วันอังคารที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2559

[ภาพยนตร์, สารคดี] WHERE TO INVADE NEXT - บุกให้แหลก แหกตาดูโลก!! : นี่แหกตาตรูรึเปล่า?!! แต่สนุกเป็นบ้า!! และคิดถึง ไมเคิล มัวร์!!!



ไมเคิล มัวร์ เป็นนักทำหนังสารคดีที่ชอบทำสารคดีด่าบ้านเกิดอเมริกา มีหลายคนกล่าวว่าสารคดีของเขาไม่เป็นกลาง (ซึ่งต้องเป็นกลางไหม? หรือกลางจริงๆคือแค่ไหน? แปลว่าออกความเห็นไม่ได้เลยไหม?  - อันนั้นก็ไปว่ากันอีกทีนะครับ) แต่ก็มีอีกหลายคนบอกว่าสารคดีของเขานั้นสนุกมาก แตกต่างจากลีลาของสารคดีทั่วไป 

เขายังมีหลายอย่างที่ควรทราบ(และเท่าที่ผมทราบ) เช่น 

เขาเคยทำสารคดีได้ออสการ์ เรื่อง Bowling for Columbine ซึ่งเป็นเรื่องของการสังหารหมู่ในโรงเรียนมัธยมโคลัมไบน์โดยนักเรียนถือปืนสองคน ลีลาการเล่าของ ไมเคิล มัวร์ ยังทำให้เราตกใจ ตกตะลึง และหลุดหัวเราะขำในหลายเรื่องซึ่งเกี่ยวกับ ปืน ในอเมริกา แต่เมื่อมาถึงภาพจากกล้องวงจรปิดในโรงเรียน มันก็ยังถูกปล่อยให้เราได้สัมผัสกับความความกลัวและน่าเศร้า... ชนิดที่ความขำจากลีลาของ ไมเคิล มัวร์ ในช่วงก่อนก็ไม่สามารถกลบได้

เขาเคยทำสารคดีที่ได้ตังค์เกินร้อยล้านเหรียญในอเมริกา คือ Fahrenheit 9/11 (และยังพานักแสดงในวงการเมืองอเมริกาที่เล่น(?)เป็น 'ตัวจริง' ในสารคดีเรื่องนี้เข้าชิง Razzies Award (ในไทยมีคนแปลว่าราซเบอรี่เน่า) อีกด้วย และชนะไปหลายคนอีกต่างหาก ลองค้นดูข้อมูลหนุกๆกันเอาเองนะ

แถม Fahrenheit 9/11 ยังเคยมาฉายโรงบ้านเราด้วยนะ 

หนังสารคดีของ ไมเคิล มัวร์ อย่างที่ว่าถึงจะด่าอเมริกา ก็ไม่ได้สักแต่ด่าอย่างไร้เหตุผล (แบบ อีบ้า ไรงี้...) มันจึงมักมีประเด็นซีเรียสแฝงอยู่เสมอ ขณะเดียวกันเขาก็มักเล่ามันออกมาด้วยลีลาตลกร้ายเสมอๆ ทำให้มันดูสนุกมีเอเนอจี้ และบางครั้งเราอาจหัวเราะทั้งน้ำตาหรือหัวเราะไปแล้วกลับมานั่งเคาะหัวตัวเองว่าจริงๆแล้วมันตลกเหรอวะ? (เช่น ฉาก เลือกนิ้วไหนดี ในสารคดีระบบประกันสุขภาพของอเมริกาใน Sicko) และเขาก็มักเอาตัวเองมาเล่าสารคดีอยู่เสมอ ใครอยากรู้ว่า ไมเคิล มัวร์ คือใคร หน้าตาแบบไหนฟระ จึงดูได้จากโปสเตอร์เลย WHERE TO INVADE NEXT  นี่ก็มี ชายท้วมๆ(?)ใส่แว่นกลางโปสเตอร์น่ะแหละ แต่รวมๆเราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันทำให้เราดูสารคดีไปได้ตลอดอย่างมีเอเนอจี้ แถมบางฉากยังทำให้เราจำฝังใจได้อีก
มาถึง WHERE TO INVADE NEXT  ความจริง...นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่ดูแล้วดองไว้นานมาก อย่างที่บอกไปในตอนเขียนถึง Sing Street (คือจริงๆดูก่อน Sing Street อีก...) อืม,...

และความจริง สารคดีเรื่องนี้ก็สร้างชื่อไว้ในบ้านเราเยอะแยะแล้ว มีคนสรรเสริญไปก็เยอะแยะ นี่ฉายมาสองเดือนแล้วก็ยังฉายอยู่ นานกว่าหนังบล๊อกบัสเตอร์ซะอีก คือ เลยจะบอกว่าเรื่องที่มีคนสรรเสรฺิญให้ลองเอาชื่อหนังไป search กันเองละกันนะครับ เพราะมีคนสรรเสริญไปเยอะแล้ว ต่อให้ผมไม่ได้อ่านหมดก็คงเห็นด้วยกับความเห็นส่วนใหญ่อยู่แหละ (นี่เล่นแบบนี้เลยนะ)

คือ...บางทีที่ชอบมากๆหน่อย เราจะนึกนาน นึกไปนึกมาไม่ได้เขียนซักที รู้อีกที เฮ้ย ไม่ทันแล้ว (คือบางทีก็ไม่มีเวลาจริงๆ) แต่อันไหนที่มีคนเขียนชมไว้เยอะแล้วก็ดีไป เราก็จะได้มุมมองหลากหลาย (เหรอ?!) 

เอาเป็นว่า ก็เขียนไว้นิดหน่อยก่อนละกัน ดังนี้ครับ

- ดูเรื่องนี้แล้ว จะได้เปิดหูเปิดตาตามคอนเซ็ปท์ชื่อ (ที่ล้ออเมริกาว่าชอบ บุกไปยึด โน่นนี่ชาวบ้านเขา??...) ว่าอะไรที่เป็นนโยบายหรือสวัสดิการดีๆที่ที่อื่นมี แต่ที่เราไม่เห็นมี เราจะไปยึดมันมาให้หมด!!! เพราะงั้นคุณจะได้ไปเจอเรื่องราวเหลือเชื่อมากมาย เช่น วันหยุดงานมากมาย(กว่าที่บ้านเรามีวันหยุดชดเชยโน่นนี่รวมกัน)  อาหารหรูในโรงเรียนและเด็กมองเหยียด(คิดเองเออเอง! นี่สบประมาทนะ!)โค้ก (เฮ้ย! แต่เรายังต้องเอาไว้กินกับไก่ย่าง ส้มตำ ไก่ทอด พิซซ่า มันฝรั่งทอดนะ! - ที่นั่นเด็กเขาก็ไม่กินแบบนี้ครับ) นักเรียนถามว่าการบ้านคืออะไร เรือนจำที่มีคลิปโปรโมทประกอบเพลงชวนฝัน ฯลฯ พอก่อน ดูเองสนุกกว่าแน่  ที่จะบอกคือ... ดูเรื่องนี้จบผมคิดหลายตลบเลยครับว่า นี่เราถูกหลอกรึเปล่าวะ?? อะไรมันจะดู...ได้ขนาดนี้ (บางทีไม่รู้จะใช้คำว่าอะไรดี) จะบอกว่าดูหนังดูสารคดีแล้วย้อนดูตัวก็ไม่ถนัด เพราะ... เพราะ... เฮ้ย นี่เราถูกหลอกรึเปล่าาาา???? 

นี่คิดแบบนี้จริงๆ แต่ก็คิดว่าเขาคงไม่โกหกแหกตาซึ่งหน้าเราขนาดนี้หรอกมัง หนังก็ออกฉายหลายประเทศ ถ้ามันจะโม้ไปบ้าง มันก็ยังต้องมีเรื่องที่จริงล่ะวะ 

- อีกเรื่องคือ อย่างที่บอกว่ามันเป็นหนังที่ดูสนุกมากกกกก เพราะลีลาการเล่า และความกวนของ ไมเคิล มัวร์ ที่ยากนักจะหาคนทำหนังที่แบบจะสาระด้วย จะขำด้วย จะกวนตีนด้วย จะด่ามันด้วย แล้วมันจะสนุกได้ขนาดนี้ เลยรู้สึกว่า เฮ้ คิดถึงไมเคิล มัวร์ เหมือนกันนะเนี่ย ไม่ไดู้ตั้งนาน ทำให้นึกอยากว่าถ้าไม่ไปขุดหนังเก่าของเฮียมาดู ก็อยากไปหาเรื่องอื่นๆที่ยังไม่ได้ดูมาดูซะหน่อย (เช่น Capitalism: A Love Story ที่ก็มี DVD ออกในบ้านเรานะเออ) 

เพราะถึง ไมเคิล นัวร์ จะมาด่าบ้านเกิดและด่าอย่างสนุกสนานกวนสุดแสบอีกต่างหาก เขาก็ไม่ได้สักแต่ด่าไร้สาระไม่มีประเด็นนะ จะหาคนทำสารคดีลีลาแบบนี้ก็ไม่ใช่จะง่ายนะครับ

และเมื่อมันมาฉายโรงในบ้านเรา และยังยืนโรงฉายไม่ยอมแพ้หนังแอ็คชั่นทุนสูงหน้าไหน (1โรงใน กทม. 1 โรงในเชียงใหม่ - ถ้าจำไม่ผิด - ตอนนี้เหลือแต่ กทม.)  แถมยังเป็นแนวดูหนังยิ่งกว่าละครแล้วย้อนมาดู...ของตัวเรา ทั้งยังเป็นสารคดีที่สนุกมาก (ยืนยันได้จากการยืนโรงฉายนานมากอีกทาง) ใครกลัวว่าสารคดีจะสนุกได้ไงขอให้ลืมไปก่อนแล้วลองเข้าไปลองดูดีกว่า คุณอาจจะเปลี่ยนความคิดที่มีต่อสารคดีไปเลยก็ได้! แม้ว่า...ใช่ใครเขาจะทำสารคดีแบบนี้ออกมาได้ก็เถอะนะ...

แด่ความรู้เปิดหูเปิดตาดั่งถูกแหกตา สนุกสนานบันเทิงอย่างไม่น่าเชื่อ (สนุกกว่าหนังส่วนใหญ่หลายเรื่องซะอีก) และความคิดถึง ไมเคิล มัวร์ เอาไปเลย 8.6 คะแนน (ถูกหลอกรึเปล่าก็ช่าง เอาไว้ก่อน...)

ยังมีรอบที่ SF Central World นะครับ ลองเช็คกันดู 



นึกถึง

ช่วงหลังๆ สารคดีก็มีมาฉายให้ดูกันมากขึ้น ทั้งไทยและเทศ และเจ้าที่เอาสารคดีเข้ามาฉายในบ้านเราอย่างต่อเนื่อง ก็คือ Documentary Club ที่เอาเรื่องนี้ และ IRIS เข้ามาฉาย และยังมีสารคดี หลากหลายเรื่องราว หลากหลายรสชาติ (และผมยังได้ไปดูมาจำนานหลายเรื่อง ซึ่ง...ก็ดองจะเขียนถึงไว้หลายเรื่องเท่าจำนวนนั้นแหละ...) ซึ่งแม้อาจไม่ได้ฉายหลายโรงนักกระทั่งใน กทม. (กระทั่งต่างจังหวัดยังทีจัดโหวต ระดมเงินล่วงหน้า เพื่อติดต่อเอาบางเรื่องไปฉาย จู่ๆนึกได้ว่า Sing Street ที่ไม่ใช่สารคดี ก็มีอีเว้นท์แบบนี้นี่นา) ซึ่งก็พยายามจัดฉายในที่ที่พอจะมีศักยภาพและพยายามยืนโรงฉายให้นานที่สุดเท่าที่ปริมาณคนดูจะเอิ้ออำนวยแล้ว เพราะงั้นใครสนใจสารคดี ลองติดตามข่าวสารได้ที่ facebook ของ Documentary Club นะครับ


จริงๆ หนังสารคดีที่ดูสนุกก็มีเยอะเหมือนกัน และสารคดีซึ่งเอาเรื่องจริงมาถ่ายทอด หลายครั้งก็ส่งผลสะเทือนให้เกิดการพูดคุย ถกเถียง เปลี่ยนแปลง ได้จริงๆ เหมือนกัน สารคดีหลายเรื่องของ ไมเคิล มัวร์ก็ก่อให้เกิดผลแบบนั้น เรืองที่นึกเร็วๆแล้วนึกถึงก็เช่น Super Size Me (มีเคยออก DVD ในบ้านเราด้วย) เอาเป็นว่า... จะขอเก็บไว้เขียนอีกซักหัวข้อก็แล้วกัน... 

(ดองตามเคย...) 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น