วันอังคารที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

[ภาพยนตร์] THE DRESSMAKER แค้นลั่น ปังเวอร์ : ความลับในเมืองเล็กและการกลับมาของช่างเสื้อนางพญา สมราคาโดย เคต วินสเล็ต


หนังออสเตรเลียแปลกรสแปลกสไตล์ไปจากอารมณ์ทั่วไปของหนังฮอลลีวู้ด แม้ไม่ได้แปลกออกไปมาก แต่ก็รสชาติดี มีสไตล์ จะว่าได้ตามโปสเตอร์ก็ว่าได้ พร้อมด้วยการแสดงสมราคาจาก เคต วินสเล็ต ถ้าเป็นแฟนเคต ดูเคตคนเดียวก็ยังคุ้ม 8.0 คะแนน

หนังเล่าเรื่องของเมืองเล็กๆชายขอบแห่งหนึ่ง ซึ่งการกลับมาของผู้หญิงคนหนึ่งส่งผลสะเทือนอย่างเงียบๆ แต่แน่นอนกับทั้งคนเก่าคนแก่ หรือคนในรุ่นราวเดียวกับเธอ ในเมืองเล็กๆที่ทุกคนดูจะรู้จักกันหมด และรู้อะไรๆแต่ปกปิดไว้มากมาย เมืองที่ดูมีทั้งคนเพี้ยนๆและคนดีๆ แต่ทุกคนก็ดูเหมือนจะระวังระไวกับการคืนถิ่นของหญิงผู้นี้ หญิงช่างเสื้อที่ดูเหมือนทั้งเรื่องราวหนหลัง การกลับมา และฝีมือของเธอดูจะส่งผลสะเทือนกับชุมชนเล็กๆแห่งนี้ ไม่เว้นกระทั่งผู้ที่เธอเรียกว่าเป็นแม่ ที่ดูจะไม่ยินดีกับการกลับมาของเธอเลย อะไรกันที่เคยเกิดขึ้นในที่แห่งนี้?...

เมื่อดูไปแรกๆหนังเรื่องนี้นำเสนออกมาเหมือนมีความเซอร์เรียลพอสมควรจากจังหวะชีวิตแปลกๆ และจังหวะประหลาดๆหลายๆอย่างของผู้คนในเมืองนี้ (ที่บางทีก็น่ากลัว บางทีก็ตลก) ให้ความอึมครึมๆและเพี้ยนๆ แม้ว่าจะเริ่มด้วยจังหวะที่ดูเนิบช้าไปบ้าง แต่เมื่อเรื่องค่อยๆดำเนินไปพร้อมเผยให้เห็นความลับไปเรื่อยๆ ดูเหมือนหนังก็จะสามารถแสดงให้เห็นถึงสไตล์และจังหวะของตัวเองได้ประมาณหนึ่ง ซึ่งแม้อาจไม่จัดจ้านที่สุด แต่ก็มีรสชาติดีไม่เลว ทำให้คนที่คลิกแล้วน่าจะสามารถติดตามหนังได้อย่างเพลิดเพลินและอยากรู้ว่าตัวละครจะทำอะไร หรือเรื่องจะดำเนินต่อไปอย่างไร โดยที่ความเพี้ยนเหล่านั้นก็ไม่ได้ไปขัดกับจุดที่เคร่งเครียดของหนัง

ในด้านเนื้อเรื่อง ในขณะที่นำเสนอผู้คนในเมืองเล็กพร้อมไปกับนางเอกช่างเสื้อที่เข้ามาในเมืองและดูจะไม่เป็นที่ต้อนรับ ซึ่งต้องการกลับมาโดยมีจุดประสงค์บางอย่าง และต้องต่อสู้กับการไม่นำพาของคนอื่นๆในชุมชน และดูเหมือนกระทั่งแม่ของเธอด้วยทั้งใจ กาย และฝีมือของเธอ ระหว่างที่เราติดตามปฏิสัมพันธ์ระหว่างคนโน้นคนนี้ในชุมชนไป มันก็ค่อยๆเผยบางอย่างเบื้องหลังเรื่องราวเหล่านี้ไปพร้อมกันด้วย ดูเหมือนในเมืองเล็กๆจะมีบรรยากาศคุกคามและกฎของมันที่แม้ไม่ได้เขียนเป็นลายลักษณ์อักษร แต่ทุกคนกับรับรู้ว่ามันมีอยู่ และบางคนก็ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด แม้ว่าบางครั้งแต่ละคนอาจไม่ได้เห็นพ้องหรือเห็นด้วยกับคนอื่นไปซะหมด และในความที่เป็นเมืองเล็กที่ทุกคนเห็นหน้ากันความอึดอัดคับข้องบางอย่างที่อาจเกิดขึ้นก็อาจต้องต่อกรกับการถูกกดไว้เงียบๆ และมันก็มีบางอย่างที่ดูเหมือนทุกคนจะมีพันธสัญญากันอย่างลับๆ



ในด้านแฟชั่นตามที่แสดงไว้ในโปสเตอร์ (พร้อมทั้งชื่อไทยที่จะว่าไปก็เรียกความสนใจได้ไม่เลว) เมื่อถึงจุดแรกนางเอกจะแสดงให้เราเห็นเองด้วยความแซ่บของเธอ และเมื่อถึงจุดหนึ่งเธอก็จะโชว์ความสามารถของเธอในฐานะ 'ช่างเสื้อผู้อาจหาญกลับมา' ได้อย่างไม่หวั่นเกรง ถือว่าในเรื่องของแฟชั่น และในหนังการใช้ชุดของเธอเปลี่ยนจากสาว(มากบ้างน้อยบ้าง)เฉิ่มๆทมึนๆให้โดดเด่นขึ้นมานั้นออกแบบมาได้โอดีไม่ใช่ย่อย ตรงนี้ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในหนัง และหนังถือว่าทำได้สมราคาคุยโปสเตอร์เลยทีเดียว ใครสนใจไปดูเพราะแฟชั่นก็น่าจะได้ไปดูในหนังกันนะ

นักแสดงในเรื่องถือว่าแคสกันมาได้เหมาะ และหลายๆคนก็มีช่วงปล่อยของ ปล่อยความเพี้ยน ปล่อยพลังกันพอควร นักแสดงมีทั้งรุ่นเล็กรุ่นใหญ่ แต่ที่ถือเป็นไม้ตายของหนังซึ่งถือว่าแม้ทีแรกจะทำให้สงสัยอยู่บ้างว่าเลือก เคต มาเลยเหรอครับ? เพราะเคตเธอเล่นเป็นเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกับ เลียม เฮมส์เวิร์ท พ่อหนุ่มแฟน แคทนิส เอเวอร์ดีน จาก THE HUNGER GAMES ครับ! ดูแรกๆถึงกับงงกันไปเลยทีเดียว แต่พอดูไปไม่เท่าไหร่เองไปจนจบก็ต้องยอมรับว่าแคสติ้งเลือกมาถูกแล้วจริงๆ เคต วินสเล็ต ในที่นี้ถือว่า 'ได้'หมด ทั้งความแกร่ง ความสวย มาดนางพญา ความเซ็กซี่ ความหวั่นไหว ความกลัว ความรักแบบวัยเยาว์ ความโกรธ ฯลฯ คือ เธอทำได้หมดเลย แซ่บมาก ทั้งขณะที่อยู่ท่ามกลางตัวละครและจังหวะประหลาดเธอก็ยังแสดงความรู้สึกสะเทือนใจออกมาแบบคนธรรมดาๆโดยที่ไม่ไปขัดกับบรรยากาศและสไตล์ของหนัง เมื่อเรียกร้องความมาดมั่นหรือมาดนางพญาโดดเด่นหยิ่งเชิดร้ายลึกเธอก็ทำได้ เรียกร้องความหวั่นไหวอารมณ์สะเทือนใจรักใคร่ขวยอายเธอก็ได้ แสดงคู่กับเลียมจนไปถึงจุดหนึ่งเราก็ยอมรับไปเองว่าเขารุ่นเดียวกันเธอก็ยังทำได้อีก! เรียกร้องความสวยเซ็กซี่เธอก็ยังทำได้! เรียกว่าได้หมด! ทึ่ง! ที่เลือกเคตมาเป็นนางเอกนี่เป็นคำตอบที่ถูกต้องจนไม่รู้จะเถียงยังไง ถึงได้บอกว่ารักชอบเคต (หรือเห็นการแสดงมันๆจาก STEVE JOBS มา) ก็น่าลองหยิบเรื่องนี้มาดูซักที คือแม้ไม่ได้อยู่ในหนังที่เคร่งเครียดหรือเค้นอารมณ์เข้มข้นเหมือนที่เธอแสดงบ่อยๆอยู่ช่วงหนึ่ง เธอก็ยังเฉิดฉาย สมระดับ แม้อาจไม่ใช่บทที่ต้องปล่อยพลังถึงระดับเรื่องในวงเล็บก่อน แต่เธอก็ให้ทุกอย่างได้ตามที่บทต้องการทุกประการ

นอกจากนั้นนักแสดงหลายๆคนที่รายรอบเคต อย่างเช่น มอลลี่ เดวิส ที่แสดงเป็นแม่ ก็เล่นได้เข้าคู่กันดีสมบทแม่ที่มีความลับและเหมือนจะไม่ชอบขี้หน้าลูกสาวเอาเสียเลย หรือ ฮิวโก้ วีฟวิ่ง (เอเจนท์สมิทแห่ง THE MATRIX นั่นล่ะ) ก็ได้รับบทเพี้ยนๆหรรษาที่ในทีนี้ซึ่งแกก็เล่นได้หรรษาดีทีเดียว น้องเลียมก็ใช้ได้ หรืออื่นๆอย่าง ซาร่า สนุค ที่ได้รับบทอันโดดเด่นและก็ทำได้ดีเบยในที่นี้ด้วย (และเธอก็เผอิญมีบทใน STEVE JOBS ด้วยแฮะ) ดี!

แปลกเหมือนกันที่เหมือนหนังจะเปลี่ยนจังหวะและอารมณ์ของตัวเองไปเมื่อครึ่งเรื่องผ่านไป จนอารมณ์ของหนังดูเปลี่ยนไป แต่ส่วนนี้ก็ไม่เป็นปัญหาอะไรนัก แต่เหมือนกับหนังทิ้งสไตล์ช่วงแรกแล้วปรับไปเป็นอย่างอื่น

จะว่าไปหนังก็มีบรรยากาศแบบคาวบอยๆหน่อยๆเหมือนกัน ในบรรยากาศเมืองเล็กๆไกลปืนเที่ยงแบบนั้น เพิ่งรู้ตอนจบว่าหนังสร้างจากนิยาย แต่ก็ไม่คิดว่าเคยผ่านตาเล่มแปลในบ้านเรานะ?

ถ้าให้สรุป ก็ต้องบอกว่าหนังเล่าเรื่องในเมืองเล็กเรื่องนี้มีสไตล์ไม่เลวทีเดียว เลือกไปดูแบบครึ่งๆกลางๆ แต่ก็ไม่ผิดหวัง เพลิดเพลิน หรรษา เพี้ยนนิดๆ แฟชั่น ดราม่า 
และ เคต วินสเล็ต คือดีมั่กๆ แซ่บดี(ทั้งหนังและเคต) ให้คะแนนบวกจากแฟชั่นที่จะขายและทำได้ กับพลังแห่งเคตครับ 8.0 คะแนน


นึกถึง


ตอนที่แปะไว้ตั้งแต่ยังไม่เคยดู THE DRESSMAKER ก่อนหน้านี้ ในตอนเขียนถึงสารคดีชีวิต IRIS จริงๆก็ไม่รู้หรอกว่าหนังจะสนุกไหม? แต่สรุปที่ไปดูก็เพลิดเพลินดีทีเดียว และหนังก็ทำได้ดีในเรื่องของแฟชั่นด้วย แต่ยังไงซะใครไปดูเพราะแฟชั่นยังไงก็น่าลองชม IRIS อยู่ดี จะถือว่าเป็น A MUST ก็ได้! แต่ตอนนี้...หนังลาโรงไปซะแล้ว ก็คงต้องรอแผ่นนะครับ...จ๋อย... (แต่เห็นว่า DOCUMENTARY CLUB จะออกแผ่น DVD นะ คงต้องรอกันนิดฮะ)





เรื่องสไตล์ ดูเรื่องนี้แล้วนึกไปถึงการคุมโทนสีในหนังเรื่องหลังๆของ เวส แอนเดอร์สัน หน่อยๆ (หรือจะหนังเรื่อง HER ก็นึกถึงนิดๆ) แฮะ ทั้งที่มันก็ไม่ได้เกี่ยวกันขนาดนั้น และถ้าพูดถึงสไตล์ น่าจะถือว่าหนังของ เวส แอนเดอร์สัน สไตล์จัดกว่า และเพี้ยนกว่า ชัดเจนในตัวเองมากกว่า ซึ่งก็ชอบมากชอบน้อยต่างกันไปครับ จริงๆชอบ  MOONRISE KINGDOM มากกว่า แต่ถ้าให้แนะนำก็ยังนึกถึง THE GRAND BUDAPEST HOTEL แฮะ (ดูไม่มีเหตุผลหลักการเอาซะเลย...)

ส่วนพอเป็นเรื่องในเมืองเล็ก หรือเรื่องในอดีต จริงๆก็มีอยู่มากมายหลายเรื่องแหละนะ อย่างนิยายแปล ฆาตกรรมตำนานเลือด ของ TALENT 1 ที่อ่านจบไปไม่นานก็พูดถึงการกลับมากับเรื่องในอดีต (แต่ว่าไปนิยายแนวลึกลับหรือสืบสวน รหัสคดีหลายเรื่องก็เล่นประเด็นนี้ล่ะนะ) แต่ถ้าพูดถึงเรื่องในเมืองเล็กซึ่งมีเรื่องราวหรือกฎของมันอยู่ (ว่าไปก็อาจคล้ายๆกับชุมชนอามิชเหมือนกัน) มักนึกไปถึงหนัง THE VILLAGE ของ เอ็ม. ไนท์ ชยามาลาน แต่โทนคงไม่ได้เหมือนหนังเรื่องนี้หรอกนะครับ




และเมื่อพูดถึงออสเตรเลีย ก็คงน่าจะพูดถึงหนังเรื่อง AUSTRALIA สักหน่อย เป็นหนังที่พูดถึงบ้านเกิดของผู้กำกับ บาซ เลอร์มาน (STRICTLY BALLROOM, ROMEO + JULIET, MOULIN ROUGE!, THE GREAT GATSBY) ที่ถึงจะไม่ใช่หนังแซ่บที่สุดหรือดีที่สุดของแก แต่จริงๆก็เป็นหนังดูสนุกใช้ได้ พร้อมด้วยดารานำที่มีเสน่ห์อย่าง ฮิวจ์ แจ็คแมน และ นิโคล คิดแมน  หนังให้ภาพออสเตรเลียสมัยอดีตในบรรยากาศเมโลดราม่าที่มีสไตล์พอควร และดูสนุกโอเค เสียดายที่มันไม่ค่อยประสบความสำเร็จนัก ซึ่งส่วนหนึ่งอาจเพราะมันตามหนังที่ประสบความสำเร็จมากๆของแกอย่าง MOULIN ROUGE! มา ความคาดหวังจึงสูงด้วย


ความจริงช่วงหลังๆก็มีหนังอะไรที่เป็นคาวบอยๆออกมาอยู่ประปราย อย่าง THE HATEFUL EIGHT ของทารันติโน่ ใครอยากดูอะไรบรรยากาศเมืองเล็กๆดูแล้งๆแบบไม่หนีเมืองคาวบอยนักดูเรื่องนี้ก็พอได้นะ (แต่เรื่องนี้ไม่คาวบอยนะ แถมได้ข่าวว่าใน THE HATEFUL EIGHT หิมะตก อ่าว)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น