วันอาทิตย์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

[ภาพยนตร์] THE WITCH เดอะ วิทช์ : แม่มดในป่ามืด?...


ถ้าให้พูดถึง THE WITCH โดยไม่ได้ดูโปสเตอร์หรืออะไรอื่น THE WITCH เป็นหนังในบรรยากาศของเรื่องเล่าโบราณ ความลึกลับ ความมืด การเอาชีวิตรอด และความโดดเดี่ยว

สิ่งที่เห็นในตัวอย่างหนังถือเป็นบรรยากาศที่ได้จากในตัวหนัง ซึ่งเนื้อเรื่องอาจไม่ได้สร้างน้ำหนักครอบคลุมเท่ากับบรรยากาศของหนัง ความกดดันที่ส่งมาถึงคนดูจึงมาจากบรรยากาศของหนังมากกว่าจะมาจากเรื่องราวหรือเนื้อเรื่องของมันโดยตรง

หนังจึงไม่เหมาะกับการดูแบบไม่ปะติดปะต่อเท่ากับการดูต่อเนื่องและรับเอาบรรยากาศจากหนังโดยตรง หลังจากเรื่องราวเริ่มขึ้นเราก็ค่อยๆรับรู้เรื่องราวไปทีละอย่าง แม้ว่ามันอาจไม่ชัดเจน แต่มันก็ค่อยๆเพิ่มความน่าขนลุกให้กับหนัง มากขึ้น มากขึ้น และมากขึ้น... ผ่านเหตุการณ์และเรื่องราวของแต่ละคน และแม้ส่วนตัวจะรู้สึกว่าจะอยากให้หนังจบก่อนช่วงเวลาที่หนังนำเสนอไปจนภาพหายไปจากจอจริงๆ มันก็ยังเป็นประสบการณ์ที่น่าขนลุกอยู่ดี...

เรื่องกล่าวถึงการที่ครอบครัวหนึ่งถูกตัดสินลงโทษจากชุมชนด้วยเหตุผิดพระบัญญัติความเชื่อ และมีเหตุให้ต้องระเหเรร่อนออกจากชุมชนไปยังที่รกร้างชายป่าแห่งหนึ่งซึ่งเขาเชื่อว่าพระผู้เป็นเจ้านำเขามาถึงที่นี่ ที่ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไประยะหนึ่ง การลงทุนลงแรงของครอบครัวก็อาจไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่หวัง แล้วในตอนที่เรื่องลึกลับเริ่มจู่โจม เรื่องราวที่คุกคามครอบครัวนี้ก็เริ่มขึ้น

และมันก็เต็มไปด้วยความน่าหวาดหวั่น

อะไรที่เราจะรู้สึกเมื่อเราต้องอยู่โดดเดี่ยวท่ามกลางสิ่งที่เรารู้จักเพียงน้อยนิด? หรือเมื่อเราอยู่ท่ามกลางความมืด?

ในประวัติศาสตร์มนุษย์เราพัฒนาจากการเที่ยวเร่ร่อนล่าสัตว์เก็บพืชผักผลไม้มาเป็นการลงหลักปักฐาน ทำปศุสัตว์และเกษตรกรรม เรายังพัฒนารูปแบบชีวิตและเครื่องอำนวยความสะดวกมากมาย และพัฒนารูปแบบของชุมชนข้นมาเพื่อเกื้อกูลกันในหลายๆด้าน

ชีวิตเช่นนั้นเรียกได้ว่าสร้างความปลอดภัยให้แก่มนุษย์และมั่นคงเพียงพอแล้วหรือไม่?
ในสังคมเมืองที่เต็มไปด้วยแสงไฟจากไฟฟ้า และเสียงรถราวิ่งขวักไขว่ พร้อมร้านสะดวกซื้อ อาจไม่ทำให้เรารู้สึกถึงความโดดเดี่ยวหรือสิ่งคุกคามจากความมืดนัก

แต่มันก็ยังคงมีอยู่

โดยเฉพาะเมื่อย้อนกลับไปในช่วงเวลาที่ต้องพึ่งแสงจากตะเกียงน้ำมัน ต้องลงแรงปลูกพืชผักเลี้ยงสัตว์เอาไว้เพื่อเอานมเอาไข่เอาเนื้อ ไว้เพื่อประทังชีวิต และป่าเต็มไปด้วยความลึกลับ เมื่อหมดแสงอาทิตย์และแสงตะเกียง ป่าก็เต็มไปด้วยความมืด...

แม้มนุษย์อาจสั่งสมความรู้เกี่ยวกับเรื่องรอบตัวไว้ผ่านคำบอกเล่าหรือการจดบันทึกไว้มากขึ้น แต่ป่าก็ยังบังพรางหลายๆอย่างไว้จากสายตาเราอยู่ดี แม้เมื่อเต็มไปด้วยแสงพระอาทิตย์ และมนุษย์คนหนึ่งจะรอบรู้หรือแก้ปัญหาทุกอย่างได้โดยลำพังเชียวหรือ?... แม้ป่าจะเต็มไปด้วยความสดชื่นและชีวิต มันก็เต็มไปด้วยสิ่งที่เราไม่รู้ และสิ่งที่อันตราย สำหรับมนุษย์ซักคน... ถ้าเราเดินเข้าไปในชายป่า และยังเห็นทิศทางที่เราเดินเข้ามา หรือผ่านป่าที่ถูกเหยียบย่ำมานานเป็นทางเดินให้ได้ติดตาม นั่นยังอาจหลงเหลือความมั่นใจไว้ให้เราได้บ้าง แต่ถ้าขณะที่ย่ำเดินหรือหนีอะไรบางอย่างไป เรากลับพบว่าเห็นเพียงต้นไม้ใหญ่น้อยรอบตัว ดูเหมือนไม่มีอะไรบอกทิศทางให้ได้รับรู้ และไม่มีแผนที่ที่มีคนรวบรวมไว้ให้ได้ศึกษา แม้จะยังมีแสงพระอาทิตย์สาดส่อง เราจะรู้สึกอย่างไร? เราจะขอความช่วยเหลือจากที่ไหน? จะอ้อนวอนขอความเมตตาจากใคร?...  ยังไง...เราก็อาจต้องกู่ร้องตะโกนออกไปอยู่ดี...

ในความเงียบ เสียงอะไรที่เราได้ยินจากในป่า?...

ยิ่งเมื่อความมืดคลี่คลุมเราจะทำอย่างไร?...
อำนาจอะไรที่จะคอยช่วยเหลือเราได้? อำนาจอะไรที่จะคอยคุกคามเรา?...

ในเมื่อไม่มีเพื่อนบ้านหรือคนอยู่อาศัยใกล้เคียงในที่นี้เลย? เรารู้ว่าไม่มี... และในที่ที่เราอยู่เพียงไม่กี่คนนี้ ทุกคนดูจะมีหน้าที่ และจุดมุ่งหมายหนึ่งของคนที่อยู่ก็คือการต้องช่วยเหลือกันใช้แรงงานเพื่อหาอาหาร จัดเตรียมที่อยู่ และหาของเพื่อไปค้าขายหรือแลกเปลี่ยนเอาของที่เราจำเป็นมาจากผู้อื่น ซึ่งก็ต้องเป็นของที่มีผู้อื่นต้องการ เมื่อพืชผลถูกฝูงแมลงกิน เกิดโรคที่ไม่รู้จัก หรือแล้งฝน เราจะขอความช่วยเหลือจากที่ไหน? จะอ้อนวอนขอความเมตตาจากใคร?...   ยังไง...เราก็ต้องการความช่วยเหลือจากอะไรซักอย่างอยู่ดี...

สิ่งที่ดีจะช่วยปกป้องเรา และเราควรระวังสิ่งชั่วร้ายไม่ให้มันกรายใกล้มา...

ดังนั้น เราจะสูญเสียสิ่งดีที่จะคอยคุ้มครองอยู่ไปไม่ได้ เราต้องไม่ยอมให้ความชั่วร้ายเข้ามา...

เรารู้ว่ามีสิ่งดีที่คอยช่วยเหลือเราอยู่ แม้คนในชุมชนจะไม่เข้าใจ เขาแต่ละคนเองก็ต้องการสิ่งที่ช่วยเหลือเขาจากสิ่งชั่วร้าย และเขาก็คิดว่าปลอดภัยในการอยู่รวมกัน เขาคิดว่าเขารู้จักสิ่งที่จะช่วยเหลือเขา เขาคิดว่านั้นเป็นสิ่งเดียวกับที่ตกทอดคำบอกเล่ามาจากบรรพบุรุษ เขาคิดว่าเข้าใจ แต่ที่จริงแล้วเขาไม่เข้าใจ พระผู้เป็นเจ้าของเขาเป็นเพียงพระผู้เป็นเจ้าของชุมชน เขาไม่ยอมรับคนนอก เขาไม่เข้าใจ...

แต่เรารู้ว่าท่านอยู่ที่นี่ ดังนั้น...ได้โปรดช่วยเราด้วย...

จากสิ่งไม่ดีไม่งาม จากสิ่งชั่วร้าย ที่สถิตย์อยู่ในความมืด ที่เราไม่สามารถมองเห็น เราไม่เห็นอะไรเลย...

...แต่มันกำลังมา

ช่วยเราด้วย...

เขย่าประสาท 8.5 คะแนน





...คุณยังคงเห็นความมืดมิดหรือรู้สึกโดดเดี่ยวในเมืองที่เต็มไปด้วยแสงไฟไหม?...


...มันกำลังมา...




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น