัน ความสยอง (รวมไปถึงดราม่า) ก็ยังน่าจะรับประกันได้ เพราะว่า ผู้กำกับและเขียนบทของอนิเมชั่น Seoul Station เรื่องราวของการระบาดไข้ซอมบี้ ในสถานีกรุงโซล ก่อนหน้าเหตุการณ์ใน Train to Busan ก็คือ Yeon Sang-ho ซึ่งก็เป็นทั้งผู้เขียนบทและผู้กำกับของ Train to Busan น่ะแหละ! (ฉายปีเดียวกันด้วย อะไรจะขยัน(สยอง)ขนาดนี้!)

แถมก่อนนี้ Yeon Sang-ho ก็สร้างชื่อมาจากหนังอนิเมชั่นดราม่าทริลเลอร์อย่าง Saibi (The Fake) และ Dwae-ji-ui wang (The King of Pigs) มาก่อน จนได้มากำกับ Train to Busan ด้วย! อยากไปหาอนิเมชั่นสองเรื่องนั้นมาดูตะหงิดๆขึ้นมาทันที

เพราะงั้นแฟนๆ Train to Busan ด่วนนรกซอมบี้คลั่ง ที่สนใจอยากรู้เรื่องราวก่อนหน้านั้น ก็คงต้องลองมาติดตามกันเรื่องราวกันใน สถานีกรุงโซล Seoul Station ก่อนนรกซอมบี้คลั่ง นี้กันดู หรือแฟนอนิเมชั่นพันธุ์สยอง ซึ่งไม่ใช่จะหลุดมาฉายโรงกันบ่อยๆ แถมเป็นรสชาติเกาหลีอีก ก็ถือเป็นอนิเมชั่นไม่ควรพลาด!


ตัวอย่างหนัง



DON'T BREATHE ลมหายใจสั่งตาย (เข้าฉาย 15 กันยายน 2559)


สิ่งที่รู้ สิ่งที่เห็น อาจไม่เป็นอย่างที่คิดเสมอไป...

หนังดีเดือดเรื่องนี้น่่าจะรับประกันความคลั่งได้จากชื่อของผู้กำกับ เฟเด อัลวาเรซ (Fede Alvarez) ซึ่งเป็นผู้กำกับเวอชั่นรีเมกของ Evil Dead หนัง'บ้า'คลั่งระดับตำนานของ แซม ไรมี่ (Spiderman 1-2-3, Drag Me to Hell, ฯลฯ) ซึ่งแม้เวอชั่นรีเมกอาจจะไม่ 'บ้า' เท่าต้นฉบับของ แซม ไรมี่ แต่ด้านความ 'คลั่ง' นั้นถือว่าหายห่วง (ส่วนคนที่ดู Evil Dead ภาคแรกของ แซม ไรมี่ มาแล้ว แนะนำให้หาภาค 2 มาดูครับ (และไหนๆเขาก็มีเป็นไตรภาค อย่าลืมหา Army of Darkness มาดูปิดท้ายไปซะเลย - ปัจจุบัน Evil Dead (ดั้งเดิม)ยังกลับมาในรูปแบบซีรี่ส์ด้วย)) ในอเมริกาหนังยังเปิดตัวในอันดับหนึ่ง (โดย Suicide Squad ตกมาอันดับสองหลังจากอยู่อันดับหนึ่งมา 3 สัปดาห์รวด) และยังอยู่ในอันดับหนึ่งในสัปดาห์ถัดมาด้วย)

เพราะฉะนั้น สำหรับคอสยองคลั่ง หนังต้อง 'กลั้นลมหายใจ' เรื่องนี้น่าจะเป็นอีกเรื่องที่ไม่ควรพลาดสำหรับคุณเช่นกัน!


ตัวอย่างหนัง



จันเตรีย (เข้าฉาย 15 กันยายน 2559)


นี่เป็นสัปดาห์สยองแห่งชาติที่ไม่ได้บอกไว้ในปฏิทินหรืออย่างไร? สยองกันไป 2 เรื่องแล้วก็ยังไม่หมด!

รสชาติของสยองเรื่องนี้ น่าสนใจที่เป็นหนังร่วมทุน ไทย-กัมพูชา โดยผู้กำกับ ปอล วิโบว นีท (Pol Vibo-Neat) ผู้เคยกำกับหนังกัมพูชา สไบ้ค์-กง คนหนังเหนียว ที่เคยเข้ามาฉายในไทยด้วย มาก่อน

แม้จะเป็นเรื่องราวของ ผี ซึ่งมีส่วนผสมของเรื่องราวชีวิตหนักๆ และความน่ากลัว ความสยอง แต่ จันเตรีย ก็น่าจะมีรสชาติแตกต่างไปจากหนังส่วนใหญ่ในลิสต์อยู่เหมือนกัน เพราะมี ความตลก เป็นส่วนผสมหลักอยู่ด้วย

ซึ่งความจริงหนังไทยเองก็มีหลายเรื่องที่เป็นหนังผีตลกทั้งนำเสนอทั้งความน่ากลัว สยอง และความตลกขบขัน ไว้ในเรื่องเดียวกัน ก็น่าสนใจว่าหนังเพื่อนบ้านร่วมทุนไทยรสชาติเอเชียนี้จะถูกจริตถูกใจชาวไทยขนาดไหน หนัง จันเตรีย ทำรายได้เปิดตัวแรงที่กัมพูชา และเพิ่งมีงานเปิดตัวในไทยไปที่โรงภาพยนตร์เอสพลานาดซีนีเพล็กซ์ รัชดาภิเษก โดยมี พระเอก นางเอก ของหนัง รวมถึง ผู้กำกับ และนักแสดงในบทบาทอื่นๆ ที่ล้วนเป็นดาราและทีมงานแถวหน้าของวงการหนังกัมพูชา จำนวนหนึ่งมาร่วมงานเปิดตัวด้วย

เท่าที่ลองเช็ค ก็อาจหารอบฉายโรงฉายดูยากซักนิด ซึ่งก็เป็นได้ว่าเครือโรงหนังเลือกเปิดหนังในย่านที่มีชาวกัมพูชาในบ้านเราพักอาศัยและอาจมาดูสะดวกก็ได้?


ตัวอย่างหนัง




BLAIR WITCH ตำนานผีดุ (เข้าฉาย 22 กันยายน 2559)


จากชื่อเดิม The Woods สับขาหลอก (ที่บางคนก็ไม่โดนหลอก) ในที่สุดชื่อจริงของหนังก็เผยโฉมในชื่อ Blair Witch

ซึ่งหลายๆคนอาจจะเคยสัมผัสความหลอนกับตำนานแม่มดแบลร์มาแล้ว ตั้งแต่วิดีโอบันทึกการค้นหาแม่มดแบลร์ในป่าแบล็กฮิลล์เข้าฉาย ในชื่อ The Blair Witch Project และนอกจาก 'ตำนาน'ความหลอนแล้ว มันยังเป็นจุดเริ่มต้นของ วิดีโอที่ถูกพบ (found footage) อีกหลายเรื่องตามมา อย่างที่เคยกล่าวไปในครั้งที่เขียนถึงการกลับมาของ Cloverfield

และอย่างที่กล่าวไป ในครั้งนั้น การตามมาด้วย Book of Shadows: Blair Witch 2 ไม่อาจเทียบชั้นตำนานความหลอนของ The Blair Witch Project ได้เลย (DVD ภาคนี้น่าจะหาดูยากกว่า The Blair Witch Project ซะอีก?) เพราะฉะนั้นในปีเดียวกับที่ Cloverfield ก็กลับมาด้วยท่าทีต่างไปจากเดิม การกลับมาของตำนานแม่มดแบลร์นั้น คงไม่ใช่การซี้ซั้วกลับมา ถ้าไม่มี ความมั่นใจ อะไรบางอย่างที่จะนำเสนอ ความหลอน ครั้งใหม่มาสู่ผู้ชม

และก็มีความเห็นที่ถูกนำมาโปรโมทให้เห็นกันอย่าง "ยุคใหม่แห่งหนังสยองขวัญ" "หนึ่งในภาพยนตร์ที่สยองที่สุด" ฯลฯ หลุดออกมาให้เห็น (ซึ่งก็น่าจะมาจาก 'คอหนังสยอง' นี่แหละ)

ทั้งผู้กำกับของหนัง ซึ่งน่าจะช่วยตอกย้ำความหลอนความสยองให้กับหนังยังเป็นชื่อของ อดัม วินการ์ด (Adam Wingard) ผู้กำกับหนังเขย่าขวัญถึงเลือดถึงเนื้อที่โปรโมทในบ้านเราด้วยภาพพ่นสีสเปรย์ทั่วเมืองได้อย่างเข้ากับลุคหนังได้ดียิ่งเมื่อไม่กี่ปีก่อน อย่าง You're Next

แม้จะมาในชื่อไทยเรียบง่ายว่า ตำนานผีดุ ต่างไปจากครั้งพบวิดีโอครั้งแรกในชื่อไทยว่า สอดรู้ สอดเห็น สอดเป็น สอดตาย แต่การกลับมาของ 'ตำนานความหลอน' ในครั้งนี้ คอสยองคงไม่สามารถปฏิเสธได้ง่ายๆ อย่างไรก็ลองไปพิสูจน์ความสยองครั้งใหม่กับตำนานแม่มดแบลร์กันได้เร็วๆนี้!

ตัวอย่าง




ความจริง ความสยองที่น่าสน ในเดือน กันยายน ก็น่าจะได้สยองกันไปพอสมควรแล้ว แต่เราก็ยังจะขอเพิ่ม ความสยองในช่วงต่อไป (เท่าที่ทราบและสน) ไว้ให้เตรียมตัวเตรียมใจสยองกันได้ตามอัธยาศัยกันต่อไปยาวๆไปด้วยเลยนะครับ อย่างที่บอกไว้ในชื่อบทความ ว่า 'ตั้งแต่' กันยา น่ะแหละ


UNDER THE SHADOW (เข้าฉาย 13 ตุลาคม 2559)


เป็นอีกหนึ่งรสชาติหนังเขย่าขวัญ ที่ต่างไปจากหนังตะวันตกหรือหนังฮอลลีวู้ด

Under the Shadow เป็นหนัง 1 ใน 4 เรื่องใน Little Big Film Project ซึ่งกลับมาหลังจากเว้นระยะไปช่วงหนึ่งในครั้งที่ 11 นี้ ในธีม 'เพราะหัวใจมนุษย์ แข็งแกร่งเกินกว่าที่เราคิด' Under the Shadow มากับคำโปรยว่า

"หัวใจที่เข้มแข็งเท่านั้นจึงจะชนะความกลัว : หนังผีจากอิหร่านที่เรียกเสียงฮือฮาจากเทศกาลภาพยนตร์ซันแดนซ์"

กับเรื่องราวการเผชิญกับ วิญญาณร้าย ที่สร้างความผวาในเทศกาลซันแดนซ์มาแล้ว นี่จึงเป็นโอกาสอันดีที่เราจะได้พิสูจน์ 'ความกลัว' ในหนังผีจากอิหร่านเรื่องนี้!

(หมายเหตุ : ดูคลิปแนะนำรายละเอียดใน Little Big Film Project ครั้งที่ 11 กับหนังทั้ง 4 เรื่องที่ถูกคัดเลือกมาฉายได้ ที่นี่ หรือลองอ่านรายละเอียดได้ ที่นี่ หนังเรื่องแรกของเทศกาล After the Strom ผลงานกำกับของ ฮิโรคาสุ โคเรอิดะ ผู้กำกับ Nobody Knows, Air Doll, I Wish และ Like Father, Like Son รวมถึงหนัง 4 พี่น้องจากมังงะอย่าง Our Little Sister เริ่มฉายไปแล้วเมื่อ 15 กันยายน 2559 หนังในเทศกาลยังมี About Ray ที่มี แอล แฟนนิ่ง (ที่เพิ่งผ่านตาความสวยของเธอไปใน The Neon Demon) และ นาโอมิ วัตส์ (ที่เพิ่งบ่นคิดถึง(และชอบการแสดงของ)เธอไปในตอนเขียนถึง Demolition) และหนัง From The Land of the Moon ที่มี มาริยง โกติยาร์ นำแสดง)
  
ตัวอย่าง




THE GIRL ON THE TRAIN ปมหลอน รางมรณะ (เข้าฉาย 13 ตุลาคม 2559)


สร้างจากนิยายขายดีขึ้นอันดับของนิวยอร์คไทม์สชื่อเดียวกัน โดย พอลลา ฮอว์กินส์ (ในไทยมีฉบับแปลแล้ว จัดพิมพ์โดย สนพ. Post Books)

เรื่่อวราวของความบิดเบี้ยวของความสัมพันธ์ และความเข้าใจ ในจิตใจของมนุษย์ ซึ่งบางครั้งเมื่อความบิดเบี้ยวเหล่านี้ต้องมาปะทะกัน และหลุดจากในจิตใจออกมาภายนอกแล้ว... มันก็อาจกลายเป็นความน่าสะพรึงชนิดคาดไม่ถึง...

แม้เราจะได้เห็นรถไฟสยองที่เต็มไปด้วยซอมบี้กันไปแล้วใน Train to Busan แต่แม้จะไม่มี ผี  ซอมบี้ หรือวิญญาณร้าย แต่เรื่องราวที่เกิดขึ้นบนรถไฟที่อึงอลไปด้วยเสียงจากเงามืดในจิตใจมนุษย์ก็อาจ 'น่ากลัว' ได้ไม่แพ้กันก็เป็นได้...

สำหรับคนที่ติดใจเรื่องราวจากหนังหรือนิยายอย่าง Gone Girl ก็น่าลองติดตามเรื่องราวใน The Girl on The Train นี้ดู ฉบับภาพยนตร์กำกับโดย เทต เทเลอร์ (Tate Taylor) และคาดหวังความเข้มข้นจากทั้งเรื่องราว และการแสดงได้จากนักแสดงอย่าง เอมิลี่ บลันต์ 

ตัวอย่าง




THE DISAPPOINTMENTS ROOM (ฉายในอเมริกา 9 กันยายน 2559 ยังไม่มีกำหนดฉายในไทย)


แม้ว่าจะเพิ่งผ่านตาหนัง 'บ้าน' สยองกันไปใน Abattoir แต่มันก็ยังมีอีกหลายเหตุการณ์สยองที่ไปเกิดในบ้านหลังอื่นๆได้ และเรื่องนี้ก็เป็นหนึ่งในนั้น

ความจริงหนังเรื่องนี้ (ที่ไม่รู้ใช่เรื่องเดียวกับที่มีคลิปที่ระบุว่าเป็นตัวอย่างหนังชื่อเดียวกันที่ระบุว่าสร้างจากเหตุการณ์จริง และมีคนเถียงกันไปเถียงกันมาว่ามันไม่ใช่ตัวอย่างจริงอย่างเป็นทางการซะหน่อย หรือเปล่า? ซึ่งจริงๆแม้คลิปจะดูง่ายๆ(เกือบจะงั้นๆ)แต่ก็ดูน่าสนดี) ดูจากตัวอย่าง (จริงเป็นทางการ) แล้วก็ดูน่าสนใจดี กับบ้านที่ดูเหมือนจะมีความลับอะไรบางอย่างอยู่ และนางเอกของเราต้องเข้าไปขุดคุ้ยมันออกมา

ดูจากตัวอย่างจริงๆดูผ่านๆก็มีส่วนน่าดูอยู่เหมือนกัน ดูแล้วแว่บๆก็นึกไปถึง Escape Game หรือ Escape Room Game แต่ในเรื่องนี้คงเป็นหาทางเข้าไปในห้องมากกว่าจะหนีละมัง?

ยังไงก็ตามเมื่อเข้าฉายในอเมริกาหนังก็ดูจะแป๊กไปซะแล้ว ทำเอาโดนล้อไปซะอีกว่าเป็น 'Disappointments' Room จริงๆ... โธ่... (จู่ๆดันทำเอานึกถึงหนังไทย ใครในห้อง? ซึ่งเป็นการเขียนเรื่องโดย คุณเอกสิทธิ์ ไทยรัตน์ ที่เพิ่งพูดถึงไปในตอนเขียนถึง แนะนำ 13 เกมสยอง ขึ้นมาซะอีก ซึ่งจริงๆหนังใช้ได้เลยนะ แต่คิดว่ามันน่าจะจบก่อนตอนจบจริงๆของมันในหนังน่ะ)

แต่ทีแรกก็คิดไว้ว่าก็ยังอยากจะดูอยู่เหมือนกัน เพราะนอกจากตัวอย่างหนังที่ก็พอจะมีอะไรให้อยากดูอยู่แล้ว เคท เบกคินเซล ซึ่งคิดว่าไม่ค่อยได้เห็นหน้าเธอมาซักพักแล้ว (หรือไม่บางเรื่องที่เธอแสดงเราก็ดันไม่ไปดูหรือหาดูซะงั้น(อ่าว)) ก็จริงๆยังคิดไว้นิดๆว่าถ้ามาฉายในไทยก็ยังพอจะอยากไปดู (และพิสูจน์เรื่องที่โดนล้อ?!) อยู่นะ จะได้เจอหน้า เคท เบกคินเซล ในหนังก่อนเธอจะกลับไปอยู่ในบทบาทของแวมไพร์สาวใน UnderWorld (อีกหนึ่ง(อดีต)กิจกรรมในครอบครัว? - เลนส์ ไวส์แมน ไม่ได้กำกับแล้ว แต่ยังอำนวยการสร้างอยู่) ภาคที่กำลังจะมาในปีหน้าด้วย!


RINGS (กำหนดฉายในอเมริกา 28 ตุลาคม 2559 ยังไม่มีกำหนดฉายในไทย)


ในขณะที่ญี่ปุ่นเพิ่งจะสานต่อตำนานความสยองของ ซาดาโกะ กันไปอย่างพิสดารโดยจับมาเจอกันกับอีกหนึ่งตำนานสยองอย่าง คายาโกะ กันเสียเลย

ทางฝั่งตะวันออกเองก็ไม่ยอมน้อยหน้า ยังสานต่อตำนานของ ซามาร่า กับตำนานวิดีโอนำความตายใน 7 วัน มาเล่นต่อ (ในเมื่อซื้อลิขสิทธิ์ไปสร้างแล้วนี่นะ)

ซึ่งก็เป็นการนำเอาตำนานวิดีโอสยองมาเล่าในบริบทของยุคปัจจุบัน ซึ่งรอบตัวเราเต็มไปด้วยคลิปวิดีโอไปเสียแล้ว!  ซึ่งสำหรับคนที่ไปดูการสานต่อตำนานในแบบฉบับของญี่ปุ่นมาแล้ว ก็ดูมีบางอย่างพ้องกันอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน แต่เรื่องราวของ ซามาร่า เองก็น่าจะถูกเล่าออกมาแตกต่างออกไป และก็อาจเป็น ความสยอง ในอีกรสชาติที่ทั้งดูน่าสนใจและน่า(ติดตามความ)สยองกันไม่น้อยเลย

โดยเฉพาะ อย่างที่บอก ในโลกที่รอบกายเราล้อมรอบไปด้วยคลิปวิดีโอเช่นปัจจุบัน...


ตัวอย่างหนัง




NOCTURNAL ANIMALS (กำหนดฉายในอเมริกา 9 ธันวาคม 2559 - กำหนดฉายในไทย 1 ธันวาคม 2559 ?)



เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่เป็นดราม่าทริลเลอร์ที่น่าจะนำเสนอความดำมืดในตัวมนุษย์มากกว่าจะนำเสนอความน่ากลัวจากการเผชิญหน้า ผีร้าย หรือ ซอมบี้

เรื่องราวของเจ้าของห้องแสดงงานศิลปะที่ถูกหลอกหลอนด้วย นิยาย ที่เขียนโดยอดีตสามีของเธอ

สร้างจากนิยาย Tony and Susan โดย ออสติน ไรท์ (Austin Wright) ดัดแปลงเป็นบทภาพยนตร์และกำกับโดย ทอม ฟอร์ด (Tom Ford) ซึ่งก็น่าคาดหวังถึงความถึงคุณภาพ รวมไปถึงความหลอกหลอนด้วย หนังคว้ารางวัล Grand Jury Prize หรือเทียบเท่า รางวัลรองชนะเลิศ จากเทศกาลหนังเวนิซ มาแล้ว แม้จะเป็นงานกำกับเพียงเรื่องที่สองของผู้กำกับ ทั้งยังมีเสียงชื่นชมคาดหวังว่าน่าจะมีบทบาทในเวทีออสการ์ด้วย

หนังยังการันตีความเข้มข้นจากการแสดงโดยการประชันบทบาทของดาราฝีมือเข้มข้นมากมาย เช่น เอมี่ อดัมส์ (ซึ่งเป็นสิ่งดีๆสิ่งหนึ่งในหนังที่เคยเขียนถึงใน BvS) , เจค จิลเลนฮาน , ไมเคิล แชนนอน , แอรอน เทเลอร์-จอห์นสัน หรือ ลอร่า ลินนีย์ ในบทรอง เป็นอาทิ! 

ไม่ว่าคอหนังสยองหรือคอหนังคุณภาพก็ไม่น่าพลาด!

ตัวอย่างหนัง


 


ANNABELLE 2 (กำหนดฉายในอเมริกา 19 พฤษภาคม 2560 (โน่น) ยังไม่มีกำหนดฉายในไทย (แต่น่าจะมาแน่?!))



แม้ว่าภาคแรก ซึ่งเป็นเหมือนเรื่องราวแยกจาก The Conjuring ที่ เจมส์ วาน กำกับ (ส่วนภาค 2 เปลี่ยนไปเล่าเรื่องราวการสิงสู่ในที่อื่น) จะโดนวิจารณ์ในด้านลบไม่ใช่น้อย แต่ก็ยังทำรายได้ไปพอสมควร (ซึ่งจริงๆ มันก็ดูได้พอเพลินๆสำหรับคอหนังสยองที่ต้องการสนุกสะดุ้งเล็กๆไป โดยรวมๆจริงการเล่าเรื่องการแสดงมันก็อาจจะทำได้ดีกว่า Abattoir แต่คิดว่าเรื่องหลังมีอะไรโน่นนี่ที่น่าสนใจกว่า)

แต่สำหรับภาคต่อของตุ๊กตาผีแอนนาเบลก็ยังน่าคาดหวังความสยองขึ้นมาทันที เพราะมี David F. Sandberg ที่เพิ่งมากำกับกระตุกขวัญเรา เล่นกับไฟสว่างและความมืดได้อย่างสนุก ใน Lights Out ไปหมาดๆ (แถมเขายังเป็นเจ้าของหนังสั้นที่เป็นต้นทางด้วย) เข้าชื่อเป็นผู้กำกับ (และ เจมส์ วาน ก็ยังอำนวยการสร้างเหมือนเดิม เช่นเดียวกับ Lights Out และ Annabelle ภาคแรก (แถมพี่แกยังเข้าชื่ออำนวยการสร้าง Insidious: Chapter 4  และ Saw: Legacy อีกต่างหาก! (กรรมสยองของเก่าของแกทั้งนั้น! จะสยองกันไปไหน! - เขาแข่งกับ แซม ไรมี่ จาก Don't Breathe อยู่ครับ 55))

เพราะงั้น... คอสยองโปรดติดตามกันยาวๆ... ๆ ไปเล้ยยย...

ตัวอย่างหนัง (สั้นๆ)




ทีแรกก็ว่าจะจบแค่เดือนกันยาอยู่หรอก แต่ไหนๆก็ไหนๆ ยังพอจะอยากเขียนถึงก็ใส่ๆเข้าไป เผื่อขี้เกียจเอาทีหลัง (ก่อนจะหมดแรงด้วย...)

ส่วนถ้าเอาจริงๆ มันก็คงยังมีหนังสยองอีกเยอะที่ไม่ได้พูดถึง (หรือไม่สนใจ(?)) ซึ่ง...ก็ไม่ต้องห่วง พอตอนนั้นอยากเขียนขึ้นมาจริงๆ ก็หาเรื่องมาวกเข้าเขียนถึงหนังสยอง ที่มีอยู่รอบตัวเราอยู่มากมาย ได้อยู่ดีละนะ บรื๋อออออ...

ขอให้สยองกันอย่างมีความสุขทุกท่าน...










ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น