วันพฤหัสบดีที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

[ภาพยนตร์] TRUMBO ทรัมโบ เขียนฮอลลีวู้ดฉาว : เหมือนชีวิตนักเขียนบทจะกล่าว(ตะโกนใส่หน้าเรา)ว่า "จะหยุดยืนแห้งตายอยู่ตรงนี้หรือ?" อย่าเชียวนะ


ชีวิตของ ดาลตัน ทรัมโบ เป็นชีวิตที่มีสีสัน และเมื่อมาปรากฏบนจอหนังมันก็ดูเต็มไปด้วยพลังขับเคลื่อนและแรงบันดาลใจ

ความมีสีสันในสายตาผู้ชมไม่ใช่สิ่งที่แลกมาโดยง่าย ดาลตัน ทรัมโบ เป็นมือเขียนบทระดับมือทองของฮอลลีวู้ด เขามีพรสวรรค์ มีชื่อเสียง มีเงินทอง มีครอบครัวที่น่ารัก ขณะเดียวกันเขาก็มีอุดมการณ์ส่วนตัว ที่พ้องไปกับอุดมการณ์ส่วนตัวของคนจำนวนหนึ่ง แม้ว่าสิ่งที่เขาและพวกเขาทำจะไม่ใช่การพยายามขับเคลื่อนอะไรใหญ่โตหรือล้มล้างอะไร เพียงแค่พยายามผลักดันอุดมการณ์ของตัวเอง แต่มันอาจไม่พ้องกับอุดมการณ์ของคนจำนวนมากกว่า ฮอลลีวู้ดส่วนใหญ่ หรือกระทั่งความเห็นของรัฐบาล

และในยุคมืดของฮอลลีวู้ด เขาจึงถูกขึ้นบัญชีดำ

โดยรวมหนังเรื่อง TRUMBO อาจดูเป็นหนังดราม่าชีวประวัติฟอร์มมาตรฐาน แต่หนังก็เต็มไปด้วยพลังขับเคลื่อนจากทั้งการเล่าเรื่องที่ไม่อ้อยอิ่งและการแสดงที่กระตือรือร้น ดาราหลายคนที่ขึ้นจอในที่นี้มาพร้อมการแสดงที่หนักแน่นแม้อาจไม่หนักหน่วง แต่ดาราหลายคนก็ใช้เวลาบนจอของตัวเองได้แบบไม่มีเสียยี่ห้อ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งดารานำในบทบาท ดาลตัน ทรัมโบ ของ ไบรอัน เครนสตัน ซึ่งมีชื่อเสียงมาก่อนหน้านี้จากการแสดงในซีรี่ส์ BREAKING BAD นั้นเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น ลื่นไหล และพลังขับเคลื่อน จนปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเขาเป็นพลังสำคัญของหนัง และสมควรแล้วกับการได้เข้าชิงดารานำชายในเวทีออสการ์ ใครที่ชอบหนังชีวประวัติ หรือสนใจวงการหนังฮอลลีวู้ด หรือใครชอบหนังที่สร้างแรงบันดาลใจ น่าจะหาหนังเรื่องนี้มาดูซักครั้ง คิดว่าคุณคงไม่ผิดหวัง


เราจะได้เห็นประวัติศาสตร์ส่วนหนึ่งในยุคสำคัญของฮอลลีวู้ดที่เป็นยุคทองพอๆกับยุคมืด ที่อุดมการณ์ปะทะกัน และฝ่ายที่ปะทะกันก็พยายามอิงแอบอยู่กับอำนาจที่ใหญ่กว่าตัว กระทั่งเมื่อรู้สึกถึงอำนาจ การกระทำบางอย่างอาจจะเลยไปอยู่ในขอบเขตที่ไม่เคยมี กระทั่งวงการใหญ่ทั้งในด้านอิทธิพลต่อวัฒนธรรมและอุตสาหกรรมอย่างฮอลลีวู้ดก็ยังกลายเป็นพื้นที่ของการช่วงชิงอำนาจภายใต้ธงของอุดมการณ์ และกระทั่งคนที่อาจไม่ได้รับใช้อุดมการณ์ก็ยังต้องทำเป็นมองไม่เห็นหรือกระทั่งต้องเลือกข้าง ความกดดันเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องธรรมดา และแม้อาจมองว่าเราจะยอมสละสถานะเพื่ออุดมการณ์หรือจะรักษาอุดมการณ์ไว้เป็นสิ่งแรก คำตอบเหล่านี้ก็ไม่ใช่จะตอบได้ง่ายๆ กระทั่งว่าอุดมการณ์เหล่านี้มีที่ทางของมันจริงๆได้แค่ไหน? ยังไง? ก็ตาม

ถึงตรงนี้เมื่อมองผ่านชีวิตของ ทรัมโบ เราจึงได้เห็นบทบาทของคนชายขอบที่อาจไม่ใช่คนสำคัญกลางแสงไฟของฮอลลีวู้ดกลายมาเป็นตัวแปรสำคัญในเรื่องราวเหล่านี้ แม้อาจจะดูเป็นการได้ประโยชน์ร่วมกันหรืออะไรก็ตามในทางหนึ่ง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า 'ความไม่เป็นพวกใคร' และไม่คิดว่าตัวเองต้องโอนอ่อนไปตามใคร กลับสร้างที่ยืนและทางเลือกให้คนจำนวนหนึ่งได้เหมือนกัน

เรื่องราวเหล่านี้ส่วนหนึ่งก็เป็นส่วนที่สร้างความน่าประทับใจให้หนัง และในทางหนึ่งบทบาทและเรื่องราวเหล่านี้อาจสร้างผู้ร้ายและฝ่ายดี (หรือกระทั่งดาร์คฮีโร่ อะไรแบบนั้น) ขึ้นมาให้ดูชัดเจน ซึ่งในเมื่อไม่รู้ความจริงทั้งหมด จึงยากจะบอกว่ามีเรื่องราวใดที่ถูกเสริมเติมแต่งหรือไม่แค่ไหน กระทั่งเรื่องราวชีวิตของทรัมโบเอง การต้องเลือก และการต้องพยายามที่จะรักษาทุกสิ่งไว้นั้น แม้จะนำมาซึ่งความกดดัน พลังใจ และความประทับใจมากมาย ก็ตาม

แต่อย่างไรก็ตาม เราก็เชื่อว่าชีวิตของทรัมโบไม่ได้ผ่านช่วงเวลาเหล่านั้นมาได้โดยง่ายจริงๆ ทั้งแม้จะมีช่วงเวลาดีๆกับครอบครัว ที่ทุกคนได้ฝ่าฟันร่วมกัน แต่เมื่อถึงจุดหนึ่งการต้องเลือกว่าจะให้น้ำหนักกับสิ่งไหน เพื่อจะรักษาอะไรไว้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายอีกต่อไปที่จะคานน้ำหนักระหว่างสิ่งเหล่านี้ไว้ได้ในระดับระนาบเสมอ ซึ่งนั่นอาจเป็นวิกฤติสำหรับใครก็ตามได้เสมอ และอะไรมากมายที่ถาโถมก็สะท้อนออกมากับคนที่ใกล้ตัวที่สุดและการสูบบุหรี่จัดมากขึ้น แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่าเป็นครอบครัวนี่เองที่เป็นสิ่งหนึ่งที่ช่วยค้ำจุนชีวิตของทรัมโบเอาไว้ตลอดการเดินทางในยุคมืดนี้ และจะด้วยท่าทีของการมองโลกในแง่ดี มีความหวังอยู่เสมอ และกระตือรือร้น สิ่งหนึ่งที่เราเห็นได้ในตัวทรัมโบก็คือ การไม่ยอมแพ้ ไม่ยอมหยุดคิดมุ่งไปข้างหน้าแม้จะได้ทีละน้อยนิดก็ตาม และแม้ในทางหนึ่งเขายังยอมรับว่าแม้จะสมาทานอุดมการณ์ที่ยึดถือ เขาก็ยังเป็นชนชั้นผู้มีอันจะกิน แม้ชีวิตในด้านอุดมการณ์ของทรัมโบอาจไม่สามารถมอบคำตอบต่ออุดมการณ์ที่สมบูรณ์แบบได้ แต่เรื่องเหล่านี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายในตัวของมันเองอยู่แล้ว และในทางหนึ่งแทนที่หนังจะนำเสนอการฝ่าฟันซึ่งอุดมการณ์ มันกลับดูเหมือนว่าทรัมโบขอเพียงสถานะที่จะยืนยันความเชื่อของตนไว้โดยไม่ได้เรียกร้องอะไรมากกว่านี้เพียงเท่านั้น ขณะเดียวกันเขายังมีน้ำใจมากมายกับคนรอบข้าง ทั้งพยายามทำความเข้าใจ นอกจากนี้เขายังยอมรับว่าเขาเองทำได้เพียงสิ่งที่เขาทำได้ดี นั่นคือ การเขียน แม้เขาจะมีพรสวรรค์ มันก็ใช่จะได้มาโดยง่าย บางครั้งมันก็แทบจะกลืนกินชีวิตของเขาไป แต่ก็เป็นสิ่งที่เขายึดมั่นและเชื่อว่าตนจะทำได้และจะทำได้ดี แม้ในห้วงยามที่งานเขียนของเขาอาจดูไม่ใช่สิ่งมีค่าก็ตาม นั่นเป็นความมุ่งมั่นที่น่าทึ่ง เหมือนบางครั้งทรัมโบ (หรือไม่ก็หนัง) พยายามจะตะโกนบอกคนที่หมดพลังใจว่า "จะหยุดยืนแห้งตายอยู่ตรงนี้หรือ?"

ความมุ่งมั่นของทรัมโบนั้นบางครั้งก็ดูน่าเหลือเชื่อ จนคงทำให้ใครที่เหลาะแหละกับอะไรหลายอย่างรอบตัวได้ต้องอายกันเลยทีเดียว ขณะเดียวกันมันก็มอบแรงบันดาลใจจากความมุ่งมั่นของทรัมโบได้มากมาย และด้วยภาษาภาพยนตร์ที่กระตุ้นเร้าผู้ชม แม้จะมอบความน่าพึงพอใจในการชมภาพยนตร์ให้ เรายังอาจตั้งคำถามกับรายละเอียดต่างๆในภาพยนตร์ได้ในหลายจุด อย่างไรก็ตามเรื่องราวหลักๆในชีวิตของทรัมโบที่ถ่ายทอดผ่านสายตาผู้ชมก็เป็นเรื่องจริง ทำให้เราคงปฏิเสธได้ยากว่าทรัมโบนั้นเป็น 'ของจริง' และ 'คนจริง' ในทางของเขา จนเมื่อเราเห็นเขาได้รับสิ่งที่สมควรได้รับแม้จะในหนัง เราจึงอดตื้นตันไปกับเขาด้วยไม่ได้ แม้ว่านี่จะเป็นภาพที่ถูกสรา้งขึ้นก็ตาม

ชีวิตของ ดาลตัน ทรัมโบ เป็นชีวิตที่น่าทึ่ง และหนังเรื่อง TRUMBO ก็ถ่ายทอดมันออกมาด้วยความกระตือรือร้น นักแสดงทุกคนให้การแสดงที่ดีและมีพลังในบทบาทของตัว ไม่ว่าจะในบทบาทใด ทั้งคนสำคัญรอบๆตัวของทรัมโบและครอบครัว รวมไปถึงบทบาทอื่นๆด้วย ใครชอบดาราคนไหนในโปสเตอร์เรื่องนี้ก็คิดว่าคงไม่ผิดหวังกับบทที่แต่ละคนได้รับครับ และ ไบรอัน เครนสตัน ในบท ทรัมโบ ก็ให้การแสดงที่เต็มไปด้วยความลื่นไหลและพลังขับเคลื่อน คู่ควรกับการเข้าชิงออสการ์จริงๆ โดยเฉพาะมันเป็นหนังที่สร้างแรงบันดาลใจสำหรับการที่จะลุกขึ้นมาทำอะไรบางอย่างและไม่ยอมแพ้ง่ายๆ โดยไม่เกี่ยวกับการต้องรักษาหรือผลักดันอุดมการณ์ ขอเพียงได้ยืนยันความเชื่อของตัว ทำสิ่งที่ตนทำได้ และรักษาสิ่งที่มีไว้เท่านั้น ซึ่ง นั่นก็ยังคงเป็นสิ่งที่น่าทึ่งอย่างมากมายอยู่ดี 8.5 คะแนน 



นึกถึง

เชื่อว่าหลายคนจะหลงรัก ทรัมโบ จากบทบาทที่แสดงไว้โดย ไบรอัน เครนสตัน ในที่นี้ และทำให้ผมเองสนใจจะไปหาซีรี่ส์ BREAKING BAD ซึ่งได้ยินคำล่ำลือมานานแล้วว่ามีการแสดงที่เป็นบทสร้างชื่อของเขามาดูเลยทีเดียว แม้จะได้ยินชื่อเสียงมาหลายเพลาแล้ว ก็ยังไม่ได้หามาดูเสียที

แต่บทบาทของเขาอาจเป็นคนละแบบกับใน TRUMBO ก็ได้นะ แต่ยังไงก็คงปฏิเสธฝีมือการแสดงของเขาไม่ได้

จริงๆชีวิตของทรัมโบก็อาจทำให้นึกไปถึงหนังเรื่องอื่นๆเช่น JOY อยู่เหมือนกัน (ก็บอกแล้วว่าฮอลลีวู้ดมีหนังชีวประวัติเยอะ) และก็ถ้าดู TRUMBO มาแล้วจริงๆ ก็ย้อนไปดูหนังที่พยายามนำฮอลลีวู้คยุคใกล้ๆนั้นในมานำเสนออย่าง HAIL, CAESAR! (และอื่นๆบางเรื่องในพ่วงท้าย) ก็ได้ โดยเฉพาะสำหรับแฟนๆฮอลลีวู้ดยุคเก่า (แม้หนังน่าจะคนละอารมณ์กันเลยก็ตาม)

ส่วนถ้าในฐานะหนังสร้างแรงบันดาลใจ จริงๆคนที่ชอบหนังอย่าง THE SECRET LIFE OF WALTER MITTY ก็น่าจะดู TRUMBO ได้สนุกเหมือนกันครับ (ถ้าไม่ใช่ว่าชอบเรื่องนั้นแค่เพราะชอบภูมิประเทศในประเทศต่างๆแค่นั้น หรือว่าได้แรงบัลดาลใจแค่ในเฉพาะการท่องเที่ยว(หรือออกไปเผชิญโลก?)ล่ะก็นะ)


(อย่างไรก็ตามดูเหมือนผมจะยังคงต้องใช้พลังใจมากมายเพื่อจบอะไรซักชิ้นนึงในที่นี้  - - แต่ก็เอาน่ะ ผมอาจไม่ได้มีพรสวรรค์หรือความมุ่งมั่นอันน่าทึ่งเหมือนทรัมโบ แต่ก็...ไปเรื่อยๆไปก่อนละกันครับ เนาะครับทรัมโบ)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น