วันศุกร์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2559

[ภาพยนตร์] OUR KIND OF TRAITOR แผนซ้อนอาชญากรเหนือโลก : บัญญัติการเป็นทุรยศ


แบบสั้นๆ
หนังสไตล์รหัสคดี จากนิยายของ จอห์น เลอคาร์ ที่มีหลายเรื่องเคยถูกดัดแปลงเป็นหนังหรือซีรี่ส์มาแล้ว สไตล์ของหนังและเรื่องราวอาจจะเน้นไปที่ เนื้อเรื่อง มากกว่าความตูมตาม และในช่วงเริ่มแม้จะได้นักแสดงระดับหัวแถวอย่าง ยวน แม็กเกรเกอร์ และ นาโอมิ แฮร์ริส ก็แปลกที่รู้สึกว่าไม่ค่อยรู้สึกว่าทั้งคู่เป็นอย่างที่ตัวละครเป็น ครู กับ ทนาย มากเท่าไหร่? แต่ สเตนเลน สการ์การ์ด ได้บทที่เข้ากับบุคลิกของเขาอีกครั้งซึ่งก็แสดงเป็นสมาชิกกลุ่มมาเฟียที่ว่องไวไม่อยู่นิ่งได้อย่างน่าสนุก เหมาะสมดี

แม้หนังเรื่องนี้อาจไม่ได้มีบรรยากาศโดดเด่น และตัวละครที่มีการแสดงและการควบคุมบรรยากาศได้เท่ขาดใจ อย่าง จอร์จ สไมลี่ย์ ของ แกรี่ โอลด์แมน ใน Tinker Tailor Soldier Spy ที่เข้ามาฉายในบ้านเราหลายปีก่อน ชนิดที่ขนาดดูหนังแล้วเรื่องซับซ้อนซ่อนเงื่อนปะติดปะต่อเรื่องราวยากมากจนหลับ (จริง...) ซึ่งบางคนก็ว่าเพราะซับฯด้วยที่แปลมาสับสน แต่เราก็ยังคิดว่า สไมลี่ย์ โคดเท่ได้หน้าตาเฉย (เรียกว่า คาแรคเตอร์กินขาดหนังทั้งเรื่อง... อย่างน้อยก็สำหรับผม เพราะ...หลับ ตอนนี้ยังไม่ได้หามาดูซ้ำเลย... - - ได้ชิงออสการ์เลยนะขอบอก - บทภาพยนตร์ดัดแปลงก็ได้ชิงฮะ (อีกอันที่ชิงคือดนตรีประกอบ)) แต่เมื่อผ่านช่วงแรกของหนังที่ชวนระทึก ก่อนบรรยากาศจะผ่อนและเนิบนาบลงไปสู่กลุ่มตัวละครเดินเรื่องที่กำลังพยายามจัดการปัญหาของพวกเขา เมื่อเรื่องราวย้อมเข้าสู่เรื่องของแผนการที่คัดง้างกันระหว่างจุดประสงค์และความต้องการของตัวละครหลายกลุ่มแล้ว เรื่องราวก็เข้มข้นและน่าสนใจขึ้น และการแสดงของนักแสดงก็แบกรับและสวมไปกับเรื่องราวได้ดี ไปจนตอนจบที่ชวนสะท้อนใจ และชอบการคุมบรรยากาศในหลายฉากของหนังช่วงนี้ทีเดียว

เรื่องราวยังแสดงให้ถึง 'การเป็นส่วนหนึ่ง' ของอะไรบางอย่าง เช่น พันธสัญญาระหว่างคน หรือระหว่างรัฐ หรือระหว่างกลุ่ม ระหว่างชาติ ได้อย่างน่าสนใจตามชื่อเรื่อง ว่า 'การหักหลัง' นั้นมองได้จากมุมใดหรือจากอะไร อะไรเป็นเหตุซึ่งจะนำไปสู่การเป็น หรือถูกตราหนาว่า คนทรยศ ได้บ้าง โดยเฉพาะในการใช้ชีวิตในโลกซึ่งมีเส้นแบ่งสถานะหลายอย่างหลายชั้น พันธสัญญาอะไรที่จะยึดโยงเราไว้กับสถานะนั้นบ้าง? และมันจะถูกทำลายภายใต้เงื่อนไขหรือสถานการณ์แวดล้อมแบบไหน? แม้ไม่ได้ถ่ายทอดมาลึกหรือเด่นชนิดแทงใจ แต่เรื่องราวส่วนนี้ก็ยังนับว่าน่าสนใจอยู่ดี

ด้วยเรื่องราวที่น่าสนใจ ในแบบของ จอห์น เลอคาร์ ที่ถูกถายทอดมา ยังคงทำให้หนังมีความเข้มข้นผสมโดยเฉพาะในช่วงที่เรื่องเดินเครื่องแรงขึ้น แม้ไม่ได้มีความตูมตามเป็นส่วนประกอบ การแสดงมีดีพอจะสวมกับเนื้อเรื่อง และความกดดันของหนัง ไปจนตอนจบ ซึ่งเป็นตอนจบที่น่าสะท้อนใจทีเดียว... แม้ไม่ถึงขั้นสมบูรณ์แบบ หรือเป็นหนังที่โดดเด่นมาก แต่ภาพรวมของหนัง เป็นหนังในแนวทางของรหัสคดี ที่มีปมให้ติดตามลุ้น ได้อย่างสนุกอยู่ในขั้นน่าพอใจ 7.7 คะแนน แฟนๆหนังแนวนี้ ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าจะดูกันได้อย่างน่าพอใจครับ


แบบยาวๆ

ดูก่อนเนาะ... เพราะมีประเด็นน่าขยายความอยู่เหมือนกัน...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น