วันพุธที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

[ภาพยนตร์] X-MEN - APOCALYPSE เอ็กซ์เม็น อะพอคคาลิปส์ : บรรจบครบวงจักรวาลเอ็กซ์เมน!



แบบสั้นๆ
มาถึงภาคที่ 6 กันแล้ว
จะว่าไป ข้อด้อยข้อใหญ่ของ X-MEN ภาคนี้สำหรับผมแล้วก็ดูจะมีแค่ว่า มันมาตามหลังหนัง X-MEN ภาคที่มีเนื้อเรื่องน่าตื่นเต้นและแกรนด์ที่สุด ขนาดเนื้อเรื่องพยายามล้างไพ่จักรวาลพยายามวกเนื้อเรื่องมาให้ชนกันได้อย่างน่าตื่นเต้น โดยมีตัวละครระดับไอคอนกันครับ แถมยังเอาตัวละครและนักแสดงแกรนด์ๆระดับตำนานทั้ง 2 รุ่นมาร่วมภาคกันได้หน้าตาเฉย มันจึงเป็น X-MEN ภาคที่สนุกมากๆและแกรนด์มากๆ

สิ่งที่ทิ้งท้ายไว้ในภาคก่อนจึงเป็นชนวนต้นเรื่องมายังภาคนี้ เปิดตัว APOCALYPSE หนึ่งในวายร้ายตัวฉกาจแห่งจักรวาล X-MEN และจักรวาลมาเวล ความจริงรายละเอียดและเนื้อเรื่องของภาคนี้ถือว่ามีรายละเอียดที่ดี แม้ว่าจะมีเนื้อเรื่องของหลายตัวละครที่ต้องมาแชร์ความสำคัญกันเยอะเอาการ ต่างกับภาคก่อนที่ไม่ได้เกี่ยวกับแบ็คกราวด์ส่วนตัวของแต่ละตัวละครเท่าไหร่ แต่คิดว่าหนังก็ทำได้ดี และให้น้ำหนักกับเรื่องราวของแต่ละครได้พอควรเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น แม็กนีโต โปรเฟสเซอร์เอ็กซ์ มีสทีค ไซคลอปส์  จีน และอื่นๆ (นี่ยังไม่หมดเลยนะ) ตรงนี้จึงเป็นจุดที่อยากให้คะแนนมากกว่าครับ (แถมยังมีตัวละครไอคอนหาทางมาปรากฏตัวในหนังได้ด้วย) จุดที่ดูด้อยอาจจะมีเพียงแค่ แกนหลักของภาคนี้ในเมื่อเป็นการปรากฏตัวของวายร้ายอย่าง APOCALYPSE การดำเนินเรื่องตามแกนหลัก แบบร่วมกันปราบตัวร้ายนี้นี้จึงดูด้อยไปถนัดตายิ่งถ้าเทียบกับหนังฮีโร่ประเด็นหนักๆที่เล่นเรื่องระหว่างเหล่าฮีโร่อย่าง BvS หรือจะ CIVIL WAR (รึจะไปเจอกับโครงธรรมดาแต่เหนือกว่าด้วยพลังเกรียนอย่าง DEAD POOL - ซึ่งก็มาจากจักรวาลเดียวกันกับ X-MEN แหละ) ซึ่งถือเป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่ระดับ 'แกรนด์' ที่มาฉายปีนี้ชนกันหมด แม้กระทั่งจะไปเทียบกับ X-MEN ภาคก่อนเอง ซึ่งมีเนื้อเรื่องที่ซับซ้อนทั้งน่าตื่นเต้น และแกรนด์กว่ามากอย่างที่บอก

แต่คิดว่าในเรื่องนี้ ไบรอัน ซิงเกอร์ ที่กำกับหนังในแฟรนไชส์ X-MEN (ที่เป็นภาคต่อตรงๆ) 4 จาก 6 ภาคนี้ ก็ไม่ได้ทำอะไรพลาดนะครับ ยังคิดว่า ซิงเกอร์ ทำได้ดีด้วยซ้ำในการเล่าเรื่องหลากหลายตัวละครหลากหลายแบ็คกราวด์ได้ขนาดนี้ แม้อาจมีบางตัวละครที่พร่องไปบ้างก็ตาม แต่ส่วนใหญ่โดยเฉพาะตัวสำคัญๆก็ทำได้ดี และยังรู้สึกชอบการเริ่มเรื่องเพื่อนำไปสู่เรื่องของ APOCALYPSE ที่พูดถึง 'พลัง' และ 'อำนาจ' ด้วย แม้ว่ามันจะไม่ได้ถูกพูดถึงอย่างพิสดารอะไร แต่คิดว่ามันก็เข้ากับเนื้อเรื่องและตัว APOCALYPSE ได้ดี แม้ว่าอาจมีเรื่องราว ตรรกะ รึเหตุผล บางอย่างที่คิดว่า 'แฟนๆ' ที่ได้ดูเรื่องราวจากภาคอื่นๆ(คือหลายภาคนะ - แม้ว่าบางภาคอาจจะไม่จำเป็นต้องดูก็รู้เรื่องได้)มาก่อนน่าจะ 'รับ' และ 'เข้าใจ' ได้ง่ายกว่าคนที่จู่ๆก็มาดูภาคนี้เลย นักแสดงเองก็เล่นได้ดี (ทั้งที่เป็นบทสำคัญระดับต้นๆและระดับรองๆลงมา) แม้จะยอมรับว่าฉากแอ็คชั่นอาจจะไม่ดู 'ใหญ่โต' อย่าง BvS (ที่ได้วันเดอร์วูเมนช่วยไว้ด้วยนะเออ) รึทำได้ดีมากๆอย่าง CIVIL WAR แต่ก็ยังถือว่าอยู่ในมาตรฐาน แถมยังมีรายละเอียดเล็กๆน้อยๆวางไว้เยอะแยะให้แควนๆที่ตามดูมาทุกภาคได้ไปเชื่อมโยงกับ X-MEN ภาคที่ผ่านๆมาได้อีก ความพยายามของซิงเกอร์ที่พยายามจะเล่าเรื่องราวในจักรวาล X-MEN ที่เขาเริ่มไว้ (และถือเป็นหนึ่งต้นแบบหนังซูเปอร์ฮีโร่ที่ประสบความสำเร็จในยุคนั้น) ให้มาบรรจบครบวงโดยเล่าเรื่องราวของแต่ละตัวละครให้มาบรรจบกัน(แม้จะไปทำเอาตัวละครใน First Class เหี้ยนไปซะอื้อก็ตาม...)ได้อย่างน่าพอใจทีเดียว ยังสนุกนะครับ 8.2 คะแนน

ใครที่ติดตามมาตลอด ถึงตอนนี้ บรรจบครบ 6 ภาค ก็สามารถวนไปเอาภาค 1 มาดูต่อได้เลย แม้ว่า...ในบางรายละเอียดมันจะเป็นจักรวาลคู่ขนานมากกว่าจะเป็นเรื่องราวเดียวกันแบบเป๊ะทุกกระเบียดก็ตาม ผมว่า ซิงเกอร์ จบได้สวยไม่เลวเลยครับ แม้อาจจะเสียดายอยู่บ้างว่ามันไม่ใช่ X-MEN ภาคที่เยี่ยมเท่า DAYS OF FUTURE PAST ก็ตาม แต่ก็ถือเป็นบทสรุปบรรจบครบวงที่น่าพอใจ



แบบยาวๆ 
ว่าไป...นี่ก็ยาวใช้ได้แล้วอยู่นะ...


นึกถึง

แม้ว่าเอาเข้าจริง APOCALYPSE ในภาคนี้ซึ่งเป็นตัวมหาวายร้ายตัวนึงในจักรวาล X-MEN และมาเวลอย่างที่บอก เนื่องจากต้องแชร์เรื่องราวกับตัวละครอื่นๆ (อีกประมาณโหลนึง!) จึงอาจไม่ได้สำแดงความร้ายกาจเต็มๆตาได้เต็มหน่วยนัก แต่ก็ถือว่าใช้ได้ ถ้าต้องนึกถึง APOCALYPSE คนที่ก็ไม่ใช่แควนๆคอมมิคอย่างผม นึกไปถึงในเกม X-MEN vs STREET FIGHTER ของค่าย CAPCOM (ที่ทำเอาเกม FIGHTING ฮิตไปทั่วสากลเริ่มด้วย STREET FIGHTER II) ที่ฮิตในอาเขตตามห้างบ้านเรา (ในเมืองกรุง กทม.) เอาเรื่อง (แหละมัง) เป็นเรื่องน่าตื่นเต้นในยุคนั้นที่ได้เห็นบอสตัวบะเฮิ่มขนาดนี้ในเกม FIGHTING ด้วยนะ! มันส์!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น