วันอาทิตย์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2559

[ภาพยนตร์] A HOLOGRAM FOR THE KING ผู้ชายหัวใจไม่หยุดฝัน : ไปแก้ปมชีวิต ณ ตะวันออกกลาง...


แบบสั้นๆ
หนังทีกำกับโดย ทอม ทีกเวอร์ และนำแสดงโดย ทอม แฮงค์ ที่สร้างจากนิยายชื่อเดียวกัน

ทอม ทีกเวอร์ สร้างชื่อมาจาก Run Lola Run หนังเฟี้ยวฟ้าวเอาการที่หลายคนชอบหลายคนก็ไม่ชอบ โครงหลักของเรื่องอาจไม่มีอะไร แต่แนวทางการเล่าของมัน (ซึ่งบางคนบอกทำให้หนังเหมือนวิดีโอเกม - วัฒนธรรมป๊อบ) ก็เป็นสิ่งที่ทำให้หนังสนุกดี พอดีว่าผมก็อยู่ฝ่ายชอบ

หลังจากนั้น ทอม ทีกเวอร์ ก็กำกับหนังอีกหลายเรื่อง ซึ่งหลายเรื่องก็โอเค บางเรื่องก็สนุกดี แต่ผมก็ไม่ได้ชอบเท่า Run Lola Run เพราะยังคิดว่าเรื่องนั้นสนุกกว่า เช่น Perfume นี่ก็ค่อนไปทางเฉยๆ ชอบฉบับนิยายต้นฉบับมากกว่า แต่บางเรื่องก็ยังไม่ได้ดู เช่น Heaven แต่ก็เพิ่งรู้ว่า ทอม ทีกเวอร์ เป็นหนึ่งในผู้กำกับ Cloud Atlas ด้วย ทีแรกนึกว่าผู้กำกับมีแค่ พี่น้อง วาชอว์สกี้ ซะอีก ซึ่งจริงๆเรื่องนี้ก็ชอบเหมือนกันนะ สนุกดี แถม'เยอะ'ดี

ทีแรกกับเรื่องนี้รู้สึกเฉยๆว่าชื่อมันประหลาดๆ แต่เห็น ทอม แฮงค์ แสดง สร้างจากนิยายชื่อเดียวกัน (รู้สึกมีแปลไทยออกมาแล้ว) มี ทอม ทีกเวอร์ กำกับ ก็ไปดูซะหน่อย

หนังออกแนว dramedy (อีกแล้วแฮะ) ซึ่งเปิดเรื่องมาด้วยเทคนิคการเล่าเรื่องที่มีลูกเล่นพอควร ทั้งที่จริงๆเรื่องที่เล่ามันก็หนักนี่หว่า และ ทอม แฮงค์ ก็ยังน่าเครียดพอควร แต่มันก็เซตอารมณ์หนังช่วงเริ่มนี้ได้สนุกพอควร หลังจากนั้นหนังก็เล่าเรื่องของพนักงานขายจำเป็นที่ต้องไปปฏิบัติภารกิจในตะวันออกกลาง เพื่อขายเทคโนโลยีให้ราชาแห่งประเทศตะวันออกกลางให้ได้ ทั้งที่ชีวิตเขาก็ปั่นป่วนอยู่แล้ว... ยังไปเจอสถานการณ์ไม่คาดคิดพร้อมแท็กซี่ท้องถิ่นสุดกวนที่ไม่รู้ตั้งใจจะกวนจริงไม่จริงซะอีก...

เรื่องราวในช่วงต้นของหนังสนุกดีทีเดียว แม้ว่าพอดูไปซักพักพอรู้เรื่องของหนังพอควรแล้วเราก็รู้สึกว่าเรื่องธรรมดากว่าที่คิด เรื่องราวของหนังที่พาเอาพระเอกของเราล้มลุดคลุกคลานออกมาจากชีวิตที่เคยรู้จัก มาเผชิญกับปัญหาในประเทศห่างไกล ต่างวัฒนธรรมจนบางครั้งก็ยากจะเข้าใจ และปัญหาทั้งส่วนตัวส่วนงานที่ไม่รู้จะจัดการยังไง ได้มองชีวิตต่างไปจากมุมเดิม และพยายามมองหาว่าชีวิตตอนนี้จะยังไง ต่อจากนี้จะยังไง แม้จะธรรมดากว่าที่คิด แต่เรื่องก็มีเหตุการณ์และลูกเล่นสนุกๆให้เรื่องราวของหนังน่าสนใจ หนังมีเหตุการณ์และช่วงที่สนุกและน่าสนใจอยู่เป็นระยะๆ ซึ่งก็ทำให้เราติดตามเพื่ออยากรู้เรื่องราวต่อไปได้ดีทีเดียว

มีสองสามอย่างที่ทำให้หนังไม่ได้กลายเป็นหนังเล็กๆรสชาติแปลกๆที่น่าจะชอบได้มากกว่านี้ในท้ายที่สุด แม้จะเริ่มได้สนุก และมีสีสัน หนังมีพลังน่าติดตามไปในช่วงครึ่งแรกค่อนข้างดีทีเดียว แต่เมื่อผ่านวิกฤติของตัวเอกในช่วงนึงไป และมุ่งเข้าสู่บทสรุปของหนัง รู้สึกว่าเหตุการณ์ที่ปูมาเพื่อเข้าสู่เหตุการณ์และการตัดสินใจสำคัญ มันไม่พอให้เราเชื่อ การพยายมเน้นย้ำในส่วนนี้ของหนังจึงเป็นเหมือนเหตุการณ์ที่เหตุและพยายามจะให้น่าประทับใจ แต่เราก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ ซึ่งก็น่าเสียดายที่หนังลดระดับความน่าสนุกของหนังลง ตัวละครบางตัวก็เหมือนถูกใช้เพื่อ'งาน'เฉพาะแล้วก็หายไปเลย และหนังก็ไม่มีรายละเอียดมาหล่อเลี้ยงให้คนดู 'เชื่อ' ในส่วนสำคัญในช่วงท้ายของหนังได้ แม้นักแสดงจะพยายามแสดงให้มีความเป็นธรรมชาติ และใส่บุคลิกความสนุกไปตามบทแล้วก็ตาม กับอีกเรื่องที่ออกจะเหมือนส่วนตัวหน่อย และเป็นกรณีคล้ายๆ Demolition เลย คือ อืม...เอาน่ะ ผมเข้าใจว่าเฮียมีปัญหาชีวิต เรื่องก็หนักหนา แต่เอาจริงๆ ตอนเฮียเดินเข้าเต๊นท์ไป... ผมดันเห็นใจทีมติดตั้งมากกว่าว่ะ... ซะงั้น... (นี่ตรูไม่ใช่กลุ่มลูกค้าอีกแล้วเรอะ?! - มันก็ต้องเห็นใจทีมปฏิบัติการหัวอกเดียวกันมากกว่าป่าวหว่า? - ไม่แยกแยะเลย แย่จริง...)

หนังอาจมีช่วงเนือยบ้าง และไม่ได้เป็นหนังตั้งใจตื่นเต้นตกใจมาก หนังก็พยายามให้ข้อคิดน่าสนใจ และมีเรื่องราวที่สนุกดี ประเด็นด้านวัฒนธรรมที่ถูกใช้แม้จะมีรูปรอยแปลกน่าสนใจดี แต่แก่นของมันก็ไม่ไดู้แปลกมากและบางเรื่องของมันก็มีเรื่องราวรองรับน้อยไปซะหน่อย ยังเป็นอีกเรื่องที่เรื่องราวของประเทศมหาอำนาจใหม่ที่ส่งอิทธิพลด้านการผลิตทั่วโลกอย่างสำคัญเสริมเข้ามา และเป็นเรื่องราวที่ดูจริงอย่างประหลาด (ซึ่งจริงๆอันนี้มันก็จริงน่ะแหละ) ทำให้เรื่องของที่เป็นของอเมริกาย้ายไปเป็นของที่อื่นเอาง่ายๆ ซึ่งเรื่องราวนี้ก็ทำให้ประเด็นของมันใส่เข้ามาในเรื่องได้อย่างดูสมจริงและน่าสนใจไปด้วยอย่างช่วยไม่ได้

เอาเป็นว่า... หนังก็เป็นหนังติดจะฟีลกู๊ดชื่อแปลก ที่ก็มีเรื่องราวและการเล่าที่มีกลิ่นแปลกแตกต่างให้ได้สัมผัส แม้จะสลักความรู้สึกลงในใจผู้ชมอย่างผมไม่ได้ แต่หนังก็ถือเป็นหนังดูสนุกใช้ได้ ชอบหนังฟีลกู๊ด ไม่หนักมาก พอมีข้อคิดติดใจ แบบมีองค์ประกอบแปลกๆหน่อย (แบบไม่ได้จะแปลกมากๆ) ก็หาดูได้ครับ คุณอาจจะชอบเรื่องนี้ก็ได้นะ 7.6 คะแนน ที่ได้เยอะกว่าหน่อยนึงเพราะแค่รู้สึกว่ามันไม่ดู 'เกินไป๊' เหมือน Demolition คืออันนี้ไม่เกิน แต่มันก็ดันขาดอะไรบางอย่างไปมากกว่าแฮะ...


ทำไม... คะแนนเท่าเรื่องที่แล้วเลยหว่า??... แถม... เป็นหนังท่ามกลางทะเลทรายอีกต่างหาก??!!!...
ตั้งใจป่ะเนี่ย?!

จะอะไรก็ช่างมันเฮอะ... จบนะ.


แบบยาวๆ

เรื่องประเทศทรงอิทธิพลนี่ก็น่าเขียนถึงนะ...


นึกถึง


ขอนึกไว้ก่อนซักอย่าง
ความจริงดูไม่ได้เกี่ยวอะไรกันเลย แต่การเป็นหนังใช้ 'เทคนิค' ช่วงต้นของหนังมาเล่าเรื่องราวในเชิงดราม่าที่ทำให้มันสวมไปกับเรื่องราวและน่าสนุกดี เรื่องที่นึกถึงกลับไม่ใช่หนังฮอลลีวู้ด แต่เป็น Goal Club เกมล้มโต๊ะ หนังเล่าเรื่องราววัยรุ่นและ'โต๊ะ'บอล ของผู้กำกับ กิตติกร เลียวศิริกุล ที่แจ้งเกิดดาราหนุ่มๆยุคนั้นมากมาย แถมมี โบว์ TK แสดงด้วย (แสดงดีด้วย) ซึ่งทั้งดารา การกำกับ การเล่าเรื่อง เทคนิคเล็กๆน้อยๆที่ใช้ แม้ไม่ได้หวือหวาอะไร แต่ทั้งหมดทำได้กลมกล่อม 'สนุก' และ 'สะเทือน' มาก เป็นหนังไทยที่ชอบมากๆเรื่องนึงตั้งแต่ตอนนั้นจนตอนนี้

จนน่าเสียดายที่รู้สึกว่าหนังเรื่องนี้น่าจะถูกรู้จักมากกว่านี้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น