วันพฤหัสบดีที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2559

[ภาพยนตร์] PETE'S DRAGON พีทกับมังกรมหัศจรรย์ : เด็กชายพีท มังกรเอลเลียต แอนด์คันทรี่ซอง


แบบสั้นๆ
แม้ว่าความจริงแล้วอาจจะพอถือได้ว่าเป็นการ 'สร้างใหม่' ของหนังเก่าดิสนี่ย์ แต่ Pete's Dragon ฉบับดั้งเดิม เมื่อปี ค.ศ.1977 ก็ไม่ใช่งานที่โด่งดังของดิสนี่ย์ (ซึ่งความจริงแล้ว ก็ถือเป็นงานดูสนุก มีเพลงเพราะๆ เรืองนึงของดิสนี่ย์ แถมยังมีความทะเยอทะยานบางอย่างที่น่าทึ่งทีเดียว แต่เราจะเก็บไว้พูดทีหลังก็แล้วกันครับ) แถมความจริงดูเหมือนว่าแทนที่จะเอาของเก่ามาสร้างใหม่ หนัง Pete's Dragon ฉบับนี้กลับเป็นหนังที่เหมือนจะเก็บคุณสมบัติบางอย่างของหนังฉบับเดิมไว้ แล้วเล่าเรื่องในแบบของตัวเอง ซึ่งสิ่งที่หนังเก็บไว้ก็ดูจะมีเพียงลักษณะบางอย่างของคาแรคเตอร์เดิมๆเท่านั้น อย่างเช่น เด็กชายชื่อพีท มังกรสีเขียวชื่อเอลเลียตที่ (เห็นในตัวอย่างแล้วนา) หายตัวได้ และตัวละครบางตัว เป็นต้น ส่วนท่าทีของหนังนั้นต่างกับต้นฉบับชนิดเป็นคนละเรื่องก็ว่าได้

ฉะนั้นสำหรับคนที่ไม่เคยดูเวอชั่นเก่าก็ดูเสมือนเป็นหนังเรื่องหนึ่งที่มีตัวเอกเป็นเด็กชายชื่อพีท มังกรชื่อเอลเลียตได้เลย แต่สำหรับผู้ที่เคยดูฉบับเก่าแล้วชื่นชอบ กลัวว่าฉบับใหม่จะเปลี่ยนไปมากจนอาจจะไม่น่าประทับใจ ก็ยังอยากเชียร์ให้ไปดูฉบับนี้ของดิสนี่ย์ดู เพราะแม้ท่าทีจะต่างไปมาก แต่มันยังมีความน่าประทับใจ ความสนุกสนาน และความอบอุ่นแฝงอยู่ในหนังเรื่องนี้ไม่น้อยเลย

ถ้าให้พูดสั้นๆ อย่างแรกเลยคือ ผมรู้สึกสนุกตั้งแต่ได้เห็น ป๋าโรเบิร์ต เรดฟอร์ด แสดงเป็นคุณลุงผู้เคยพบเห็นมังกรแล้ว ชอบลุงในบทแบบนี้แบบแปลกๆ และคาแรกเตอร์ทุกคนก็แคสมาได้ดี ไม่ว่าจะเป็น ไบรซ์ ดัลลัส ฮาวเวิร์ด ที่เธอเพิ่งไปวิ่งหนีมังกร(?)ใน Jurassic World มาไม่นาน (มันใช่เหรอน่ะ?!) ก็คิดว่าบทของเธอในเรื่องนี้มีโอกาสได้แสดงแง่มุมที่อบอุ่นมากกว่า (ก็อีกเรื่องเน้นวิ่งเป็นหลักนี่นะ ใส่ส้นสูงวิ่งอีกต่างหาก คิดดู) และเธอก็เข้ากับบทได้ดีทีเดียว น้องหนูอูน่า ลอเรนซ์ ก็แสดงได้ดี หรือคาร์ล เออบัน ก็เล่นในบทฝ่ายมุทะลุร้ายของหนังได้ดี โดยเฉพาะน้องหนู โอ๊คส์ เฟกเลย์ ในบทพีท สามารถถ่ายทอดทั้งความคล่องแคล่วระวังระไวขี้เล่นขณะอยู่ในป่า และปฏิกริยาขณะที่เข้ามาอยู่ในความดูแลของคนเมืองได้ดี โดยเฉพาะความผูกพันกับเอลเลียต ซึ่งเป็นอีกหนึ่งตีวละคร(คอมพิวเตอร์สร้าง)ที่แสดงได้ดีมากอีกตัวละครนึง! แม้ว่าหนังจะเปิดเรื่องด้วยท่าทีที่น่าเศร้ากว่าหนังต้นฉบับ และแม้โทนของหนังจะออกไปในทางดราม่ามากกว่า แต่ก็เต็มไปด้วยความอบอุ่น สดใส ด้วยเช่นเดียวกัน

แม้ว่าในปีนี้ดิสนี่ย์จะร่ายมนต์มหัศจรรย์ใส่หนังที่เต็มไปด้วยตัวละครสรรพสัตว์คอมพิวเตอร์สร้างใน The Jungle Book อย่างสมจริงและน่าประทับใจไปแล้ว และในเรื่องนี้อาจมีเพียงมังกรเอลเลียต ดีไซน์มังกรเอลเลียตน่าสนใจดีเมื่อมันถูกออกแบบให้มีขนปุกปุย (ซึ่งทางผู้สร้างบอกว่าตั้งใจให้มันมีลักษณะแบบนี้และแตกต่างจากมังกรแบบที่เราคุ้ยชิน) และละม้ายคล้ายกับสุนัขอยู่มาก (ซึ่งดูไม่เหมือนกับต้นฉบับเลยยกเว้นยังคงมีสีเขียว) แม้อาจไม่ใช่การออกแบบที่สะดุดตาเด็ดขาดเมื่อเห็นในทีแรก แต่ก็อย่างที่บอกเจ้ามังกรเอลเลียตเป็นอีกหนึ่งตัวละครสำคัญของหนังที่มาถ่ายทอดความผูกพัน ความห่วงใยพีท ไปจนถึงความขี้สงสัย ขี้เล่น น่าเอ็นดู ไปจนถึงความหวาดกลัว และความโกรธเกรี้ยว ได้เป็นอย่างดี

ตัวละครเหล่านี้ซึ่งถ่ายทอดการแสดงที่ดี และอบอุ่นมายังผู้ชม ยังถูกคุมไว้ภายใต้บรรยากาศการเล่าเรื่องและโทนของเรื่องอย่างพอเหมาะพอเจาะ โดยการกำกับของ เดวิด โลเวอรี่ (ซึ่งร่วมเขียนบทด้วย) ที่เคยผ่านตางานกำกับดราม่าที่เป็นผู้ใหญ่กว่าของเขาอย่าง Ain't Them Bodies Saints (รูนี่ย์ มาร่า, เคซี่ อัฟเฟลค และ เบน ฟอสเตอร์ (ที่เพิ่งผ่านตากันไปใน Hell or High Water ซึ่งว่าไปก็ทำให้รู้สึกถึงตัวละครในลักษณะปุถุชนในแบบไม่ห่างกันนักได้เหมือนกัน นึกได้แล้วก็น่าจะแนะนำเรื่องนี้ไว้ด้วยเหมือนกัน)) ซึ่งในเรื่องนั้นจำได้คลับคล้ายว่าแม้เราจะไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไหร่กับหลายๆการตัดสินใจหรือการกระทำของตัวละคร แต่เราก็ยังรู้สึกถึงความรักใคร่ ความอบอุ่น ความอาทร เคล้าคลอไปกับเรื่องราวและตัวละครของหนังได้อย่างประหลาด ซึ่งในการมาทำหนังที่มีความเป็นเด็กมากขึ้น และต้องเล่นกับเอ็ฟเฟคท์อย่างนี้ ดูเหมือนผู้กำกับ เดวิด โลเวอรี่ ก็ยังนำเอาลักษณะเฉพาะในการคุมโทนของเรื่องราวและความรู้สึกมาใส่ไว้ใน Pete's Dragon ฉบับนี้ได้อย่างนวลเนียนไม่น้อย หนังจึงเต็มไปด้วยความรู้สึกของความอาทร และรายละเอียดเล็กๆในแต่ละการกระทำของตัวละครที่ทั้งช่วยเพิ่มความสมจริงและความรู้สึกให้กับการกระทำของตัวละครผ่านการถ่ายทอดอากัปกริยาของนักแสดงได้อย่างดี ซึ่งกริยาเล็กๆน้อยๆ อย่างเช่น การปัดปอยผมของเอลเลียต หรือกริยาท่าทางเล็กๆน้อยๆในหลายช่วงของตัวละครเป็นอีกสิ่งที่ชอบมากในเรื่องนี้ แม้นี่จะเป็นหนังที่หน้าตาเป็นหนังเด็กและมังกรมายามันก็เป็นหนังที่มีความรู้สึกที่โตแล้ว(อย่างอาทร)ผสมอยู่ซึ่งช่วยเติมความรู้สึกสมจริงและหนักแน่นให้เรื่องราวในหนังได้อย่างดี และมังกรอย่างเอลเลียตก็ไม่จำเป็นต้องมาปรากฎตัวเพื่อให้หนังมีท่าทีที่ยิ่งใหญ่หรือความรู้สึกใหญ่โต (แม้คงจะต้องใช้ตังค์เยอะก็เถอนะ) แต่มาปรากฎในฐานะตัวละครและส่วนหนึ่งของเรื่องราวที่ต้องมีเจ้ามังกรเอลเลียตเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งของเรื่องได้อย่างพอเหมาะพอเจาะ
อีกอย่างที่ไม่เหมือนต้นฉบับ คือ ขณะที่ต้นฉบับมีเพลงประกอบที่ได้รับการพูดถึง และเป็นเพลงในลักษณะมิวสิคคัล เพลงประกอบใน Pete's Dragon ซึ่งให้โทนที่ดูอบอุ่น เข้ากับสถานที่และบรรยากาศในเรื่องได้เป็นอย่างดี ทั้งยังทำให้โทนและเอกลักษณ์ของหนังดูต่างไปจากโทนแฟนตาซีของหนังมังกรเรื่องอื่นๆด้วย ซึ่งเป็นอีกอย่างที่ชอบเหมือนกันครับ

นี่จึงเป็นหนังในแนวทางของดิสนี่ย์อีกเรื่องที่ดูสนุก แต่ก็มีรสชาติเฉพาะตัวจากผู้กำกับผสมอยู่ด้วยเหมือนกัน หนังมีตัวละครที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น เรื่องราวที่มีอารมณ์ความรู้สึกทั้งไร้เดียงสา ผจญภัย ตื่นเต้น สนุกสนาน แบบเด็ก ขณะเดียวกันก็มีรายละเอียดที่ช่วยเติมความสมจริง และ ความอบอุ่นอาทรของความรู้สึกที่โตกว่า และแม้จะยังเป็นหนังที่เลือกมองโลกในแง่ดีมากกว่า มันก็ยังแสดงถึงความรู้สึกของความหวาดกลัว และความร้ายกาจออกมาได้ในช่วงเวลานั้นๆ โดยยังคงความสมจริง ไม่ใช่แค่การตัดสินใจแบบเอาสนุกไว้ได้เช่นกัน และนั่นก็ยิ่งทำให้เราได้สัมผัสกับความรู้สึกของหนังเรื่องนี้ที่ถ่ายทอดมนต์มายาที่แม้อาจไม่ใช่มนต์ขนานใหญ่อย่าง The Jungle Book แม้ดูไม่ใหญ่โตเท่า แต่มันก็ยังเป็นมนต์ที่สวยงามและน่าตื่นเต้นได้เช่นกัน แถมพอพูดถึงเรื่องนั้น แม้ The Jungle Book จะดูสนุกบันเทิงมาก แต่กลับมาดูในแง่ของ ความรู้สึก ส่วนตัวคิดว่า The Jungle Book ก็กิน Pete's Dragon ไม่ลงเหมือนกัน (ถึงจะมีเพลง Trust in Me จาก สกาเล็ต โจแฮนสัน ก็เถอะ! - เกี่ยวอะไร๊?!) และบรรยากาศจากเพลงสไตล์คันทร่ก็เซตบรรยากาศและบุคลิกให้กับหนังในโทนอบอุ่น มีเอกลักษณ์ และเข้ากับหนังได้เป็นอย่างดีครับ ถือเป็นอีกหนึ่งหนังดีๆจากดิสนี่ย์ในปีนี้ 8.3 คะแนน ครับ

ให้เท่ากับ BFG (ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งหนังดิสนี่ย์ด้วยนี่แฮะ!?) แบบไม่ขอเทียบ ถือว่าถึงจะชอบไม่เหมือนกัน แต่ก็ชอบทั้งคู่ครับ


แบบยาวๆ
หลังๆเนื่องจากเวลาเขียนไม่สม่ำเสมอ... บางทีลงมือเขียนๆไป มันๆไม่ค่อยจะสั้นแล้วนะ...


นึกถึง


พอดีมีโอกาสเคยดู Pete's Dragon ฉบับเก่า (ค.ศ. 1977) ซึ่งก็รู้มาว่ามันอาจไม่ใช่งานที่โด่งดังหรือโดดเด่นของดิสนี่ย์ในความรู้สึกของผู้ชมเท่าไหร่ ซึ่งก็แปลกดีเหมือนกันเพราะตัวเองรู้สึกว่าจริงๆมันเป็นหนังที่ดูสนุกทีเดียว แม้ว่าโทนเรื่องจะต่้างกับเวอชั่นสร้างใหม่นี้มาก หนังจะออกไปในทางหรรษามากกว่าเยอะ ทั้งโทนและเนื้อเรื่อง และเป็นลักษณะเหมือนหนังและอนิเมชั่นหลายๆๆเรื่องของดิสนี่ย์คือเป็นหนังเพลง (ซึ่งดูจะเป็นเพลงนี่เองที่เป็นที่ถูกพูดถึงและบทบาทในเวทีรางวัลมากกว่าตัวหนัง - ซึ่งก็ไม่ฮิตขนาดรู้จักกันดีมาถึงวันนี้เหมือนกัน) แต่หนังก็ยังมีแง่มุมที่มีอารมณ์สร้อยเศร้าเจือปนแม้ไม่มาก และยังมีความทะเยอทะยานด้านเทคนิคที่น่าทึ่ง เมื่อดิสนี่ย์ยืนกรานให้ในเรื่องนี้ ไม่ต้องมีมังกรปรากฎตัวมาจริงๆเลยดีกว่าจะได้ไม่ต้องเสียต้นทุนทำอนิเมชั่น (ซึ่งอาจเป็นเหตุนึงที่มังกรหายตัวได้? หรือไม่ก็กลับกันว่าในเมื่อเขียนไว้ให้หายตัวได้แล้วก็เล่นแบบนั้นไปซะเลย) แต่ทีมงานกลับยืนกรานว่าขอลดโน่นนิดนี่หน่อยก็ได้ แต่เราขอทำเจ้ามังกรเอลเลียตเถอะ ซึ่งการแสดงร่วมกันของตัวละครอนิเมชั่นวาดมือกับตัวละครนักแสดงจริง ก็ปรากฎออกมาเป็นผลงานที่ เนียน และ น่าทึ่ง ทีเดียว จนก็งงๆว่าทำไมมันน่าจะได้รับการพูดถึงมากกว่านี้นะ? เพราะทั้งหนังก็ดูสนุก นักแสดงก็เล่นกันได้ดีในโทนของหนัง เพลงก็เพราะดี แถมเจ้ามังกรเอลเลียตก็ยังน่าประทับใจ (ซึ่งก็ไม่แน่ว่าอาจเพราะมันไปปรากฏตัวในปีเดียวกับ อภิมหาตำนานสงครามอวกาศภาคแรก ซะก็ไม่รู้? ความสนใจเลยถูกเทไปทางนั้นหมด? - นี่เดาไว้เผื่อๆแค่นั้นนะ) ก็เอาเป็นว่า ใครสนใจลองหาชมเวอชั่นเก่าเวอชั่นนี้กันดูนะครับ

จริงๆจากหนังเรื่องนี้ ก็คิดๆว่าอยากจะแยกไปหาเรื่องเขียนเรื่องเฉพาะกิจไว้ซัก 1 ถึง 2 เรื่องทีเดียว!
แต่... เอาเป็นว่า... เดี๋ยวเข็นมาได้จริงๆจะเอามาแปะละกันนะ...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น