วันเสาร์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2559

[ภาพยนตร์] แฟนเดย์...แฟนกันแค่วันเดียว : สะพานแขวนชื่อความทรงจำ?...


แบบสั้นๆ
หนังของ GDH (เลขตามหลังจำไม่ได้แล้ว ใช่ 365 ไหม?) เรื่องแรก ซึ่งยังคงน่าจะทำมามอบแก่แฟนๆ GTH โดยฝีมือของผู้กำกับคุณ โต้ง บรรจง (ผู้กำกับร่วมของหนังอย่าง ชัตเตอร์ และ แฝด ตอน คนกลาง และ คนกอง ใน 4 แพร่ง และ 5 แพร่ง ตามลำดับ และ กวน มึน โฮ กับหนังพันล้าน (ที่รู้จักคุณ ใหม่ ดาวิกา เป็นหนแรก) อย่าง พี่มาก พระโขนง)

ผ่านไปหลายขวบปีผู้กำกับโต้งก็พาคุณเต๋อ ฉันทวิชช์  มาเจอะกับนางเอกคุณมิว นิษฐา ถ้าเอาแบบสั้นๆ อย่างที่คุณโต้งให้สัมภาษณ์ไว้ว่าแม้หลายๆอย่างมันดูจะไปคล้ายๆ กวน มึน โฮ พระเอกก็คนเดียวกัน แต่มันจะเป็นหนังรักที่โตขึ้น และมีส่วนผสมของความเป็นหนังโรแมนติกมากกว่าจะเป็นโรแมนติกคอมเมดี้ ซึ่ง ที่ไปดูมาโทนของหนังก็เป็นไปตามนั้นครับแต่ทั้งหมดที่คาดหวังได้จากหนังยังมากันครบ ทั้งนักแสดงนำที่มีเสน่ห์ ยิ้มสวย น่ารัก อารมณ์ขัน ความกวน คำคม โมเม้นต์สวยๆ ความโรแมนติก โฆษณา (นี่เขียนเอาฮาเฉยๆ แต่มันก็มีกันหลายเรื่องแหละ ยิ่งท่าจะดังมากก็ยิ่งอาจมีสปอนเซอร์มากเน้อ - จริงประเด็นนี้ถ้าไม่ทิ่มตามาเลยก็เฉยๆนะ - บอกแล้วว่าแซวเฉยๆ) ถึงจะไม่ใช่ระดับหนังในดวงใจ เข้าโรงไปดูต่อรอบสองเลยดีกว่า (ซึ่ง...(ที่จำได้)ก็ไม่เคยทำแบบนั้นน่ะนะ แม้จะเป็นหนังที่ชอบมากๆๆก็ตาม...) แต่นี่ก็เป็นหนังที่ดูสนุก มีโมเม้นต์ขำๆ โมเม้นต์โรแมนติก มีเสน่ห์ของนักแสดงนำทั้งสองพาผู้ชมอย่างเราให้ติดตามไป มีเคมีระหว่างนักแสดงให้เราเอาใจช่วย แม้จะมีความกี๊กผสม(ผ่านตัวละครของเต๋อ) ด้วยก็ตาม คนทั่วไปก็ดูเอาไว้ฮาเป็นหลักล่ะนะ ซึ่งก็สนุกดี และมันก็มีความรวดร้าวไประหว่างความโรแมนติก และคำว่ารักอยู่ด้วย และในหลายๆช่วงมันก็ทำให้เราลุ้นไปกับเหตุการณ์ สถานการณ์ และความรักของทั้งคู่ได้จริงๆ โดยผู้กำกับโต้งก็ยังคงใช้สไตล์การเล่าเรื่องของเขามาใช้ในเรื่องนี้อย่างค่อนข้างชัด ที่จะเก็บบางอย่างเอาไว้ก่อนจะเผยมันออกมาให้จู่โจมผู้ชมและตัวละครอีกครั้ง ซึ่งหลายๆช๊อตก็เอาตายได้เหมือนกันยิ่งกับคนพร้อมจะโรแมนติกอยู่แล้วด้วย ซึ่งเท่านี้ก็ถือว่าผ่านแล้ว จะเป็นคนดูทั่วไปหรือแฟนๆ GTH ก็คิดว่าไม่น่าจะผิดหวังกันครับ แม้จะไม่ถึงกับเป็นหนังในดวงใจ และแม้ผมจะรู้สึกว่าที่คุณเต๋อทุมเทเพิ่มน้ำหนักให้ฉุขึ้น เปลี่ยนลุคให้ธรรมดาๆกี๊กๆ ผนหยิกงี้ แต่...ที่น้ำหนักเพิ่มผมก็ไม่รู้อะไรจากตัวอย่างกับเขาเลยจนเพื่อนบอกให้ฟัง (เวรกำ) จนไปเห็นฉากโชว์ในหนังนี่แหละถึงชัดหน่อย (ซึ่งถึงตรงนี้ก็ต้องบอกว่าก็ทุ่มเทจริงหละนะครับ - เพราะงั้นใครอยากไปดูฉากโชว์ก็ไปดูได้ครับ) แถม...ดูไปตั้งนานก็ยังรู้สึกว่า...คุณเต๋อในบทเด่นชัยก็ยังดูดีกว่าเราป่าวฟระ?!!! ลำบากแล้วตรูทีนี้... คุณมิวน่ารักครับ เต๋อในบทเด่นชัยจะหลงชอบก็ไม่แปลก

และแม้ผมอาจจะจัดหนังให้อยู่ในกลุ่มหนังประมาณเทพนิยายวัยผู้ใหญ่อยู่ (ซึ่งไม่ได้แปลว่าเกลียดหรือไม่ชอบอะไรนะ) มันก็มีความรวดร้าวผสมอยู่ด้วยในเรื่องนี้ และในเรื่องราวของตัวเองหนัง(และพระเอกนางเอก)ก็ยังพาผมล่องลอยไปกับเนื้อเรื่องไปจนจบ และก็ไม่มีอะไรไม่พอใจ แม้ว่าไม่ได้ชอบมากหรือชอบขั้นสุดก็ตาม ยังอิ่มเอมกับช่วงเวลาที่ใช้ไปกับหนังอยู่ อาจไม่ถึงกับมีอะไรเหนือคาดมาก แต่เคมีระหว่างคู่พระ-นางก็ทำงานอย่างได้ผล และจริงๆแม้รวมๆจะไม่เหนือคาด แต่หลายๆจังหวะก็คิดว่าหนังทำได้ดีมาก 8.0 คะแนนครับ อาจจะดูกั๊กๆไปซะหน่อย แต่ไม่ได้แปลว่าไม่ชอบนะครับ

คอ GTH คอโรแมนติก แฟนเต๋อ แฟนมิว แฟน ผกก.โต้ง ไม่น่าจะผิดหวังกันนะ จะชอบมากชอบน้อยถูกจริตมากถูกจริตน้อยเท่านั้นแหละ


แบบยาวๆ

ไม่สนสปอยล์อะไรเลยนะครับ ระวังกันเอาเอง (แต่เขียนดองกว่าจะจบช้าขนาดนี้... อาจจะไปดูกันมาหมดแล้วมัง?... - -)

จริงๆก็อาจไม่ยาวเท่าด้านบนที่บอกว่าเป็นแบบสั้นๆ (อ่าว) และหลายเรื่องที่ทิ้งไว้แบบนี้ก็ไม่ได้กลับไปเขียนซักที แต่เรื่องนี้อยากเขียนไว้หน่อย เดี๋ยวนานก็กลัวจะลืม (อืม...)

ตอนที่ดูเรื่องนี้อยู่แล้วคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ผมไปคิดถึงหนังเรื่อง The Lobster ซึ่งก็เคยเขียนทิ้งไว้ตั้งนานแล้วป่านนี้ก็ยังเขียนไม่จบ (จำไม่ค่อยได้แล้วด้วยว่าเขียนอะไรไปมั่ง...) ซึ่งเข้าใจว่าจากตัวอย่างหนังอารมณ์ประหลาดๆ คงหลอกหลายคนเข้าไปลุ้นให้พระเอกกลายร่างไปเป็นล็อบสเตอร์กันเยอะอยู่ (อ่าวไม่ใช่หรอกเหรอ?) คือเพราะมันเป็นหนังที่พูดกันชัดๆว่าเป็นเรื่องความรัก เพราะงั้นจะว่าเป็นหนังรักก็เป็นหนังรัก ดาราคุ้นหน้า กับตัวอย่างประหลาดๆแต่ก็ขำๆ หลายคนคงเข้าไปดูแล้วที่ชอบก็คงมีที่เง็งก็คงมาก ผมเองอาจไม่ได้ชอบที่สุด แต่ก็ค่อนไปทางชอบอยู่ แต่ตอนดูจบก็ประหลาดใจนิดๆ(พอดีเดาไว้ทางอื่นเพราะไม่เคยดูหนัง ผกก. คนนี้มาก่อน ได้ยินแว่วๆมาอย่างเดียว)ว่ามันเป็นหนังที่ดูมีเหตุผลของการที่ใครซัก(สอง)คนจะคู่กันเยอะเหมือนกันนี่หว่า (คือทีแรกนึกว่าจะอินเนอร์กว่านี้)

กลับมาเรื่อง แฟนเดย์ ดีกว่า
คราวนี้แม้ว่าดูตัวอย่างหนังเงื่อนไขของการพบกันของคู่พระ-นางแล้วหลายคนคงนึกไปถึง กวน มึน โฮ แต่ ผกก.โต้งก็บอกไว้ว่าโทนตั้งใจทำให้ต่างไป เรื่องนี้จะเป็นผู้ใหญ่กว่า คอมเมดี้อาจจะน้อยกว่า และสัดส่วนของหนังโรแมนติกจะมากกว่า ซึ่งที่ดูก็คิดว่าเป็นไปตามนั้นนะครับ

ส่วนหนึ่งอาจเพราะคราวนี้เรื่องที่ถูกเอามาเล่นเป็นเรื่องของ ความทรงจำ ซึ่งนางเอกของเราทำมันสูญหายไป (จะโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม) และพระเอกของเราซึ่งในตอนนั้นไม่ใช่พระเอกในชีวิตของนางเอกอยู่ ณ ที่นั่นเวลานั้น เขาจึงกลายไปเป็นผู้มีบทบาทใน ความทรงจำ ณ ขณะนั้นของเธอ

หลายคนคงรู้กันแล้วว่าระหว่างเวลาในช่วงนั้นซึ่งในหนังเซตไว้แค่ 1 วัน (ดูเป็นธีมของหนังมากๆ ขนาดรูปโปสเตอร์ที่ไม่มีเลข 1 (กันยา) ยังหายากเหลือเกิน เลยช่างมัน เลิกหาละ) ท้ายที่สุดพระเอกของเรา เด่นชัย (คุณเต๋อ-ที่ยังดูดีกว่าผมแม้แปลงโฉมให้ดูดีน้อยลงแล้ว...) ก็ได้มีโอกาสเข้าไปสู่จุดที่สร้างความทรงจำดีๆร่วมกันกับ นุ้ย (มิว-ผมไม่ค่อยได้ดูโทรทัศน์จึงไม่คุ้นหน้าคุณมิว แต่คุณมิวน่ารักครับ) ได้ ว่าง่ายๆก็คือพระเอกของเราทำให้นางเอก(คิดว่ากลับมา)หลงรักได้ในวันเดียว

ส่วนที่สงสัยว่าเที่ยวหลายที่ในวันเดียวนั้นเป็นไปได้เรอะ เนื่องจากไม่มีประสบการณ์ในเรื่องนี้ (และก็ไม่มีอะไรการันตีว่าจะได้พิสูจน์เงื่อนไขดังว่านั้น) และพอไม่รู้อะไรก็หยวนไปหมด ให้คนที่เขามีข้อมูลไปเถียงกันเอง เพราะงั้นเราจะข้ามเรื่องนี้ไปเลยนะครับ เด่นชัยอาจจะทำได้ก็ได้ เพราะอาจเตรียมการในขมองมาเป็นพันรอบแล้วก็ได้ แล้วการทำให้นุ้ยมาหลงรักใน 1 วันมันจะเพียงพอหรือ?

แม้จะมีเงือนไขว่า นี่ไม่ใช่การหลงรักกันแบบไม่มีที่มาที่ไปแต่ นุ้ย คิดว่า เด่นชัย เคยเป็นแฟนของตัวเอง แต่ว่าเวลา 1 วันมันจะเพียงพอหรือ?

เรื่องนี้ผมเองก็ไม่มีประสบการณ์อีกเช่นกัน แต่ในหนังผมก็ไม่ได้จ้องจับอะไรตรงนี้มากเพราะมันก็สมูทดีในแบบของมัน สรุปก็คือผมก็ปล่อยใจไปกับหนัง (ที่ก็บอกไปแล้วว่าก็ยังรู้สึกว่ามันเป็นเทพนิยาย) และก็ชอบหนังพอสมควร

เคยได้ยินทฤษฎีสะพานแขวนไหมครับ?

ที่ว่าถ้ามีชายหญิงได้ไปรู้จักกันตอนเดินข้ามสะพานแขวน อัตราการสานความสัมพันธ์ต่อจากนั้นจะเป็นไปได้สูง เพราะว่าระหว่างอยู่บนสะพานแขวน เรารู้สึกได้ถึงความสั่นไหวไม่มั่นคง และบางครั้งความตื่นเต้นมันทำให้หัวใจเต้นระรัว ซึ่งก็เป็นอาการลักษณะเดียวกับการมีความรักเกิดขึ้น ได้อยู่ใกล้ๆคนที่เราชอบหรือหลงรัก อาจเป็นเพราะในความไม่มั่นคงนั้น มีอีกคนหนึ่งอยู่ใกล้ๆ และเรารู้สึกว่าเขาเป็นที่พึ่งได้ อาการใจเต้นเลือดสูบฉีดก็ยิ่งอาจกลายเป็นสิ่งกระตุ้นให้เรารู้สึกตื่นเต้นเมื่อมีคนคนนั้นอยู่ข้างๆ

ตอนดูหนังเรื่องนี้ไป ผมคิดว่ามันเป็นอาการลักษณะใกล้เคียงที่เกิดขึ้นกับนุ้ย ตื่นมาในโรงพยาบาลโดยจำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง ความทรงจำหายไป คนที่รู้จักหายไป เหลือแค่ชายหนุ่มที่แว่บแรกไม่น่าใช่สเปคตัวเอง (แต่ดันยังทำให้คนดูอย่างผมรู้สึกว่าดูดีกว่าตัวเอง...) แต่กลับถูกบอกว่า ผมเป็นแฟนคุณ ตอนแรกนุ้ยก็ไม่อยากยอมรับกระทั่งไม่อยากยุ่ง จะว่าไปมันน่ากลัวมากกว่าที่ความทรงจำหายไปแล้วมีใครที่ตัวเองก็จำไม่ได้ว่าเกี่ยวข้องกันยังไงมาบอกว่าเป็นแฟนตัวเอง

แต่เด่นชัยก็ไม่ยอมแพ้ (อาจเสริมด้วยคิดว่านี่เป็นมนต์วิเศษที่ระฆังประทานมาให้ ก็ต้องไม่ให้เสียเปล่า) กระทั่งเมื่อพบว่าพ้นไปจากเรื่องที่น่าขายหน้าแล้ว ผู้ชายคนนี้รู้เรื่องของเราดี แม้จะดูไม่น่าเชื่อในตอนแรก แต่เขาก็เทคแคร์เราดี ดูหวังดีแลัช่วยเหลือเรา เขายังรู้เรื่องของเราอีกหลายๆอย่าง และเกิดรู้สึกว่าเขาคงเป็นที่พึ่งได้...

ในความไม่มั่นคง มีใครจับมือไว้อย่างอบอุ่น โดยที่เขาก็ดูไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร ก็ยังน่าจะดีกว่าเดินดุ่มไปเพียงลำพัง... เหล่านี้อาจกระตุ้นให้นุ้ยเชื่อใจเด่นชัยมากขึ้น และสุดท้ายเธอก็เชื่อว่าชายผู้ปรารถนาดีกับเธอคนนี้ ที่คอยช่วยเหลือในตอนที่เธอทำไม่ได้กระทั่งจำเรื่องไม่นานที่ผ่านมา ผู้ที่รู้เรื่องของเธอดีหลายๆอย่าง น่าจะเป็นคนที่เธอพึ่งได้ น่าจะเป็นคนที่เธอรักได้

เป็นความรักที่เกิดขึ้นใน 1 วัน โดยมีตัวเสริมเป็นข้อมูลมากมายเกี่ยวกับนุ้ยที่เด่นชัยรู้ ความช่วยเหลือที่มอบให้ ระหว่างอยู่บนสะพานแขวนชื่อความทรงจำที่หายไป...

และหลังจากนั้นภาพที่นุ้ยมองเด่นชัยก็เปลี่ยนไป... แม้จะเป็นเรื่องเดียวกันแท้ๆ แต่เมื่อถูกพูดให้ฟังในสถานะที่ต่างกัน จากเรื่องน่าขยะแขยงอย่างการแอบใส่ไฟล์เพลงในเครื่องคอมฯโดยเจ้าหน้าที่ไอทีที่เคยคุยกันไม่กี่ครั้ง กลับกลายเป็นสิ่งที่น่ารักไปได้เมื่อมันออกมาจากปากคนรัก...

ทำไมคนเราจึงรักกัน?...

ก็คงตอบยาก ส่วนหนึ่งมันอาจเพราะมีอะไรๆเหมือนๆกันหลายอย่าง ชอบกินอาหารอย่างเดียวกัน รักสัตว์เหมือนกัน ชอบเพลงแนวเดียวกัน ชอบเที่ยวเหมือนกัน ฯลฯ มีทัศนคติและการใช้ชีวิตในทางเดียวกัน หรืออาจมีสิ่งที่ลงตัวร่วมกัน? หรือแค่ชอบหน้าตา รูปกาย สถานะ หรือรอยยิ้ม? บางครั้งมันอาจเป็นแค่เรื่องของจังหวะเวลาและโอกาส ในตอนที่จำเรื่องราวความเป็นมาไม่ได้นุ้ยจึงรับไม่ได้กับการที่คิดว่าตัวเองรักคนมีเจ้าของมีครอบครัวและต้องเป็นฝ่ายทำให้ครอบครัวคนอื่นร้าวฉาน ทั้งที่...ก่อนหน้านั้น ความรู้สึกเหล่านี้ไม่ได้ใหญ่โตไปกว่าความรู้สึกที่อยากสานสัมพันธ์กับคนรักคนนั้นเลย

เมื่อเล่าเรื่องด้วยสไตล์ของผู้กำกับ บรรจง ที่เก็บเรื่องราวบางอย่างไว้ แล้วค่อยหาโอกาสปล่อยมันออกมาให้ผู้ชมรับรู้ หลายๆช่วงมันจึงชวนช๊อคทั้งผู้ชมและตัวละครในเรื่อง แม้ว่าสไตล์ของผู้กำกับ บรรจง อาจจะชัดมากไปซักนิด แต่ก็ต้องยอมรับว่าในการเล่าเรื่องบางเรื่องสไตล์นี้ที่ซ่อนบางอย่างไว้ก่อนจะเผยมันออกมากระทบความรับรู้ ก็เป็นวิธีที่สั่นสะเทือนความรู้สึกมาก

ความรักก็เหมือนกับอีกหลายๆเรื่อง โดยมากเรามักจะมองย้อนไปจากตอนที่มันเกิดขึ้นแล้ว เราก็พบว่าเราน่าจะสามารถอธิบายเหตุผลความเป็นมาเป็นไปให้มันอย่างชัดเจนได้ แต่ความจริงแล้ว มันก็ดูจะมีหลายอย่างเหลือเกินที่อธิบายได้ยากหรืออาจอธิบายไม่ได้เลย ว่าจริงๆแล้วมันเกิดขึ้นได้เพราะอะไร? ทำไมเมื่อรักกันแล้วโลกก็เปลี่ยนไป ทำไมเมื่อหมดรักโลกจึงดูไม่เหมือนเดิม...

อาจด้วยความลึกลับของสิ่งนี้ เด่นชัย จึงเลือกจะเดินจากไป... แต่มันก็เป็นเหตุผลเดียวกันก็ได้ที่ทำให้เขายังไม่ลบรอยยิ้มของนุ้ยไปจากความทรงจำในอุปกรณ์อิเล็กทรอนืกส์ชิ้นนั้น... มันคงน่าเสียดาย ถ้ามันจะถูกเก็บอยู่ในความทรงจำของเขาคนเดียว อย่างน้อยที่สุดเขาคงอยากให้เธอได้เห็น รอยยิ้มของตัวเองที่ได้ไปอยู่ในสถานที่ในฝัน รอยยิ้มสดใสของคนที่เขาเคยได้เป็นแฟนกันในวันหนึ่ง...



แนะนำ

จริงๆ ตอนจบอาจจะเป็นการทิ้ง Hint ไว้เพื่อทำอไะรต่อหลังจากนี้ก็ได้นะครับ แต่เพื่อเห็นแก่เด่นชัย กับนุ้ยซึ่งมีเสน่ห์กันทั้งคู่ในหนังเรื่องนี้อย่างน่ารัก ผมก็ไม่ควรจะพูดแบบนั้นนะครับ เอาเป็นว่า...ผมพอใจกับหนัง มันน่ารักและสนุกดี แม้จะมีความเจ็บปวดผสมอยู่ด้วย แต่ระหว่างที่ไม่รู้ว่าจะมีตอนต่อมาไหมหรือเมื่อไหร่ เรามาลองไปดู ตอนก่อน ของเรื่องราวที่เห็นในจอภาพยนตร์กันดูครับ

ในวงการ สนพ.การ์ตูนในไทยเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นหลายอย่าง ไว้จะมาพูดถึงเรื่องนั้นทีหลังเนาะ (เนาะ!?)

ส่วนในแวดวงการ์ตูนไทย สยามอินเตอร์คอมมิคก็เป็น สนพ.หนึ่งที่ยังผลักดันการ์ตูนไทยอย่างต่อเนื่อง และสยามอินเตอร์คอมมิค ซึ่งมีการ์ตูนไทยสตูดิโอ ก็ดูจะผูกปิ่นโตกับหนัง GTH ออกวางเนื้อเรื่องเสริมของหนังแต่ละเรื่องในรูปแบบการ์ตูนไทยมาตลอด และเมื่อแยกตัวเปลี่ยนเป็น GDH ดูเหมือนโครงการนี้ก็ยังมีต่อไป

สำหรับ แฟนเดย์ ก็มีออกวางการ์ตูนซึ่งเป็นเรื่องราวก่อนที่จะเกิดขึ้นในหนังมาเหมือนกัน จะได้รับรู้เรื่องราวในบริษัทก่อนที่ดเ่นชัยจะได้เจอกับนุ้ย และได้รู้จักกับตัวละครที่ไม่มีในเวอชั่นหนังด้วย

อ่านเพลินและสนุกดีทีเดียว น่ารักดี เป็นอีกเรื่องที่ชอบเหมือนกัน อาจจะมาเขียนแนะนำยาวๆกว่านี้ ระหว่างนี้...สนใจลองไปหามาอ่านกันดูครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น