วันพฤหัสบดีที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2559

[ภาพยนตร์] HELL OR HIGH WATER ปล้นเดือด ล่าดุ : บัญญัติโจร บัญญัติปลัดปราบปราม* คู่มือธนาคาร


* คำว่า ปลัดฝ่ายปราบปราม เอามาจากการเลือกแปลคำว่า Marshall มาเป็นภาษาไทย โดยคุณ แดนอรัญ แสงทอง ลองอ่านรายละเอียดดูได้ ที่นี่

(ก็อยากยกเอามาซะอย่างนั้น...)


แบบสั้นๆ
แค่น้ำลึกหรือลงไปถึงนรก... (แปลส่งเดชติดมั่วกรุณาอย่านำไปอ้างอิงทางวิชาการ...)
บทจากฝีมือของ เทเลอร์ เชอริแดน ผู้เขียนบท Sicario เล่าเรื่องราวของสองพี่น้องโจรปล้นธนาคาร ที่ปล้นด้วยวาระบางอย่างที่มีทั้งความจำเป็นและความสาสม ซึ่งในอีกด้านผู้ที่ขยับตัวคือ ปลัดฝ่ายปราบปราม* มากประสบการณ์และมีอายุงานยาวนาน การวางแผนของแต่ละฝ่ายจะนำไปสู่อะไร?...

แม้เรื่องราวเริ่มต้นของหนังจะดูไม่ได้แปลกแตกต่างไปมากจากหนังในแนวอาชญากรรม และทำให้นึกไปถึงหนังหลายๆเรื่อง แต่เมื่อเราได้รับรู้เรื่องราวทั้งเบื้องหลังและเรื่องราวที่ดำเนินต่อไป เราก็พบว่า Hell or High Water มีเรื่องราวเฉพาะตัวที่แม้จะถ่ายทอดด้วยท่าทีสุขุมไม่หวือหวา แต่รายละเอียดหลายอย่างอักแน่นไปด้วยเรื่องราว ความขัดแย้ง ความเข้มข้น ความอันตราย รวมไปถึงความอบอุ่น

บรรยากาศของหนังอาจทำให้นึกไปถึงหนังอาชญากรรมบรรยากาศตะวันตกแบบคาวบอย แต่ก็เป็นเรื่องราวในช่วงเวลาปัจจุบันมากกว่าในอดีต 

เรื่องราวของ เทเลอร์ เชอริแดน สอดแทรกประเด็นที่ต้องการบอกเล่าออกมาได้อย่างเข้มข้นแม้จะด้วยท่าทีไม่หวือหวา แต่ก็แนบเนียนและส่งพลังออกมาได้เข้าเป้า เรื่องราวยิบย่อยและประเด็นรวมทั้งความสัมพันธ์ของตัวละครซึ่งจริงๆแล้วมีความหลากหลายจริงถูกผสมรวมกันได้อย่างดี การกำกับของ เดวิด แมคเคนซี่ เองแม้ไม่ได้ผสมสไตล์จัดลงไปขนาดงานกำกับของพี่น้องโคเอน ก็ถ่ายทอดเรื่องราวออกมาอย่างสุขุม ไม่ฟูมฟายแม้เรื่องราวบางเรื่องจะหนัก ขณะเดียวกันก็เข้มข้นและมีจังหวะจะโคน เมื่อเวลาผ่านไปและเรื่องราวเริ่มซับซ้อนขึ้น เรื่องราวทั้งหมดจึงดำเนินไปอย่างทรงพลัง เราจึงทั้งรู้สึกไปกับเรื่องราวของตัวละครที่ต้องมาเกี่ยวพันกัน ทั้งเฝ้ามอง ตำหนิ หวาดกลัวหรือระวังระไวแทนตัวละคร กระทั่งบางครั้งยังสะเทือนใจ เห็นใจ และรู้สึกถึงความองอาจของตัวละครไปพร้อมกัน ทั้งรู้สึกว่าแต่ละคนเองก็มีความเป็นคนธรรมดาไปพร้อมกัน (ส่วนนี้รู้สึกต่างไปจาก Sicario ที่รู้สึกว่าบางตัวละครมีภาพของความเป็น(แม้จะ แอนตี้)ฮีโร่แบบค่อนข้างชัด - แต่จุดประสงค์ของ Sicario ที่วางตัวละครในลักษณะนั้นก็น่าจะต่างออกไปจากเรื่องนี้เหมือนกัน)

หนังยังได้การแสดงที่ดีและเข้มข้นจากนักแสดงในแทบทุกตำแหน่ง ไม่ว่าจาก เบน ฟอสเตอร์ (ที่ก็แสดงใน Warcraft ด้วย) เจฟ บริดเจส (ที่เห็นแล้วก็นึกไปถึง True Grit แต่ตัวละครทั้งสองก็มีเอกลักษณ์ต่างกัน) หรือใครที่เป็นแฟนตาสีฟ้าของ คริส ไพน์ มาจากหนังอย่าง Star Trek และรู้สึกว่าไม่ค่อยได้เห็นหน้าเขาจากเรื่องอื่นบ่อยนักก็น่าลองมาพิสูจน์บทบาทเข้มข้นในเรื่องนี้ของเขาดู     

เรื่องราวสอดแทรกประเด็นหลากหลายเอาไว้มาก แต่ก็รวมกันเป็นเรื่องราวและเนื้อเดียวกันได้อย่างไม่น่าเชื่อทั้งเรื่องราวของ เรื่องราวของถิ่นฐาน การเปลี่ยนแปลง สภาพชีวิตความเป็นอยู่ การเงิน ที่กระทบกับชีวิตและความสัมพันธ์ของคนในแต่ละสถานะ ตำแหน่ง และ หน้าที่ จึงถูกถ่ายทอดออกมาได้อย่างเข้มข้นโดยไม่มีความรู้สึกว่าถูกยัดเยียด  และหนังก็ดำเนินเรื่องโดยเพิ่มความเข้มข้นและความระทึกขึ้นไปเรื่อยๆ กระทั่งซีนช่วงจบก็ยังมีความเข้มข้นของเรื่องราวที่ถูกถ่ายทอดออกมาได้อย่างทรงพลัง 8.6 คะแนน


แบบยาวๆ

มีประเด็นที่น่าพูดถึงยาวกว่านี้หลายประเด็น... 


นึกถึง 
สำหรับคนที่ไปชมหนังมาแล้วคงรู้สึกถึงบรรยากาศกดดันที่ครอบคลุมหนัง สภาพแวดล้อม และผู้คน ของเมืองที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ ได้ ซึ่งส่วนนึงก็คงเป็นความตั้งใจของผู้เขียนบทเองที่จะถ่ายทอดเรื่องราวและบรรยากาศเหล่านี้ออกมา
ไปอ่านเรื่องราวเหล่านี้เอาทีหลังจากดูหนังจึงคัดเนื้อหามาลงไว้ ซึ่งจากที่ดูมาแล้วก็ทำให้ได้รับสัมผัสกับสภาพที่ผู้กำกับต้องการถ่ายทอดชัดยิ่งขึ้น หรือสำหรับคนที่ยังไม่ได้ดูก็อาจได้รับรู้ถึงบรรยากาศที่ต้องการถ่ายทอดได้ผู้ชมได้สัมผัสในเรื่องด้วย

"มันเป็นยุคแห่งความรุ่งเรืองสำหรับเท็กซัส ณ ตอนนี้ ขณะที่ราคาน้ำมันสูงขึ้น แต่ผู้คนยังต้องเผชิญกับภาวะแห้งแล้ง และการปศุสัตว์ก็ถูกทำลาย หลังจากกลับมามีฝนตกแต่ราคาน้ำมันก็ตกต่ำ ทำให้คนหนุ่มสาวพากันทิ้งถิ่นฐานเพราะงานหายาก ค่าแรงไม่คุ้ม มีคนมากมายที่ยังอาศัยอยู่ที่นั่นเพื่อสืบทอดมรดก" 

เทเลอร์ เชอริแดน 

จากบทความ  HELL OR HIGH WATER คอลัมน์ หลังฉาก โดย อินดี้เจี๊ยบ
เอนเตอร์เทน ปักษ์หลัง สิงหาคม 2016 (หน้าปก Mechanic : Resurrection)  








นอกจากนั้นก็นึกถึงหนัง 3 เรื่อง จริงๆเรื่องราวอาชญากรรมหรือ โจร การไลล่า ทำนองนี้ก็มีอยู่เยอะ แต่ที่นึกถึงได้เร็วๆปุบปับเลยก็เป็น 3 เรื่องนี้ครับ เป็นหนังของพี่น้องโคเอนซะ 2 เรื่อง ซึ่งก็มีทั้งบรรยากาศร่วมที่เหมือนและต่างกับเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน เนื่องจากเป็นเรื่องของ อาชญากรรม การตามล่า และบรรยากาศคาวบอยตะวันตก แม้จะต่างยุคสมัยกันออกไป และสไตล์ของพี่น้องโคเอนอาจจะจัดกว่า แต่ทั้งหมดเป็นเรื่องไม่น่าพลาด ลองไปหามาดูกันครับ หรือใครที่เคยดูและเป็นแฟนของ 2 เรื่องที่ว่ามาแล้วลองมาดู Hell or High Water ก็น่าสนใจ แม้สไตล์ไม่จัดเท่า แต่เรื่องความเข้มข้นนั้นไม่แพ้กันเลย แะลประเด็นในเรื่องก็ถูกถ่ายทอดได้อย่างยอดเยี่ยมและน่าสนใจ

2 เรื่องของพี่น้องโคเอน คือ

No Country for Old Men หนังคว้าออสการ์ของพี่น้องโคเอน ที่มีเรื่องราวบางอย่างเป็นคู่เปรียบที่น่าสนใจกับ Hell or High Water แม้ประเด็นที่ถูกเน้นย้ำจะต่างกันไปก็ตาม








True Grit เรื่องราวการตามล่าตามล้างในยุคคาวบอย แจ้งเกิดน้องหนู เฮลี่ย์ สไตเฟลล์ อย่างสวยงาม แถมนักแสดงแต่ละคนก็เล่นกันดีมาก นอกจากจะได้เปรียบเทียบตัวละครของ เจฟ บริดเจส แล้วยังมีการแสดงชั้นดีจาก แมท เดมอน กับ จอช โบรลิน อีก








อีกเรื่องที่อยากแนะนำไว้ เป็นงานทิ้งท้ายสั่งลา...ของระดับตำนานอย่างผู้กำกับ ซิดนี่ ลูเม็ต ครับ

จริงๆตอนดูหนังไปต้นๆนึกถึงเรื่องนี้ก่อนเลย Before the Devil Knows You’re Dead ซึ่ง ซิดนี่ ลูเม็ต เองก็ขึ้นชื่อในเรื่องราวที่เข้มข้นอยู่แล้ว แถมเรื่องนี้ยังน่าจะ'ดาร์ค'มากกว่าเรื่องไหนๆในลิสต์นี้ด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น